“ยุ้ย ปัทมวรรณ” ยอมรับห่วงเรื่องสุขภาพ “พ่อรอง” เคยบอกให้หยุด เพราะเดินช้าลง ไม่ค่อยเหมือนเดิมแล้ว แต่พ่อดื้อ ยืนยันตลอดว่าการไปทำงานคือความสุข เผยงานยังตรึม เกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง จำบทแม่นมาก
แม้อายุจะ 77 ปีแล้ว แต่ยังทำงานตลอด สำหรับ “รอง เค้ามูลคดี” ล่าสุดลูกสาวอย่าง “ยุ้ย ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี” ก็ได้เผยในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต The Time Machine ที่ชั้น 21 ตึก GMM ว่าจริงๆ แล้วอยากให้พ่อหยุดทำงาน แต่พ่อมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปทำงานในกองถ่าย
“ทุกอย่างเมื่อเวลาผ่านไปก็อาจจะเข้าสู่ภาวะปกติ เราก็ทำหน้าที่ลูกเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยุ้ยหรือพี่น้องคนอื่นๆ ก็ช่วยดูแลคุณพ่อ ดูแลทุกคน ดูแลกันในครอบครัว ก็กลับมารับงานแล้วค่ะ คุณพ่องานแน่นมาก เคยบอกพ่อหยุดเถอะ เพราะปีนี้คือยุ้ยสังเกตเลยว่าเวลาพ่อเดินช้าลง จะไม่ค่อยเหมือนเดิมแล้ว ก็เลยคุยว่าพ่อลองหยุดไหม พ่อก็บอกว่าถ้าพ่อหยุด พ่ออยู่ไม่ได้นะ คือด้วยความที่พ่อทำงานมาตลอด เข้าวงการมาตั้งแต่อายุน้อย พ่อมีความสุขเวลาออกไปกองถ่าย ได้ไปเจอกับทุกคน ก็เหมือนได้ยิ้มได้หัวเราะได้คุย”
ห่วงมากยังขับรถเอง
“ขับรถเองค่ะ เป็นห่วงมากค่ะ เพราะเวลาคุณพ่อขับรถคือตอนหนุ่มๆ ก็ขับซิ่งมาก ตอนนี้ถ้านั่งไปด้วยก็จะบอกว่าพ่อคะ ใจเย็นๆ คือจะต้องคอยบอกตลอด พ่อจะไม่ชอบให้ใครขับให้ เพราะพ่อรู้ทางเยอะ จะคิดอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าไปทางนี้ตรงไหน แล้วเขาจะคล่องของเขา คือตั้งแต่ยุ้ยขับรถมาก็ยังไม่เคยขับเร็วเท่าพ่อเลยนะคะ (หัวเราะ) แต่เดี๋ยวนี้ก็ลดลงมาเยอะแล้ว เพราะว่าถ้านั่งไปด้วยจะมีเสียงมาตลอดทั้งลูกทั้งหลานเลย พ่อคะๆ 120 แล้วค่ะ พ่อคะ อะไรแบบนี้ (หัวเราะ)
ตอนนี้พ่ออายุ 77 ค่ะ เดี๋ยวนี้มีคนช่วยขับ ก็จะสลับกันไป ลูกหลานสลับกันไปดูค่ะ เพราะหลังๆ ไม่ค่อยไหว ถ้าถ่ายละครเลิกดึกบางทีตาก็จะไม่ค่อยเห็น แต่ว่าคุณรองคืออันดับ 1 เรื่องความดื้ออยู่แล้ว ไม่ว่าจะพูดอะไรไปก็เขาก็จะบอกว่าพ่อทำได้ พ่อสบายมาก (ในสายตาลูก เราก็ห่วง?) ใช่ คือคุณพ่อเนี่ยถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นมา เวลาป่วยก็เหมือนกัน ถ้าไม่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลจริงๆ พูดยังไงก็ไม่ฟัง แล้วก็จะรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงตลอด”
เผยพ่อรองงานตรึม การทำงานคือความสุข
“เยอะนะคะ แต่คุณพ่อเขารับงานเอง เพราะเขาจะรู้ว่าตรงไหนเขาไหวหรือไม่ไหวค่ะ เขาก็จะแบบ 3-4 เรื่อง หรือมากกว่านี้ยุ้ยไม่ทราบเลยค่ะ แต่มีงานตลอดค่ะ อย่างที่บอกว่าอยากจะให้พัก แต่ว่าคุณพ่อไม่ยอม คุณพ่อยืนยันว่าการออกไปทำงานของพ่อคือความสุข แล้วการที่ได้ไปเจอคนได้ไปถ่ายละครคือความสุขของพ่อ เพราะว่าเวลาที่พ่ออยู่บ้านแล้วหลานไม่อยู่พ่อก็จะนั่งหงอยๆ เงียบๆ เหมือนกัน แต่เวลาไปกองถ่ายก็จะคุยก็จะมีความสุขค่ะ
ก็โทร.ไปค่ะเวลาพ่อไปทำงาน ก็บอกตลอดเลย แต่พ่อก็จะชอบบอกว่าไม่ต้อง ไม่ต้องให้ใครมาดู หรือบางทีจะไปถ่ายเรื่องนี้เดี๋ยวให้คนไปด้วยนะ เขาก็จะบอกว่าไม่ต้อง กองนี้ดูแลพ่อดีมากเลย คือทุกคนในกองก็จะน่ารักกับคุณพ่อ”
เกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง จำบทได้แม่นมาก
“บทพ่อจำได้แม่นมากเลย อย่างเคยเล่นละครกับพ่อ แล้วบทพ่อยาวเป็นหน้าเลย พอถ่ายปุ๊บคือเทกเดียวผ่าน ทุกคนก็จะแบบพ่อไปท่องตอนไหน เพราะอยู่บ้านก็ไม่เห็นพ่อท่องบทนะคะ เหมือนคุณพ่อเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ที่จะจำอะไรได้ง่ายๆ ก็อิจฉาเหมือนกันค่ะ”
ไม่เคยคิดเกษียณ
“ไม่เคยค่ะ คุณพ่อไม่คิดที่จะเกษียนแน่นอน เพราะอย่างที่บอกว่าพูดคุยแล้วว่าหยุดเถอะ อยากให้อยู่บ้านพักผ่อน แต่พอเราได้เห็นว่าเวลาอยู่บ้านกับไปทำงาน ไปทำงานแล้วพ่อมีความสุข เวลาอยู่บ้านถ้าอยู่รวมกันคุณพ่อจะมีความสุข แต่มันน้อยมากที่จะได้เวลาชนกันครบทั้งครอบครัว เพราะต่างคนก็ต่างไปทำงาน ถ้าหลานกลับมาจากโรงเรียนก็จะแฮปปี้หน่อย (ยังตามใจหลานเหมือนเดิม?) ยังตามใจเหมือนเดิมค่ะ”
เพิ่งเข้ารพ. กระเปาะในลำไส้แตก เลือดออกเยอะ หมดแรง ช็อก ต้องคอยเช็กตลอด
“คุณพ่อเช็กอยู่ตลอดค่ะ จริงๆ ล่าสุดที่คุณพ่อเข้าโรงพยาบาลก็จะมีเรื่องของกระเปาะในลำไส้แตก แล้วเลือดออกข้างใน เหมือนพอคนเลือดออกเยอะๆ เขาก็หมดแรง เหมือนช็อกไป ก็ต้องคอยไปเช็กตรงนั้นตลอด”