xs
xsm
sm
md
lg

“กระแต” ร่ำไห้เปิดใจ เป็นนักร้องดัง มีเงิน แต่ทำไมทอดทิ้งพ่อ ลั่นทำธุรกิจเพราะหนูไม่อยากทำบาป! (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กระแต อาร์สยาม” ร่ำไห้เผยเรื่องครอบครัวที่ไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อน ถูกชาวบ้านนินทา เป็นนักร้องดังทำไมไม่ดูแลพ่อ ลั่นครอบครัวไม่สมบูรณ์ ทำธุรกิจเพราะไม่อยากทำบาป ไม่อยากโกหกแม่ และอยากให้เงินพ่อ ลั่นพ่อก็คือพ่อ แต่ตอนนี้แฮปปี้ มีเงินเดือนให้พ่อกับแม่แล้ว




ไม่บ่อยที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ พ่อแม่แยกทางกัน และไม่มีโอกาสได้ดูแลพ่อจนถูกตราหน้าทิ้งพ่อ อกตัญญู ล่าสุด “กระแต อาร์สยาม”หรือ “แตร บุญยะเลี้ยง” ได้เล่าเรื่องนี้ทั้งน้ำตาในรายการ WOODY พร้อมเผยว่าสาเหตุที่ทำธุรกิจเพราะไม่อยากทำบาป
“ไม่ค่อยพูดถึงเลย น้อยมาก เราเกิดมาจากครอบครัวมีปัญหา ครอบครัวไม่สมบูรณ์ ปกติคุณแม่จะไม่ค่อยให้พูดเรื่องครอบครัว แตคิดว่าเขาอยากให้เรามีความเพอร์เฟกต์ สมบูรณ์ มีครอบครัวที่รักกัน อบอุ่น ด้วยความที่ครอบครัวแม่เขาก็มีปัญหาเหมือนกัน พี่น้องทะเลาะกัน เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ก็อยากให้เรามีครอบครัวที่มีความสุขให้คนเห็นว่าเนี่ยเราสมบูรณ์ แต่จริงๆ ไม่ใช่

หนูไม่เคยพูดเลย หนูอาจฟังแม่มาตลอด เวลาพูดเรื่องคุณพ่อ เขาจะไม่ให้พูด ครอบครัวหนูคุณพ่อคุณแม่แยกทางกันแล้ว เราไม่ได้อยากให้ใครมองครอบครัวเราไม่ดี หรือพ่อแม่พี่น้องไม่ดีนะคะ อยากแค่ให้เห็นว่าแตประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ไม่จำเป็นต้องมีครอบครัวที่เพอร์เฟกต์ อยากให้คนที่มีปัญหาเหมือนเรา สู้เหมือนที่แตเป็นอยู่

หนูขาดความอบอุ่น เพราะตอนเด็กหนูไม่ค่อยได้เจอคุณพ่อคุณแม่ ปัญหาของผู้ใหญ่ทะเลาะกัน ตีกัน ทีวี ตู้เย็นไม่เคยมีเลยที่บ้านเพราะพัง หนูอยู่ท่ามกลางพ่อแม่โยนของใส่กันตลอด เราก็นั่งดู ไม่เคยพูดเลย (เสียงสั่นเครือ)ปกติใครจะด่าจะบูลลี่แต ตะโกนด่าข้างหูไม่เคยเสียใจเลย ฉันจะไม่เสียน้ำตากับพวกนั้นเลย หนูจะเซนซิทีฟกับเรื่องครอบครัวอย่างเดียวกัน

จนมาก 4 คนกินมาม่าซองเดียว
“หนูเป็นคนดื้อเงียบ ไม่พูดตั้งแต่เด็ก ร้องไห้ก็ไม่ร้องให้ที่บ้านเห็น แม่ตีแทบตายเงียบกริ๊บ แต่เปิดประตูเข้าห้องปุ๊บ ร้องไห้เลย แค่รู้สึกว่า ทำไมต้องเป็นแบบนั้น ทำไมต้องเป็นแบบนี้ หนูเกิดมาจากครอบครัวที่ไม่ค่อยมีความรักที่สมบูรณ์เท่าไหร่ แม่ร้องเพลงตอนกลางคืน คาเฟ่สมัยบูมๆ เขาเลิกงานตีสาม ตื่นเช้ามาคุณแม่ก็นอนอยู่ ไม่ได้เจอกันเลยค่ะ ตอนเย็นหนูกลับมาคุณแม่ก็ไปทำงานแล้ว

พ่อก็ไม่อยู่ เพราะพ่อไปเที่ยว (หัวเราะ) หนูอยู่กับพี่กับน้อง โตเอง เรียนรู้เอง โตมาได้ยังไงยังไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) โตมากับอะไรเยอะแยะไปหมดเลย ปิดเทอมถึงได้เจอเขา ไม่ค่อยได้รับความรักอย่างเต็มที่ แต่หนูเข้าใจเขาทำงานเพื่อเรา ลูก 4 คน จนมาก คุณแม่ทำงานคนเดียว แต่เลี้ยง 5-6 ปาก คนหาเช้ากินค่ำยังได้กิน แต่เราบางทีไม่มีข้าวกิน เหลือมาม่าซองเดียวกินกันทั้งบ้าน เอามาม่ามาต้มให้อืดๆ เอาข้าวสวยใส่ไปมันจะได้เยอะๆแล้วมาแบ่งกันกิน บางทีเหลือไข่ฟองเดียวก็ทอดไข่กินสี่พี่น้อง แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ทานนะ เขาบอกกินแล้ว แต่จริงๆ ยังไม่ได้กิน จนมาก”

สงสารพ่อไม่มีเงิน ต้องโกหกแม่
“พ่อแม่แยกทางกัน 10 กว่าปีที่แล้ว มันเหมือนสถาบันครอบครัวไม่แข็งแรงแล้ว มันไม่มีที่ยึด อยากให้พ่อแม่รักกัน อยู่ด้วยกัน แล้วถ่ายรูปมีพ่อแม่พร้อมหน้าพร้อมตา ถ้าสังเกตไอจีหนูจะไม่มีรูปครอบครัวพร้อมหน้า ไม่มีเลย พยายามว่าเฮ้ย ครอบครัวเรามีความสุข เราสมบูรณ์ แต่ไม่ใช่เลย หนูลำบากใจเวลาพ่อแม่เลิกกันเสร็จ หนูก็สงสารคุณพ่อ เพราะคุณพ่อไม่มีเงิน แล้วหนูก็ต้องขอตังค์แม่ หนูโกหกแม่ตลอดว่าจะไปซื้อเครื่องสำอาง แต่โอนไปให้คุณพ่อ เพราะแม่จะไม่ให้พ่อเลย ถ้าแม่รู้คือโดนแน่”

ทำธุรกิจเพราะไม่อยากทำบาป ไม่อยากโกหกแม่ และอยากให้เงินพ่อ
“แม่ก็รู้แล้วตอนนี้ (หัวเราะ) เหตุผลหลายๆ คนเวลาทำธุรกิจคืออยากมีเงิน อยากรวย หนูทำธุรกิจเพราะหนูไม่อยากทำบาป หนูไม่อยากโกหกแม่ หนูอยากมีเงินให้พ่อ เรื่องของเรื่องหนูร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก หนูให้แม่เก็บตังค์ให้ แม่ดูแลทุกบาททุกสตางค์ ร้องเพลงมาเงินให้คุณแม่หมด ไม่เคยมีเงินเก็บเลย ถ้าจะใช้ก็ขอเขาทีนึง แต่พอจะให้พ่อ ไม่ได้ หนูก็ต้องหาเรื่องโกหกว่าวันนี้หนูไปกินข้าวนะ หนูไปซื้อเครื่องสำอางนะ แม่ให้มา 5 พัน หมื่นนึง ก็ให้พ่อ เพราะพ่อไม่มีบ้าน เขาอยู่ตามยถากรรม บางทีหนูกินข้าวอร่อยๆ กินอาหารญี่ปุ่นแพงๆ หนูคิดถึงพ่อตลอด ว่าเขาได้กินอะไรบ้างไหม อยากให้เขาได้กินของดีๆ แบบนี้ (ร้องไห้) ตอนนี้ไม่มีใครดูแลพ่อ สุดท้ายเขาก็คือพ่อ (ร้องไห้)”

ช้ำถูกชาวบ้านนินทาอกตัญญู
“ตอนนี้แม่ดีขึ้นมาก แต่ตอนแรกๆ หนักมาก ตอนนี้แม่ให้พ่อมาเจอหนูบ้าง หลายคนจะชอบพูดว่าทำไมหนูไม่ดูแลพ่อเลย ทิ้งพ่อ ลูกมีเงินเป็นนักร้องดัง ไม่ดูแลพ่อ ชาวบ้านก็จะนินทา เหมือนหนูอกตัญญู แต่หนูไม่มีเงิน ตังค์อยู่ที่แม่หมด จะขอแม่ทีก็ลำบาก หนูเลยบอกว่าอยากมีเงินให้พ่อโดยไม่ต้องโกหกแม่ หรือขอแม่ เลยทำธุรกิจดีกว่า”

ตอนนี้มีเงินเดือนให้พ่อกับแม่แล้ว
ธุรกิจปีนี้เข้าปีที่ 4 แล้ว ตอนนี้มีเงินเดือนให้พ่อ มีเงินเดือนให้แม่ มันดีขึ้นเยอะเลยค่ะ ที่เล่าไป เป็นเรื่องที่ผ่านมา ตอนนี้ดีทุกอย่าง แฮปปี้ บนโลกใบนี้ตอนนี้ไม่มีเรื่องไหนที่ทำให้หนูทุกข์เลย น้อยมากที่จะทำให้หนูเสียน้ำตา มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นคือเรื่องครอบครัว”



กำลังโหลดความคิดเห็น