เชื่อแน่ว่า บรรดาคอกีฬาบาสเกตบอล และคนที่ลุ่มหลงในรองเท้าสนีกเกอร์ คงเคยได้รับรู้เกี่ยวกับ “ดีลประวัติศาสตร์” ระหว่างบริษัทสปอร์ตแวร์อย่างไนกี้ กับ ไมเคิล จอร์แดน ที่ในเวลานั้น กำลังเป็นนักบาสดาวรุ่งระดับมหาวิทยาลัย วัยเพียง 18-19 ปี
อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะรู้แล้วก็ตาม แต่รับรองได้ว่า จะไม่เป็นการสปอยล์ หรือทำให้ดูหนังเรื่อง Air ไม่สนุกแต่อย่างใด เพราะรายละเอียดต่าง ๆ ในหนัง รวมทั้งการเลือกมุมมองในการเล่าเรื่อง ก็ทำให้การดูหนังเรื่องนี้คุ้มค่ากับการให้เวลาในการรับชม
Air หรือชื่อไทย “แผนล่าลายเซ็นยอดตำนาน” มีให้ดูทางสตรีมมิ่ง Prime Video เป็นผลงานการกำกับของ เบน แอฟเฟล็ก ที่ก็ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย โดยเหตุการณ์ในเรื่อง เริ่มต้นขึ้นเมื่อ “ไนกี้” กำลังมองหานักกีฬาบาสเก็ตบอลที่จะมาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์และบุกตีตลาดบาสเก็ตบอลให้ได้ ซึ่งต้องบอกว่า ณ เวลานั้น ไนกี้เองก็ยังไม่ได้ยิ่งใหญ่บนตารางแข่งขันนี้ เพราะยังเป็นรองทั้ง “อดิดาส” และ “คอนเวิร์ส”
เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้น เมื่อ “ซันนี่ วัคคาโร” ผู้บริหารในส่วนของบาสเกตบอลของไนกี้ ตัดสินใจที่จะทำการเซ็นสัญญากับ ไมเคิล จอร์แดน เด็กหนุ่มนักบาสวัย 18 ปี แต่ความตั้งใจนี้ต้องผ่านด่านต่าง ๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่การโน้มน้าวให้หัวหน้าหรือซีอีโอเห็นคล้อยตามด้วย ไปจนถึงด่านหินสุด ๆ อย่างการเจรจากับครอบครัวของไมเคิล จอร์แดน ที่มีแม่ของจอร์แดนที่ทั้งชาญฉลาดรอบคอบและเป็นนักต่อรองระดับตัวแม่คนหนึ่งเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นแล้ว ทางฝ่ายไนกี้ยังต้องคอยเงี่ยหูฟังบรรดาขาใหญ่ในวงการอย่างอะดิดาสกับคอนเวิร์สอีกด้วยว่า จะมีการให้ราคาที่สูงกว่า และเกินกว่าที่ไนกี้จะสู้ได้หรือไม่ ขณะที่เจ้าของลายเซ็นอย่างไมเคิล จอร์แดน ก็ดูจะชอบพอและพึงใจกับสไตล์ของอดิดาสเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ดีลนี้จะเป็นเรื่องที่หลายคนรู้อยู่แล้ว แต่การจัดวางรายละเอียด วิธีการเล่าเรื่องแบบเน้นให้เห็นภาพของ “คนตัวเล็ก” ที่กำลังสู้กับอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ หรือ Underdog ที่แต้มต่อน้อยกว่าและต้องต่อกรกับยักษ์ใหญ่ ก็เป็นความแม่นยำของคนเขียนบทและผู้กำกับสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง เรียกว่ามีความลุ้น เอาใจช่วย เหมือนกำลังนั่งชมนั่งเชียร์กีฬาเลยก็ว่าได้
ขณะที่ในส่วนของนักแสดงก็เป็นแม่เหล็กที่ทำให้เราอยู่กับหนังได้ตลอดรอดฝั่งแบบไม่สะดุด ทั้ง แม็ต เดม่อน ที่รับบทเป็น ซันนี่ วัคคาโร นี่คืองานโชว์การแสดงระดับมืออาชีพของเขาอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่วิโอล่า เดวิส ผู้รับบทเป็นแม่ของไมเคิล จอร์แดน ก็พูดได้ว่าการแสดงครั้งนี้หวังผลได้ในการชิงรางวัลเลยทีเดียว
ว่ากันอย่างถึงที่สุด ถึงแม้ Air จะค่อนไปทางเป็นหนังที่เล่าถึงโลกธุรกิจ แต่กลับเป็นหนังธุรกิจที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาและแรงบันดาลใจ หนังเล่าเรื่องแบบเรียบง่าย และเน้นจุดโดนใจที่ส่งพลังชีวิตให้กับคนดู ในด้านหนึ่ง มันฉายภาพกว้าง ๆ ของความคิดความฝันแบบ American Dream ที่อะไร ๆ ก็สามารถจะ “เป็นไปได้” ในดินแดนเสรีแห่งนี้ ขอเพียงแค่มีหัวใจที่ไม่ยอมแพ้และกล้าเสี่ยงกล้าตัดสินใจ เส้นชัยที่ไนกี้บรรลุ ผ่านความพยายามอย่างยิ่งยวดของซันนี่ วัคคาโร ล้วนสะท้อนถึงแง่มุมนี้ และเป็นแรงพลังที่ส่งต่อถึงคนดูให้รู้สึกประทับใจและมีความหวังในชีวิต
ดังนั้น ถึงแม้จะเป็นเรื่องราวที่หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่ด้วยการเลือกมุมมองในการเล่า ก็ทำให้ผลงานเรื่องนี้อาจจะกล่าวได้ว่า ดูได้ตลอดกาลไม่มีวันตกยุค เพราะไม่ว่ายุคใดสมัยไหน เรื่องของ “แรงบันดาลใจ” ก็ยังเป็นสิ่งที่เติมพลังให้ผู้คนได้เสมอ ๆ
