“เต้ย จรินทร์พร” เผยความรักกับ “เจโต” ยังปกติดี ยอมรับทะเลาะกันบ่อย แต่ทำให้มองเห็นกันและกันมากขึ้น ลั่นเปลี่ยนไปเยอะหลังคบฝ่ายชาย เลิกคาดหวัง ให้พื้นที่กันและกัน เอาแค่ปัจจุบันให้ดี พร้อมพ้อหนูห่วยกว่าเขา เดี๋ยวจะปรับปรุง เผยสาเหตุชอบฝ่ายชาย เป็นคนสร้างเนื้อสร้างตัว ชอบสร้างบ้าน ชอบเรื่องเฟอร์นิเจอร์เหมือนกัน
อาจจะเพราะไม่ได้เห็นนางเอกสาวร่างเล็ก “เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ” ลงภาพคู่แฟนหนุ่ม “เจโต ปณิธิ นวสมิตวงศ์” สักเท่าไหร่ ก็เลยมีข่าวเม้าธ์ออกมาว่าเป็นนางเอกร่างเล็กเลิกแฟน ซึ่งสาวเต้ยก็ได้ออกมาปฎิเสธเรื่องนี้ไปแล้ว ว่าไม่ใช่คู่ตนแน่นอน ล่าสุดนางเอกสาวก็ได้มาเปิดมุมความรักแบบจัดเต็มอีกครั้งโดยเปิดให้สัมภาษณ์พิเศษจากละครเรื่อง มาตาลดา ที่ช่อง 3 มาลีนนท์ สาวเต้ยก็ยืนยันอีกครั้งว่าความรักยังปกติดี ถึงแม้จะมีทะเลาะกัน ตีกันบ้างถือเป็นเรื่องปกติ แถมทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นด้วย
“ยังปกติดีอยู่ค่ะ คือคู่เราก็มีความคนละขั้วประมาณหนึ่งเหมือนกันค่ะ แต่เต้ยรู้สึกว่าเอ็นจอยกับการเรียนรู้ คือการที่อยู่กับเขามันค่อนข้างจะได้เรียนรู้ตัวเองกันทั้งคู่ด้วยค่ะ เหมือนเขาได้เรียนรู้ตัวเขา เต้ยได้เรียนรู้ตัวเองด้วย แล้วเอาจริงๆ มันคือการโฟกัสไปในการเติบโตของแต่ละคนมากกว่า เหมือนช่วงวัยที่เราไม่ใช่ช่วงเด็กๆ ที่จะมาอินกับความรัก ไม่สนใจอะไรมากมาย ตอนนี้มันเป็นช่วงอายุของการดำเนินชีวิตพอดี มันเลยต่างคนต่างเรียนรู้กัน ไม่ได้ต้องติดกันมาก แต่มันค่อนข้างดีมากๆ นะคะ
เป็นความรักในช่วงวัยที่เราโตกว่าเดิมด้วยค่ะ เป็นการมองมุมความรักแบบใหม่ แล้วก็รู้สึกว่ามันมีคุณค่าของมันในการที่เราได้เรียนรู้กัน บางอย่างเราคาดหวังในตัวเขามากไปไหม อยากให้เขาเป็นแบบนี้แบบนั้นให้เรา นี่เราไม่ได้รักเขาในแบบที่เขาเป็นเหรอ เราถึงไปคาดหวังเขาอยากให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ ถามว่าเป็นการทะเลาะกับตัวเองไหม เรียกว่าเป็นการมองเห็นตัวเองว่าทำไมเราถึงคิดแบบนี้ แล้วก็ได้เห็นว่า มันเป็นเพราะเราอยากให้เขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้หรือเปล่า มันเป็นอารมณ์ได้กลับมาเรียนรู้ในฝั่งของตัวเองมากกว่า
มันเป็นอารมณ์กับว่าสิ่งที่เขาให้เต้ยมา เป็นสิ่งที่เขาอยากได้ แล้วสิ่งที่เต้ยให้เขาก็เป็นสิ่งที่เต้ยอยากได้จากเขา แต่มันไม่แมตช์กัน ก็เลยเอาใหม่สิ สรุปเธออยากได้อะไร หรือว่าเต้ยอยากได้อะไร ก็คือคุยกันจริงๆ เป็นการปรับจูนค่ะ แล้วตัวเราก็จะให้เขาเหมือนเดิมนี่แหละ แต่เพิ่มในสิ่งที่ถ้าเราให้เขามันจะเติมเต็มเขามากๆ เลย ถ้าเขาให้เรามันจะเติมเต็มเรามากๆ”
บอกยังมีตีกันบ้าง แต่ไม่ได้เลิกกัน เพราะตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว
“คือจะเปิดก็เปิดได้ แต่จะมีบางจุดที่เราอยากจะลงรูปแล้วนะ แล้วก็ตีกัน (หัวเราะ) งั้นเดี๋ยวก่อน รอให้เลิกตีก่อน เดี๋ยวลง หาจังหวะอยู่ พอเลิกตีกันก็เลยไปแล้ว เดี๋ยวรอให้มีช่วงจังหวะอะไรที่เรารู้สึกว่าโอเคเดี๋ยวก็ลงแหละ มันไม่ได้เหมือนสมัยที่เราจะทำอะไรก็ได้ เราเป็นตัวของตัวเอง ก็ที่เงียบๆ ไปตอนนี้โอเคมากแล้วค่ะ ตอนนี้เรียกว่าค่อยๆ ปรับ แล้วก็เข้าใจกันมากขึ้น เราไม่ได้ต้องการอะไร น่าจะลงตัวกันมากขึ้น
จริงๆ เต้ยคบใครเต้ยมองอนาคตตลอดค่ะ เต้ยชอบข้ามสะพานไปก่อน เป็นคนมองไกล คิดไปไกลมาก แต่ ณ วันนี้กลายเป็นว่าไม่ต้องมองไปตรงนั้นแล้ว เอาตรงนี้ให้ดีก่อน เอาทุกวันนี้ให้แฮปปี้ก่อน ก็อยู่กับปัจจุบันเยอะขึ้น แล้วก็น่าจะเพราะโตขึ้นด้วยในเรื่องของชีวิต ซึ่งเขาก็มองแบบเดียวกันนะคะ เขาเป็นคนบอกเรา (หัวเราะ) บอกว่าไม่ต้องคิดไปไกล เอาวันนี้ก่อน (หัวเราะ) คือด้วยการที่เต้ยโตมาด้วยการที่ดูแลคนในบ้าน ต้องมีการวางแผน แล้วพอเขาพูดกลับมาว่าบางทีอยู่ตรงนี้ก่อน เอาตรงนี้ก่อนก็ดี มันก็เบาขึ้นและชิลขึ้นเลยในทันตา แต่มันก็ไม่ง่ายมากนะคะ ต้องอาศัยจังหวะ และอีกคนนึงด้วยว่าเราคุยกันเข้าใจยังไงบ้าง ทุกวันนี้ก็ค่อนข้างที่จะชิลๆ ก็อยู่กับวันนี้ไป
เพราะเราลดความคาดหวังลง เหมือนเรามองเขาในแบบที่เขาเป็นมากขึ้น ไม่ต้องใกล้กันมากเกินไป มีพื้นที่ในการดูแลตัวเอง ทำเรื่องของตัวเองไปด้วย เรียกว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่เฮลท์ตี้ แต่ตอนเด็กยอมรับว่าเป็นมนุษย์ทุ่มเทค่ะ เป็นคนคลั่งรัก (หัวเราะ) แต่ตอนนี้พอโตขึ้นเราก็จริงใจเหมือนเดิมค่ะ มอบความรักและความจริงใจให้เขาเหมือนเดิม เต้ยว่าเหมือนกับเราจัดสรรความเฮลท์ตี้ให้กับตัวเองด้วย มีพื้นที่ให้กับตัวเองด้วย เขาเองก็มีพื้นที่ให้กับเขาด้วย เราก็เป็นเพื่อนคู่คิดเพื่อนช่วยคิดกันไป ก็คิดว่าเป็นความสัมพันธ์ที่โตไปอีกสเต็ปหนึ่งมากกว่า”
เผยตัดสินใจไปเที่ยวทะเลคนเดียวครั้งแรก เป็นการเติมเต็มให้ตัวเองอย่างเต็มที่
“อันนี้เป็นครั้งแรกเลยค่ะ มันเลยทำให้รู้ว่า คนเราชอบไม่เหมือนกัน การที่ไม่ได้ชอบเที่ยวคนเดียว ไม่ได้ชอบมีพื้นที่ของตัวเองมากๆ ก็ไม่ต้องไปเที่ยวคนเดียว มันน่าจะทรมาน แต่สำหรับเต้ย มันทำให้เราได้เติมเต็มตัวเองมากๆ และได้ชาร์จแบตมากๆ เหมือนเราต้องดูแลคนอื่นมามากๆ หรือเราคิดนู่นคิดนี่ แต่พอได้ไปเที่ยวคนเดียว มันเหมือนเราได้เลือกทุกอย่างให้ตัวเองจริงๆ เราได้ดูแลตัวเอง ไม่ต้องรอใคร อยากทำอะไรก็ทำ
แต่ทุกคนก็เป็นห่วง แต่สุดท้ายเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเต้ยเอาตัวรอดได้ ดูแลตัวเองได้ถึงแม้จะตัวเล็กโกะๆ กังๆ บ้างบางที และที่ที่ไปคือไม่เคยไปเลยด้วย (หัวเราะ) ไปเกาะยาวน้อยค่ะ ขึ้นเรือไป แต่เต้ยเคยขึ้นดูเรือออกทะเลอยู่แล้ว แต่อันนี้มันแค่ไปอยู่คนเดียว แต่ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะไม่ไปกับเพื่อนนะคะ ยังไปกับเพื่อนอยู่ค่ะ แต่อันนี้มันเหมือนเป็นช่วงที่เราอยากไปเติมให้ตัวเอง และพี่เขารู้ค่ะ พี่เขาดีใจที่เราไปคนเดียว (หัวเราะ) ตอนนั้นเขาไปถ่ายงานอยู่ที่อินเดีย เราก็เลยไปคนเดียว ซึ่งเขาก็ดีใจที่เราได้ออกจากคอมฟอร์ตโซนเพื่อตัวเอง เราไม่ได้อยู่ด้วยความหวง พวกเราชิลๆ กันมาก”
เผยต้องลุ้นทุกครั้งว่าแฟนหนุ่มจะมีเซอร์ไพรส์ในวันพิเศษไหม
“ก็มีนะคะ เป็นเหมือนเพื่อนๆ กันมากกว่า มีเรื่องอะไรก็เล่าให้กันฟัง แต่ไม่ได้หวานมาก คือเขาก็มีดอกไม้มาแสดงความยินดีตอนละครมาตาลดา แต่เขาไม่ได้มาเอง แอบส่งมาให้ ความหวานในโอกาสพิเศษ เอาจริงๆ หนูลุ้นทุกครั้งเลยว่าจะมีไหม วาเลนไทน์ตอนนั้นลุ้นมาก เขาก็เอามาให้ แต่ถ้าสมมติไม่ได้ ก็ปิ้วเหมือนกันค่ะ ก็คงบอกว่าไม่เป็นไร แต่จริงๆ แล้วเป็น (หัวเราะ) ไม่หรอก คือเต้ยจะเป็นคนพูดตรงๆ ถ้าไม่โอเคก็จะบอกไม่โอเค แต่กลายเป็นว่าเวลาที่เขาเซอร์ไพรส์ เขาคิดแล้วจริงๆ ดอกไม้เขาก็จะดีไซน์มาเอง ว่าดอกไม้นี้เป็นอันนี้ๆ นะ มีความหมาย เขาก็มีความน่ารัก
ตอนนี้หนูก็ยังคลั่งรักนะ รักตัวเองด้วย รักเขาด้วย มันจะได้เป็นความสัมพันธ์ที่กำลังดีเฮลท์ตี้ อยากให้เป็นแบบนี้ หนูมีอะไรให้เขาบ้างไหมเหรอ หนูห่วยมากๆ เลยค่ะ น่าจะห่วยกว่าเขาอีก เดี๋ยวเต้ยจะไปปรับปรุงตัวเองค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็มีให้ค่ะ ส่วนใหญ่จะไปซื้อของที่คิดว่าเขาจะชอบ แต่มันยากตรงที่เขาแฟชั่นจัดกว่าเต้ยไปอีก เขาจะเป็นแนวล้ำๆ บางทีหนูก็คิดว่าซื้อไปแล้วมันจะไม่ล้ำหรือเปล่านะ (หัวเราะ) เขาจะชอบไหมนะ ก็ถามเลยแล้วกัน นอกนั้นก็จะเขียนการ์ดให้ปกติค่ะ”
บอกชอบที่แฟนหนุ่มสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองมาตัังแต่เด็ก
“เต้ยชอบคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเขา จริงๆ เคยเห็นเขามาตั้งแต่ม.ต้นในเว็บบอร์ดสยามสแควร์ ก็คือรู้อยู่แล้วว่าคนนี้ชื่อนี้ แล้วก็เห็นเขาเติบโตมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เขาได้ทำโฆษณาเรื่องแรกที่ฉายทางทีวี เขาก็กำกับเต้ย จริงๆ ลืมไปแล้วด้วย มันนานมากแล้ว และรู้สึกประทับใจตัวเขาที่เขาสร้างตัวเองขึ้นมา ณ วันนี้เหมือนกัน ก็เลยชอบ แล้วพอคุยไปเรื่อยๆ เราก็ไม่ได้อยากไปรู้จักคนอื่นมากไปกว่านี้ เราอยากรู้จักคนนี้ว่าเขาเป็นคนยังไง มีไลฟ์สไตล์ยังไง เห็นเขาเดินป่าแล้วก็สนใจ ชอบ อยากรู้ เหมือนเป็นจังหวะเปิดประตูและลองคุยกับเขา
จุดเริ่มต้นก็น่าจะมาจากช่วงๆ นั้นแหละ แต่ไม่เกี่ยวกับกองละครเลยค่ะ น่าจะเป็นจังหวะที่เหมือนได้กลับมาเจอเขา ได้คุยกันใน DM นิดๆ หน่อยๆ ตอนแรกก็คุยกันเรื่องบ้าน เพราะเขาชอบพวกการสร้างบ้าน ชอบเฟอร์นิเจอร์ ก็เลยรู้สึกว่าดี มีเพื่อนผู้ชายเพิ่มอีกคนนึงแล้วที่คุยเรื่องเดียวกันได้ แต่พอไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ก็เลยคุยกันมาเรื่อยๆ”
บอกช่วงนี้พักเรื่องการดูหมอแล้ว เพราะหันกลับมามองตัวเองมากกว่า
“ช่วงนี้เพลาๆ การถามหมอดูค่ะ ต้องคุยกับตัวเองก่อน ไม่ใช่ไปถามหมอดูอย่างเดียว จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้หนักค่ะ แค่ถามเฉยๆ ว่าคนนี้โอเคไหมคะพี่ หมอดูก็บอกว่าจริงๆ ก็มีคำตอบอยู่แล้ว ไม่ต้องไปถามหลายคนหรอก ทุกอย่างในชีวิตเราก็ไม่ได้ไปพึ่งแต่กับหมอดูเท่านั้น ก็ต้องค่อยๆ ดูไปด้วยตัวเองด้วย”