“โบว์ เบญจวรรณ” เผยภาพ “ก๊อต จิรายุ” อยู่ที่หัวใจ ไม่สามารถลบออกไปได้ บางวันก็โอเค บางวันก็ร้องไห้ ดิ่ง ต้องนั่งสมาธิจัดการอารมณ์ตัวเอง รับไม่เข้าใจเหตุผลที่เลิกร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ้มกระแสตีกลับหลังดรามาคลิปทำอาหาร ลั่นไม่ต้องหาคนผิด หวังเป็นเพื่อนกันได้ ยังสวดมนต์แผ่ความรักให้เสมอ ลั่นไม่ต้องขนของออก เพราะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน
เป็นครั้งแรกที่ออกมาให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ออกรายการแฉแล้วสารภาพว่าเพิ่งถูก “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” ให้ความชัดเจนเรื่องสถานะที่ไม่สามารถไปต่อ จนกลายเป็นกระแสผ่านโลกโซเชียลอยู่ไม่น้อย แต่อยู่ดีๆ กระแสก็ตีกลับ “โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์” ภายหลังมีการขุดคลิปหลายอย่างมาแฉพฤติกรรมสาวโบว์ ที่พูดจาไม่น่ารักกับหนุ่มก๊อต ว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่เลิกกันก็เป็นได้
ล่าสุดในงานเปิด “i-Tail PET CINEMA” โรงภาพยนตร์สำหรับคนรักสุนัขและแมวแห่งแรกในประเทศไทย ณ โรงภาพยนตร์เมกา ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเมกาบางนา เจ้าตัวก็ขอเคลียร์ทุกดรามา
“สภาพจิตใจวันนี้แล้วกัน วันนี้โอเค เราเดย์บายเดย์ บรรยากาศที่นี่ด้วย ทำให้เราได้เห็นสิ่งน่ารักๆ เอ็นดูทุกอย่างไปด้วย เป็นวันที่ดี โอเค ถ้าอยู่คนเดียวก็แล้วแต่วันเหมือนกัน โบว์เป็นคนที่ค่อนข้างยอมรับอารมณ์ตัวเอง ถ้าวันไหนดีก็จะบอกว่าดี โดยเฉพาะเวลาเพื่อนๆ มาถามว่าวันนี้เป็นไงบ้าง ดีก็ดี แต่ถ้าวันไหนนอยด์มากจะโทร.หาเพื่อนให้มาหาหรือจะหากิจกรรมทำ
แต่ช่วงนี้ค่อนข้างอยู่บ้าน โบว์รู้สึกว่าการที่จะจัดการกับอารมณ์ตัวเองหรือความรู้สึกต่างๆ มันค่อนข้างสำคัญ ช่วงนี้ได้นั่งสมาธิเยอะขึ้น ได้อ่านหนังสือเยอะขึ้น ฟังข้อความหรือเปิดฟังอะไรที่มันเจริญสติเรามี่ทำให้รู้สึกว่าต้องจัดการกับมันให้ได้ เพราะฉะนั้นการที่โบว์เอาเอนเนอร์จี้ของโบว์ออกไปข้างนอก อาจจะต้องเอนเตอร์เทนคนโน้น คนนี้ หรือไปเจอคนโน้น คนนี้ มันกลายเป็นว่าเหนื่อย การที่เราอยู่บ้านแล้วจัดการกับอารมณ์ตัวเองเป็นอะไรที่ตอบโจทย์สำหรับโบว์ตอนนี้ แต่ก็มีด้วยความที่เพื่อนๆ เป็นห่วง ก็จะมาบุกบ้านกัน เหมือนเขาก็ใช้ชีวิตของเขาไป เขารู้ว่าเราก็จัดการของเราอยู่ ก็จะฟีลมาปิกนิกแล้วปล่อยให้เราเป็นเราไป
ถามว่าใจกี่เปอร์เซ็นต์ ก็แล้วแต่วัน ต้องเดย์บายเดย์เท่านั้น โบว์ไม่อยากลัดขบวนการหรือไม่อยากบอกว่าโอเคมาก แล้วทุกคนคิดว่าโอเคจริงๆ แต่ในใจคือยังไม่โอเค เพราะฉะนั้นโบว์จะค่อนข้างจริงใจกับความรู้สึกที่เจอ ณ วันนี้”
ยังร้องไห้คนเดียว ดิ่งมากจะนั่งสมาธิจัดการความรู้สึก
“มันมีแหละ (ใช้ธรรมะช่วย?) ใช่ วันไหนดิ่งมากการนั่งสมาธิและพิจารณาต่อความรู้สึก สิ่งนึงที่สำคัญและช่วยได้เยอะคือยอมรับ ยอมรับว่าตอนนี้ไม่โอเค ยอมรับว่าวันนี้ดีขึ้น แล้วอีกอย่างที่โบว์ทำเพิ่ม มีดีเอ็มเข้ามาเยอะเหมือนกันก็แนะนำน้องคนนึงไปว่าปกติโบว์จดบันทึกอยู่แล้วประจำวัน แต่ก็จดความรู้สึกตัวเองเข้าไปเพิ่ม เหมือนไดอารีถึงตัวเอง พอเวลาเรากลับไปดูจะเห็นว่ามีการพัฒนาความรู้สึกนะ บางวันอาจจะดรอปบ้างหรือกลับไปสเต็ป สองสเต็ป มันสามารถดูได้ว่าเราพัฒนาไปตอนไหน จากวันแรกที่เขียนจดถึงวันนี้ เราเห็นว่าพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น”
ตั้งแต่ออกรายการก็ไม่ได้ทักหา ไม่อยากทำให้ใครต้องอึดอัด
“(ส่ายหน้า) ถามว่าทักหาเขาไหม ไม่ทักเลยค่ะ โบว์ไม่ได้อยากทำให้ใครอึดอึด (เขาก็ไมได้ทักมา?) ไม่มีการพูดคุยกัน ภาพโบว์ในโซเชียลตอนนี้เยอะมาก โบว์ว่าจริงๆ ต่อให้ไม่มีภาพพวกนั้นมันอยู่ที่นี่ (จับที่หัวใจ) มันเป็นการสะสมระยะเวลานานมาก โบว์ไม่สามารถที่จะกดลบมันไปได้ ถ้าทำได้มันอาจจะไวขึ้น ดีขึ้น แต่ว่า ณ เวลานี้ก็แค่ยอมรับความจริงว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ แล้วเราก็วันต่อวัน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงเลย เราไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ในสภาวะนี้อีกนานแค่ไหน หรือว่าวันนึงโอเคมากๆ โบว์ไม่รู้เลย เพราะฉะนั้นมันได้แค่ทีละวันๆ จริงๆ ค่ะ”
ลั่นไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์
“โบว์ว่าถ้ามันดีร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็จะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โบว์เอว่าทุกคนมีแบบนี้อยู่แล้ว ต่อให้คบกันแค่ 3-4 เดือน หรือคบกันเป็น 10 - 20 ปี สุดท้ายมันก็ต้องมีบางอย่างที่มันอาจจะกระทบกัน บางสิ่งบางอย่างที่เคยทำ ณ วันนี้มันอาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะมนุษย์เราต้องเข้าใจว่าเปลี่ยนแปลทุกวัน ความต้องการ ความชอบของเราเปลี่ยนแปลงทุกวัน ปีที่แล้วเราอาจจะชอบกินก๋วยเตี๋ยวมาก มาวันนี้จะกินข้าว ไม่กินก๋วยเตี๋ยวแล้ว
มันเป็นไปได้เพราะเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ อะไรที่มันเคยโอเคมันอาจจะ ณ วันนี้ไม่โอเค มันต้องเติบโตจากจุดเก่าไป เพราะฉะนั้นโบว์ว่าจุดๆ นี้มันก็ทำให้โบว์เติบโตไปอีกระดับนึง ทำให้ไตร่ตรองความคิดตัวเองหรือการกระทำหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นกับใครก็แล้วแต่จะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว เราจะมีการคิดมากขึ้น ว่าเราไม่อยากให้ใครรู้สึกไม่ดีกับเรา เพราะฉะนั้นมันคือการตลกผลึกของเราไปด้วย เหมือนเราข้ามไปอีกขั้นนึงว่าเราเป็นเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นได้ บางสิ่งบางอย่างมันต้องเกิดขึ้นเพื่อให้เราเห็นว่ามันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นคือการที่เราเปลี่ยนแปลงหรือการที่เรามีเหตุการณ์อะไรที่มากระทบมันต้องทำให้เราโตขึ้น แล้วโตขึ้นไปในทางที่ดีด้วย”
ไม่เข้าใจเหตุผลที่เขาเปลี่ยนไปร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องหาคนผิดไม่มีใครดีร้อยเปอร์ซ็นต์
“ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พยายามเข้าใจ เพราะทุกคนที่เจอโบว์พยายามทำความเข้าใจกับเขามากๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว เรารู้สึกว่าการที่เราเข้าใจคนนึงจริงๆ เราจะรู้เลยว่าเราต้องรับมือเขายังไงหรือเข้าหาเขายังไง มันเป็นการชีวิตค่ะ (เขาบอกว่ามันเป็นปัญหาที่สะสม เขาเปรียบเป็นตึกมันใช่เหตุผลเดียวกับที่เราคิดไหม?) ไม่พูดแล้วกันค่ะ”
มองไปยิ้มไป กระแสตีกลับเหตุมีคนปล่อยคลิปอาหาร ไม่ได้รู้สึกว่ากระทบ
“(หัวเราะ) เอาจริงๆ ทุกครั้งก่อนถ่ายเราจะมีการพูดคุยกันก่อน และก่อนลงก็จะมีการคุยกัน เช็กกันว่าลงได้ไหม แล้วเหมือนจะนานแล้วด้วย ทุกการลงเราจะไม่ลงอะไรที่ไปกระทบใครอยู่แล้ว เราจะมีการคุยกันก่อน เพราฉะนั้นมันไม่ได้เป็นการแกล้งกัน ก็รู้กันแล้วว่าจะทำ ไม่ว่าคลิปอะไรก็แล้วแต่เราไม่อยากให้มีดรามาเกิดขึ้น ฉะนั้นถ้าเรารู้สึกว่าทั้งคู่หรือกับเพื่อนเองก็เถอะเวลาจะลงคลิปอะไรก็จะถามว่าโอเคไหม ลงได้ไหม มีการพูดคุยอยู่แล้ว แต่ก็เข้าใจ พยายามเข้าใจ โบว์ไม่ได้โกรธหรือเคืองนะ เข้าใจจริงๆ พอไม่ได้มีการลงดีเทลก็อยากจะหาข้อมูลเพิ่ม โบว์เข้าใจตรงนี้เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันกระทบอะไรโบว์มาก ก็มองไปยิ้มไป
บางคอมเมนต์ได้เห็น ในสิ่งที่โบว์รู้สึกนะบางอันที่เรารู้สึกว่าไม่ก็แค่ผ่านไป แต่ถ้าบางอันที่เอ๊ะว่ามีจุดที่เราปรับได้อีก โบว์พยายามเอาคำติมาดูว่าหรือตรงนี้เราอาจจะไม่น่ารัก หรือตรงนี้เราอาจจะปรับให้มันดีขึ้นได้ เพราะว่าเรามนุษย์ที่สามารถพัฒนาได้ตลอดเวลา เราไม่ได้หยุดอยู่กับที่แล้วเราจำเป็นต้องยึดติดว่าเป็นแบบี้จะไม่เปลี่ยนแปลง เราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด พรุ่งนี้อาการโบว์อาจจะดีกว่านี้ก็ได้หรือมก็แย่กว่านี้ก็ได้ มันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา”
น่าจะผิดทั้งคู่ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง
“มันน่าจะทั้งคู่แหละ โบว์คิดว่าน่าจะต้องเป็นทั้งคู่ เพราะตบมือข้างเดียวมันไม่ดังเนาะ มันต้องมีอะไรที่ต่างคนต่างกระทบกันมากกว่า ส่วนที่เคยเลิกกันหลายครั้ง อันนั้นเป็นฟีลทะเลาะกัน (ครั้งนี้หวัง?) ไม่อยากพูดเลย”
ไม่ใจร้ายรั้งเขาเอาไว้ หากไม่แฮปปี้
“จริงๆ มีหลายอย่างที่อยากพูดมาก แต่โบว์ค่อนข้างที่จะเคารพในการตัดสินใจของเขาแล้วก็ให้เกียรติ เพราะรู้สึกว่าใครที่อยู่กับเราแล้วเขาไม่แฮปปี้ โบว์ไม่ได้ใจร้ายเกินไปที่จะต้องรั้งไว้ คุณต้องอยู่ในความทุกข์กับเรา โบว์รู้สึกว่าถ้าเรารักใครมากพอ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่เขาอยู่ในจุดอื่นแล้วแฮปปี้กว่า ถ้าเรารักเขาจริงๆ ก็ต้องไม่เห็นแก่ตัว แล้วเราก็ต้องมาจัดการกับตัวเอง”
เผยสัญญาณทะเลาะ
“จริงๆ ที่ผ่านมาอาจจะเป็นฟีลง๊องแง๊ง เป็นฟีลไม่คุยกัน 2-3 วัน ก็เป็นเหมือนคู่ปกติทั่วไปแหละ เวลาไม่แฮปปี้กับอะไรก็จะพักก่อน หันหลังก่อน ไปตั้งสติก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยกัน แต่ก็ (พยักหน้า)”
ปล่อยเพราะรัก ไม่คาดหวังให้เฮิร์ต
“ต้องปล่อย ในเมื่อมันต้องเป็นแบบนี้ ถามว่าวันหนึ่งอาจมีหวังก็ได้ โบว์ไม่รู้เลย ไม่กล้าจะคอนเฟิร์ม หรือฟันธง เพราะว่าโบว์ไม่รู้จริงๆ แม้กระทั่งเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ค่อนข้างตกใจอยู่เหมือนกัน ก็เลยไม่คาดหวังอะไรแล้ว อะไรมันจะเกิดก็ต้องเป็นไปตามนั้น เพราะเวลาเราไปปักธงอะไรไว้มันเฮิร์ต มันไม่เป็นดั่งใจที่เราต้องการ หรือสิ่งที่เราคิดเอาไว้ แล้วมันเคว้งอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน
พยายามมูฟออน
“โบว์พยายามอยู่ (หัวเราะ) มันนาน เมมโมรี่มันเยอะ อย่างที่บอกโบว์จะค่อยๆ ไป เพราะโบว์ไม่อยากรู้สึกว่า ไม่เอาแล้ว เราสบาย แล้วผ่านไป 2 อาทิตย์ดิ่งกว่าเดิมอีก โบว์กลัวว่ามันจะกลับไปอยู่จุดๆ นั้น เพราะฉะนั้นให้มันเป็น day by day ให้มันเป็นกระบวนการของมันไป บางคนทำได้ไวก็ดีใจกับเขามาก เพราะมันจะฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว แต่ถ้ามันต้องใช้เวลาก็ให้เวลากับมัน เพราะพูดตรงๆ ความรู้สึกนี้ก็ไม่ได้มีมานานมาก พอมาแล้วก็ทำความรู้จักใหม่ เราก็ต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจเขาใหม่ ว่าเราอายุขนาดนี้แล้ว โตขนาดนี้เรามีวิธีในการจัดการกับมันยังไง เราคงไม่ใช้วิธีเดิมๆ ค่ะ ก็ใช้วิธีที่มันโตขึ้น”
ไม่ต้องขนข้าวของ เพราะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน
“โบว์กับเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว เขาอยู่บ้าน โบว์ก็อยู่คอนโดของโบว์”
ไม่รู้สึกแปลกสิ่งที่ก๊อตโพสต์ เพราะเป็นคนคิดหลายชั้น
“เขาเป็นคนอ่านหนังสือเยอะ และเป็นคนคิดหลายชั้น ถ้าใครรู้จักหรือเคยสัมภาษณ์เขา เขาจะไตร่ตรองในทุกๆ อย่างที่พูดออกไป หรือข้อความในอดีตที่เขาเคยลง โบว์ว่ามันก็คือบทสรุปจากที่เขาอ่านหนังสือหรือที่เขาประสบมา ให้คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือได้อ่าน หลายๆ คนก็ได้ตกผลึกจากตรงนั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องดี สำหรับโบว์ไม่ได้รู้สึกว่าแปลกค่ะ ไม่เกี่ยวกับมือที่สาม ไม่เคยระแคะระคาย”
หวังว่าจะเป็นเพื่อนกันได้ สวดมนต์แผ่ความรักให้
“ก็คิดว่าเป็นปัญหาสะสม เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ โบว์คิดว่าบางทีมันไม่จำเป็นต้องหาคำตอบแล้ว ปล่อยให้เวลามันเคลียร์ไป แยกกันไปเติบโต โบว์คิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ เพราะเขาเป็นคนที่ดีและเป็นคนน่ารัก โบว์คิดว่าโบว์ได้เติบโตจากการที่ได้อยู่กับเขา เพราะเขาเป็นคนที่ตั้งใจมุ่งมั่น ทำให้เรามีความพยายามอยากจะพัฒนาตัวเองเช่นกัน ไม่มีความรู้สึกไม่ดี ไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองอะไรก็แล้วแต่ มีแต่ความหวังดีให้ ทุกวันนี้สวดมนต์นั่งสมาธิ โบว์มีแต่แผ่ความรักให้เขา เพราะสุดท้ายแล้วเราก็มีแต่ความหวังดี
เราไม่ได้อยากจะให้เขาจมปลักอยู่กับความรู้สึกอะไรก็แล้วแต่ อยากให้เขามีความสุข เพราะสุดท้ายแล้วเราไม่ได้มีความโกรธเคือง ไม่ได้มีความแค้นอะไร ต่อให้อะไรก็แล้วแต่ไม่ถูกใจเราก็เถอะ แต่ทำให้คนที่เรารักแฮปปี้เราก็ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไรมากมาย”
