“แต้ว ณฐพร” บำบัดสุขภาพด้วยการเที่ยว จัดทริปอังกฤษเพราะไปทำงานและดูบอล แจงดรามาทิ้งแม่ไปเที่ยวกับแฟน มันมีปัจจัยที่ทำให้ไปด้วยไม่ได้ ไม่รู้เจตนาโจมตีไหม แต่ถ้าเป็นห่วงก็ขอบคุณที่เตือน แฮปปี้รัก 3 ปี ยังไม่ขออินเทรนด์ถูกเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ไม่อยากเร่งขอปล่อยไปตามธรรมชาติ พร้อมเมื่อไหร่ก็แต่ง
หลังหักโหมกับงานหนักมาก จนร่างกายรับไม่ไหว ช่วงนี้นางเอกสาว “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” ก็เลยขอกลับมาใส่ใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น โดยมีหวานใจ “ไฮโซณัย ประณัย พรประภา” คอยเป็นกำลังใจสำคัญ อย่างล่าสุดก็พาไปบำบัดความเครียด ด้วยการไปดูฟุตบอลทีมโปรด ในทริปอังกฤษที่ต้องบินไปทำงานด้วยกันอยู่แล้ว แต่งานนี้เหมือนจะมีงานเข้า เพราะสาวแต้วโดนคอมเมนต์แรง ว่าทิ้งแม่ไปเที่ยวกับแฟนซะงั้น
“เป็นสิค่ะ เขาเป็นกำลังใจสำคัญมากๆ ค่ะ เขาก็ช่วยรับฟังปัญหาความเครียด ถ้าเราคิดมาก มีอะไรก็แชร์ปรึกษากันได้ พาไปบำบัดโดยการเที่ยวก็มีค่ะ ที่ไปอังกฤษมาอันนั้นก็เป็นทริปที่ไปทำงานด้วย แล้วพอดีแพลนไปดูบอลด้วย ไปหลายโอกาสในทริปเดียว ทริปนั้นดีค่ะ แฮปปี้ เป็นทริปที่เรารู้สึกว่าเราได้ทำงานด้วย แล้วไปในช่วงที่อากาศดีมาก ปกติจะไม่ค่อยชอบลอนดอนขนาดนั้น อากาศมันขมุกขมัว แต่ว่าไปตอนนั้นอากาศดีมากเลย ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ไปในช่วงนั้นพอดีค่ะ”
ไม่ใช่ทริปไปฉลองครบรอบ 3 ปี เพราะฉลองกันตั้งแต่ที่ไทยแล้ว
“ฉลองตั้งแต่ที่เมืองไทยแล้วค่ะ ชอบทำอาหารอยู่แล้วค่ะ ก็เลยถือโอกาสได้แสดงฝีมือหน่อยค่ะ 3 ปีแล้วก็ดีค่ะ ยังเรียนรู้กันเรื่อยๆ ตลอดค่ะ ก็ยังหวานได้อยู่ 4-5 ก็ยังหวานได้ 2 1 ก็หวานอยู่”
ของขวัญไม่มี มีแค่เขียนการ์ด ว่าพร้อมจะซัปพอร์ตกันและกัน
“เป็นความหวังดีให้กันและกัน หรือเปล่านะ ก็มีนิดๆ หน่อยๆ เขียนการ์ด เป็นการบอกว่าเราพร้อมจะซัปพอร์ตกันและกันค่ะ”
ความรัก 3 ปีเป็นการเรียนรู้กัน มีทั้งวันที่ดีและไม่ดีปนกันไป
“เป็นการเรียนรู้ที่ทำให้เราโตขึ้น ทุกคนที่เห็นในอินสตาแกรมอาจจะดูว่าหวาน สวีต แต่มันก็มีวันที่ดีและไม่ดี แต่แต้วเรียนรู้ว่าจะอยู่ในจุดไหนของกันและกัน ก็เรียนรู้กันวันต่อวัน”
ขอบคุณคนลุ้นให้มีข่าวดี แต่ไม่อยากเร่ง ปล่อยไปตามธรรมชาติ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
“(ยิ้มเขิน) ขอบคุณที่ลุ้นค่ะ (หัวเราะ) ก็ลุ้นเหมือนกัน ลุ้นว่าชีวิตเราจะไปในทิศทางไหน แต้วไม่อยากไปกำหนดกะเกณฑ์อะไร อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติที่สุดออร์แกนิกมันดีกว่าใส่สารเร่งปุ๋ยอยู่แล้วค่ะ (ระยะเวลาที่คบกันมันมีผลไหม?) ออร์แกนิกไงคะ เราก็เร่งไม่ได้ค่ะ ต้องไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น”
ปัด “ไฮโซณัย” พร้อมแต่งแล้ว เพราะหน้าที่การงานไม่ได้วัดความพร้อม ขึ้นอยู่ที่ใจของคนสองคนมากกว่า
“ดูยังไงคะ (หัวเราะ) แต้วว่าเรื่องนี้มันเซนซิทีฟ มันไม่ใช่แค่หน้าที่การงาน เพราะคนที่พร้อมในเรื่องของหน้าที่การงานมันมีเยอะแยะไปหมด แต่มันเป็นเรื่องของการเข้ากันของคน 2 คน เราคือคำตอบ เราคือความสุข เราจะเติมใจให้กันและกันในทุกวันหรือวันต่อไปหรือเปล่า ซึ่งมันไม่สามารถดูได้จากหน้าที่การงานหรืออะไร มันคือใจของคน 2 คน”
ไม่ได้กลัวเซอร์ไพรส์เลยต้องสวยตลอด แค่คนใช่ เวลาใช่ ไม่ต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่อลังการ
“ไม่ๆ ก็อยากสวยตลอดอยู่แล้ว เรารู้สึกอยากสวย เพราะเราจะได้แฮปปี้ มีแรงตื่นขึ้นมาแต่งตัว มีความสุขกับความเด๊าะแด๊ะของเรา (แต่ยังไม่มีเซ้นต์ว่าเขาจะทำเซอร์ไพรส์ขอเราแต่งงาน?) ไม่ได้คิดอย่างนั้น แต้วแค่แบบโมเมนต์ง่ายๆ ไปลอนดอนตอนเดินสวนไม่ได้ตั้งใจไปถ่ายรูปอะไร แค่เดินผ่านจะไปอีกจุดหนึ่ง พอเรากลับมาดูรูปตอนนั้นรู้สึกว่ามันดูเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก มันไม่ได้ต้องมีอะไรเลย แต่อยู่กับบรรยากาศดีๆ มันก็มีความสุขได้แล้ว ไม่ได้ต้องการอะไรที่พิเศษ คนใช่เวลาใช่ มันไม่ต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่อลังการ”
มีคุยเรื่องนี้บ้าง แต่ไม่ได้จริงจัง ขอเก็บเป็นเรื่องของสองคนดีกว่า
"ไม่ได้คุยขนาดนั้น เป็นหยอดๆ มากกว่า ก็มีคุยๆ อย่างโน้นอย่างนี้ค่ะ เอาเป็นว่าเป็นเรื่องของคนสองคนเนอะ ถามว่าคุยอะไร ก็อยากบอกแต่มันจะไม่งามค่ะ ถ้าสมมุติเขามาคุกเข่าขอเราพร้อมไหม เอ่อ..(หัวเราะ) เอาให้เป็นเรื่องของวันนั้นค่ะตอนนี้ไม่อยากพูด”
ช่วงนี้ดาราขอแต่งงานเยอะ แต่ส่วนตัวยังไม่อยากตามเทรนด์
"เราไม่ตามเทรนด์เท่าไหร่ เราก็มีเทรนด์ของเรา คือมันก็แอบคิดนะ แบบผู้หญิงทุกคนก็คงมีฝันบ้างแหละ แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังจนแบบทำให้วันๆ เราไม่เป็นอันทำอะไร (หัวเราะ) พลังงานเราก็ต้องเอาโฟกัสกับเรื่องอื่น เรื่องดูแลครอบครัว เรื่องหน้าที่การงานเรา วันนี้โปรโมตละครแค้น อะไรแบบนี้ เราก็ต้องใช้พลังงานในส่วนอื่นด้วย ก็ให้มันเป็นภาพที่เราคิดแล้วเรามีความสุข แต่ว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ให้มันเป็นเรื่องของความเป็นจริงไป”
ขอบคุณพ่อแม่ฝ่ายชายให้ความเอ็นดู
“ก็ขอบคุณค่ะ ก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เราอยากซัปพอร์ตความฝันของเขา เราก็หวังว่าเขาจะคิดในแบบเดียวกันค่ะ"
แจงดรามาทริปอังกฤษ หลังคนว่าทิ้งแม่ไปเที่ยวกับแฟน ขอบคุณที่เป็นห่วงแต่ยังกินข้าวกับแม่ทุกวัน
"คืออย่างที่แต้วบอกว่าทริปนี้มันเป็นการทำงาน เพื่อความคล่องตัวมันก็มีปัจจัยอื่นที่ทำให้คุณแม่ไปด้วยไม่ได้ค่ะ ซึ่งก็เป็นเรื่องของที่บ้าน คือเรามีเรื่องที่ต้องมีคนคอยสแตนบายแก้ไขอยู่ ซึ่งก็ขอบคุณที่เป็นห่วง ยังกินข้าวกับคุณแม่ทุกวัน ในโซเชียลก็เป็นแค่ช่องทางหนึ่งที่เราเลือกโมเมนต์ที่จะนำเสนอค่ะ เรายังดูแลซัปพอร์ตกัน โทร.คุยกัน ไม่ได้ห่างหายกันไปไหนค่ะ เป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้เราโตขึ้นด้วยแหละ แต้วก็เข้าใจว่าคนที่คอมเมนต์ อาจจะมองว่าในฐานะที่เราเป็นเด็กคนหนึ่ง เขาก็ยังเป็นห่วงกลัวว่าจะคิดไม่รอบคอบ แต่ว่าทุกอย่างเกิดจากความคิดที่รอบคอบแล้วค่ะ”
ไม่รู้ตั้งใจโจมตีไหม แต่ถ้าเจตนาดีก็ขอบคุณที่เตือนและเป็นห่วง จะคิดหน้าคิดหลังให้มากขึ้น
“ก็คงอย่างนั้นแหละค่ะ คือมนุษย์มันไม่มีทางทำอะไรได้ถูกใจทุกคนอยู่แล้ว มันมีช่องที่เขารู้สึกว่า คือแต้วไม่รู้ว่า intention (เจตนา) ของเขาคือห่วงจริงๆ หรือว่าจะพูดเพื่ออะไร ถ้ามาจากความเป็นห่วงก็ขอบคุณมากๆ ที่เตือนเรา อาจจะทำให้เราคิดหน้าคิดหลังมากขึ้นในการกระทำครั้งต่อไปค่ะ มันก็อยู่ที่เจตนาและการที่เราจะรับมาเพื่อพัฒนาตัวเองค่ะ”
รับมือกับดรามาและคอมเมนต์ลบได้ดีขึ้น แต่ลึกๆ ก็ยังรู้สึกอยู่
“คือเราก็เคยบอกตัวเองว่าเรารับมือได้ แต่ว่าแต้วว่าลึกๆ มันก็ดีฟอยู่ในความรู้สึกของเราว่า เออ โดนเยอะเหมือนกันเนอะ แต่ว่าเราก็มีวิธีการรับมือของเราแหละค่ะ เพราะแต้วรู้สึกว่าแต้วก็ไม่ได้โดนจนหนักหนา ถ้าเทียบกับหลายๆ คน แต้วเชื่อว่าทุกคนก็เจออยู่แล้วไม่มากก็น้อย ทั้งที่เป็นคอมเมนต์เลย หรือลับหลังอะไร มันมีอยู่แล้ว ก็ทำให้เราแข็งแรงขึ้นแหละค่ะ”
