“หนุ่ม กรรชัย” เกือบร้องไห้บนเวที คว้ารางวัลพิธีกรแห่งปี ไนน์เอ็นเตอร์เทนอวอร์ด บทพิสูจน์จากดาราเป็นพิธีกรที่เคยโดนดูถูก จากมวยวัดสู่สังเวียน ยังต้องพบจิตแพทย์ ขับรถ-ดื่มแชมเปญปลดปล่อยความเครียด ส่วนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่ต้องกินยาแล้ว
เรียกว่าเป็นพิธีกรที่มีกระแสมากที่สุดคนหนึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำหรับ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เจ้าพ่อแห่งรายการโหนกระแส ล่าสุดวันนี้ หน่ม คว้ารางวัล “พิธีกรแห่งปี” จากไนน์เอ็นเตอร์เทนอวอร์ด 2023 ทำเจ้าตัวเผยว่าเกือบร้องไห้บนเวทีเลยทีเดียว
“เอาจริงๆ จะร้องไห้เมื่อกี้ คือขึ้นไปไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้เลย ไปขึ้นมาหลายเวทีก็ขึ้นด้วยความสนุกสนาน พอมาเวทีนี้มันเหมือนกับว่า คือเราเตรียมเนื้อในใจอยู่แล้ว ว่าวันนี้เราจะพูดจะขอบคุณใครบ้าง แต่ตอนนั่งอยู่ก็มีหน้าอาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา ขึ้นมา ตอนเขามีโชว์อยู่ ก็รู้สึกว่านี่เรามานั่งอยู่ตรงจุดที่ไม่มีบุคคลเหล่านี้อยู่แล้วหรือ ซึ่งแต่ละท่านผมร่วมงานมาหมดแล้ว ที่อยู่ในวงการบันเทิง เล่นละครเล่นหนัง พอขึ้นไปก็รู้สึกจุกๆ แล้วเราไม่เคยพูดถึงพี่ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา เลย ไม่เคยขอบคุณเขาเวทีไหนๆ เลย เราขอบคุณช่อง 3 เราขอบคุณคนนั้นคนนี้ แต่เราไม่เคยขอบคุณคนที่เขาชวนเรามาเป็นพิธีกรเลย ก็เลยถือโอกาสวันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ขอบคุณพี่ไก่
ส่วนที่ถูกบูลลี่จากดารามาเป็นพิธีกร แต่สุดท้ายก็มีวันนี้แล้ว มันเป็นธรรมดา ทุกคนมองความเฉพาะด้าน ความเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป ของผมเองก็อยากจะเป็นตัวแทนของความตั้งใจ อยากให้น้องๆ คนอื่นๆ รู้สึกว่าวันนี้ฉันมาในแนวทางนี้ แล้วจะไปแนวทางอื่นไม่ได้ ไม่อยากให้มองแบบนั้น ผมเองเคยถึงขั้นว่า มันไม่ใช่ผู้ประกาศข่าวหรอก มันไม่ใช่สื่อหรอก มันเป็นแค่นักแสดงคนหนึ่ง จนมาถึงวันนี้มันก็พิสูจน์ให้เห็น ว่าความตั้งใจมันสำคัญที่สุด แล้วอีกอย่างหนึ่งปัจจุบันนี้โลกเปิดกว้าง ทุกสิ่งทุกอย่างมันสามารถเปลี่ยนบริบท เปลี่ยนแปลงได้
ทำงานตรงนี้ต้องรับแรงกดดันจากหลายส่วนแน่นอน แต่ละวันต้องเจอกับอะไรไม่รู้ มีทั้งคนที่รักและมีคนที่เกลียด เพราะว่าเวลาทำงาน ยกตัวอย่างรายการโหนกระแส คนที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ เพราะฉะนั้นมันไม่สามารถปฏิเสธได้ ว่าต้องมีไม่พอใจและไม่ชอบเราอยู่แล้ว”
ไม่กดดันตัวเอง แม้แบกความหวังของคนเยอะ
“ถามว่ากดดันตัวเองไหม ไม่ได้กดดันตัวเอง แต่ก็คิดว่ามีส่วนหนึ่ง ที่บางครั้งเราก็แบกความหวังของคนไว้เยอะเหมือนกัน บางคนอยากให้เราทำแบบนี้ ทำไมไม่ทำแบบนี้ ทำแบบนี้ไม่เป็นกลาง ทำไมไม่นำเสนอแบบนี้บ้าง มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะต้องทำยังไงดี สุดท้ายก็คิดบวก ว่าสิ่งที่เขาต่อว่าหรือไม่พอใจเรา เพราะเขาเองคาดหวังกับเรา ก็เป็นอะไรที่เราคิดบวกก็สบายใจ”
ดีใจหากเป็นต้นแบบให้น้องๆ
“โอ้ย ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริงๆ ก็จะดีใจมาก เพราะผมก็อยากให้น้องๆ มาเป็นพิธีกรหรือมาทำข่าวได้เดินมาสู่วงการนี้จะได้มีบุคลากรเพิ่มมากขึ้น”
ขำๆ หมาฉี่ใส่มือถือว่าให้โชค
“เรื่องหมาเหรอ ก็มันฉี่ใส่มือ ก็เลยได้รางวัลนี่ไง ถือว่าให้โชค (เหมือนน้องแสดงความเป็นเจ้าของ?) ก็คือจับๆ เขาอยู่จะย้ายให้เขามาอยู่ในท่าเขาก็ฉี่เลย ฉี่ใส่มือใส่โต๊ะ จังหวะนั้นก็ตกใจทำอะไรไม่ได้มันเป็นรายการสด หมามันจะฉี่ ก็ต้องฉี่ จะไปบอกมันไม่ให้ฉี่ก็คงไม่ได้ ก็เช็ดกันไป ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าบ่อยครับ ทุกรูปแบบที่เจอ ส่วนที่มองว่าคุยกับหมาก็ได้ ทำมาหมดแล้ว ไม่หรอก เขาคงล้อเล่น แต่ก็โอเคนะ ที่บอกว่าเป็นพิธีกรที่คุยกับสัตว์ได้ก็โอเค
ถามว่าโกรธไหมเวลาคนเทียบอะไรแบบนี้ ไม่โกรธนะ เราไม่โกรธนะ เราเองไม่เคยเรียนทางด้านสื่อมวลชนมาเลย มาเป็นมวยวัดแล้วก็ต่อยตรงเป้าบ้างไม่ตรงเป้าบ้าง พอมาวันนี้มาสู่สังเวียนแล้วมันก็จะมีคำสอนซึ่งคำสอนก็คือคำต่อว่าของประชาชนนั่นแหละ ว่าทำแบบนี้ไม่ดีเลย ทำไมทำแบบนี้ เราก็แค่หยิบเอาสิ่งที่เขาว่ามาปรับปรุง เราไม่เคยรู้สึกว่าคนที่ด่าให้เราเสียใจ เราจะเก็บมาแล้วเป็นแรงผลักดันมากกว่า”
เผยมีปัญหาสุขภาพจิต ต้องพบจิตแพทย์ ดื่มแชมเปญแก้เครียด
“เป็นนะ ก็ทุกวันนี้ต้องคุยกับจิตแพทย์เหมือนกัน เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องระบายออกไปบ้าง (กลัวไหมว่าจะสะสม?) กลัว เพราะทีแรกคิดว่าเราเก่ง เราแกะได้ สัมภาษณ์ไปก็ผ่านไป แต่พอเอาเข้าจริงๆ หมอบอกว่าไม่ใช่นะ ทุกอย่างที่สัมภาษณ์มา คนนั้นใช้วิธีนี้ยิงคน เผาบ้าน ฆ่ากัน ตบตี เอาน้ำกรดสาดหน้า มันจะฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา แล้ววันหนึ่งเราอาจจะไม่เคยด่า ไม่เคยรู้สึกว่าทำแบบนี้ วันหนึ่งถ้าคุณโกรธมากๆ มันจะไปหยิบจิตใต้สำนึกนี้ ที่เราเก็บไว้ในลิ้นชักออกมาใช้ก็ได้
เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องหาแนวทางปล่อยมันออกไป วิธีบำบัดก็คือทำอะไรที่ไม่เคยทำ เช่นเมื่อก่อนเป็นคนไม่ขับรถ นี่ก็ออกไปขับรถกับเพื่อนๆ น้องๆ เมื่อก่อนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เดี๋ยวนี้ก็มีดื่มแชมเปญบ้าง จิบๆ ก็ลองดู คลายเครียด ก็ได้ผลนะ วันนี้เออเครียด ก็คืนนี้ไปจิบและ (หัวเราะ) มันต่างจากละคร อันนี้เป็นเรื่องที่สลัดไม่ได้อยู่แล้ว พอเราสัมภาษณ์มามันจะติดอยู่กับเรา เพียงแต่เราต้องพยายามลืมและเดินไปข้างหน้าให้ได้
เจอหมอเดือนนึงครั้งนึง โทร.คุยอะไรแบบนี้ ส่วนสุขภาพการยังแข็งแรง ยังฟิตดีอยู่ (หัวเราะ) เรื่องหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ทุกวันนี้ก็ไปเช็ก พยายามดูแลตัวเองจนกระทั่งไม่ผิดจังหวะ ไม่ต้องกินยาแล้ว ก็ปกติ”
ไม่มีของขวัญวันเกิดให้ “เมย์ ปทิดา” อยู่มานาน ไม่มีอะไรแบบนี้
“ไม่มีอะไรเลย เราอยู่กันมานาน ก็ไม่ได้มีเรื่องพวกนั้นอยู่แล้ว”