xs
xsm
sm
md
lg

“แซม ยุรนันท์” ภูมิใจ ลูกชายทำงานเซเว่นฯ แต่ในฐานะผู้บริหาร ได้เรียนรู้ชีวิตคนทุกระดับ ไม่บังคับลูกสาว เรียนกฎหมายแต่ออกมาเรียนทำอาหาร (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แซม ยุรนันท์” เผยเหตุผลส่งลูกชายทำงานเซเว่นฯ ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน ลั่นไม่เคยบังคับลูก แม้แต่ลูกสาวที่เรียนกฎหมายเกือบได้เกียรตินิยม แต่ออกมาขอเรียนทำอาหาร ลั่นโพสต์ว่ารับเบี้ยผู้สูงอายุ อย่าให้อายุเป็นตัวกำหนด ถึงเข้าเลข 6 แต่ร่างกายแข็งแรง



กรณีที่ “แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี”เผยคลิปลูกชาย “แมมโบ้ ยุรการ ภมรมนตรี” เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น จนทำแฟนๆ พากันฮือฮา ล่าสุดในงานแถลงข่าว มาม่า presents THE TIME MACHINE CONCERT ที่ Auditorium ชั้น 21 ตึก GMM แซมเผยถึงเรื่องนี้ว่าจริงๆ แล้วลูกชายเป็นผู้บริหารเซเว่นอยู่แล้ว พร้อมเผยสิ่งที่อยากให้เห็นคือลูกไม่ได้ดูถูกงาน งานทุกอย่างมีค่า
“อยู่เซเว่นฝั่งตรงข้ามนี่ครับ ถามว่าน้องอยากหารายได้หรือยังไง เปล่าครับ จริงๆ เป็นผู้บริหารเซเว่นอยู่แล้วครับ เขาก็เรียนรู้ว่าการที่จะไปอยู่ฝ่ายบริหารที่จะต้องทำงานเชิงนโยบาย มันควรจะต้องแอบไปดูตามสาขาด้วย ก็ต้องไปอยู่ทุกกะถึงกะดึกที่เลิกเช้าก็มี จะได้รู้ว่าปัญหาของการทำงานในระดับหน้าร้านมันมีอะไร ทั้งระบบส่งที่บ้านอะไรต่างๆ มันมีอะไรติดขัดบ้าง เพื่อที่จะนำไปสู่การแก้ไข ซึ่งไม่มีใครรู้ มีแค่ผู้จัดการสาขาที่รู้ ตอนแรกมาถึงพนักงานก็งงๆ ว่าคนนี้เป็นใครมาถึงก็มาอยู่ในเคาน์เตอร์ได้เลย กดนั่นกดนี่ผิดบ้างถูกบ้าง ผู้จัดการก็ไม่เห็นว่าอะไร พอต่างชาติมาซื้อเขาก็เห็นว่าพนักงานคนนี้พูดภาษาอังกฤษ สักพักคนจีนมาพนักงานคนนี้ก็พูดภาษาจีนอีก เขาก็เริ่มสงสัยกันว่าเป็นใครวะ (หัวเราะ) อีกวันนึงพ่อมาส่ง เขาก็เลยเข้าใจกัน

แต่สิ่งที่เราอยากให้เห็นก็คืออยากให้รู้ว่างานทุกอย่างมันมีค่าทั้งนั้นเลย อย่าดูถูกงาน ถ้าคนเราไม่ดูถูกงาน ทำงานอะไรทุกคนก็อยู่ได้ ก็อยากให้ทุกคนรู้สึกว่างานมีค่าและภูมิใจในงานที่ตัวเองทำอยากให้คนรู้สึกแค่นั้นเอง เงินทองมันอีกเรื่องนึง มันก็สำคัญนะ แต่เราต้องให้เกียรติงานและผู้ร่วมงานที่เราทำทุกคน อันนี้คือสิ่งที่พยายามจะบอกลูกครับ

ถ้าไอเดียฝึกงานผมเองก็ฝึกมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เราไปทำโรงแรมที่ต่างประเทศ เราไปทำคลินิกโรงพยาบาล ลูกแต่ละคนก็ถูกฝึกมา คือเราจะแอบดูเขาด้วยว่าเขาสนุกกับสิ่งที่เขาทำยังไง และเด็กประมาณ 10 กว่าๆ เขายังไม่รู้หรอกครับว่าเขาจะเดินสายไหนยังไง ถ้าเกิดเราไม่โยนโอกาสไปเรื่อยๆ เขาก็จะไม่รู้
ตอนไปอยู่เมืองนอกก็จับฝึกงานเหมือนกัน เขาก็บอกว่าเขาล้างห้องน้ำได้ ดูดฝุ่นได้ (หัวเราะ) เราก็บอกว่าไม่ได้ต้องการให้เขาทำแบบนั้นหรอก แต่ถ้าเขาทำตั้งแต่ระดับล่างขึ้นไปได้เขาจะสบาย เพราะไม่ต้องมาเกี่ยงงานว่าฉันต้องทำไอ้นี่เท่านั้น ไม่งั้นไม่ทำ ซึ่งถ้าลูกเรารู้สึกอย่างนั้นได้ ผมก็หมดห่วง ตายตาหลับ เพราะเขาเรียนรู้ที่จะอยู่แบบคนธรรมดาได้

ผมเองก็ทำให้เห็นด้วยว่าเราไม่ได้เป็นคนรวยนะลูก แม้เราจะไม่ได้เป็นคนยากจน เราเป็นคนกลางๆ เราขึ้นได้เราก็ลงได้นะ ลูกขับเบนซ์ ขับบีเอ็มไปทำงานไปเรียนได้ ในเวลาเดียวกันก็นั่งรถเมล์ รถไฟฟ้าได้ เพราะพ่อก็นั่ง นั่งเครื่องบินเฟิร์สคลาสพ่อพานั่งก็จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง ในเวลาเดียวกันก็นั่งชั้นธรรมดาได้ เพราะพ่อก็นั่งเช่นกัน”

รับลูกทำได้ดี ภูมิใจไม่ใช่ทำได้ดีเพราะพ่อสั่ง
“ก็ทำได้ดีในระดับนึงที่เราภูมิใจว่าเขาดีด้วยที่ไม่ใช่พ่อสั่ง ถ้าพ่อสั่งก็อีกเรื่องนึง แต่ผมจะเป็นคนไม่ค่อยสั่งนะ มีอะไรก็จะเฝ้าดู เราจะไม่สั่งทุกเรื่อง เพราะถ้าเราสั่งมันก็เป็นแค่ก๊อปปี้ ก็ให้เขาคิดเอง เพราะบางทีที่พ่อสั่งก็อาจจะไม่ถูกก็ได้ เราก็เป็นพ่อที่พยายามฟังและส่งเขาไปในสิ่งที่เขาน่าจะทำได้ดีที่สุด และเพิ่มให้มันดีขึ้น”

ลั่นไม่บังคับทั้งลูกชายและลูกสาว ที่อยู่ดีๆ เรียนกฎหมาย กำลังจะได้เกียรตินิยม แต่อยากออกไปทำกับข้าว ไปเรียนที่ฝรั่งเศส
“ถ้าไม่อยากทำเขาก็จะบอกเลยว่าไม่ทำ ก็ไม่ได้บังคับ ทั้งลูกชาย ลูกสาวเลยครับ ลูกสาวก็เหมือนกัน เรียนกฎหมายอยู่ดีๆ เกือบได้เกียรตินิยมแล้วด้วย จบ 3 ปีด้วย อยู่ๆ ก็อยากไปทำกับข้าว อยากไปเรียนฝรั่งเศส ก็บอกลูกว่าถ้าลูกมันเปลี่ยนเส้นทาง ชีวิตมันเปลี่ยนเลยนะ แต่พ่อจะไม่ห้ามนะ เขาก็ไปเรียนฝรั่งเศสคนเดียว แต่ก็ถามเขาว่าถ้าจบมาแล้วลูกจะทำอะไร จะเป็นคำตอบสุดท้ายว่าให้ไปหรือไม่ให้ เขาบอกว่าจบแล้วลูกก็จะมาหาประสบการณ์ ทำงานกับคนเก่งๆ ไปเรื่อยๆ ถ้าอย่างนั้นก็ให้ไป

เขาก็ถามว่าแล้วยังไงถึงจะไม่ให้ไป ผมก็บอกว่าถ้าลูกจบแล้ว ลูกจะมาเปิดร้าน แล้วทำอาหารเลย อันนั้นพ่อไม่ให้ทำ ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อนะ เพราะคนทำอาหารเก่งไม่ได้หมายความว่าจะทำร้านอาหารเก่งด้วย มันคนละสกิลกัน การทำธุรกิจต้องเก่งธุรกิจ การทำอาหารเก่งคือทำอาหารเก่ง สองอย่างรวมกันไม่ได้นะ แต่ถ้าบอกว่ากลับมาแล้วจะสั่งสมประสบการณ์ เพื่อจะเปิดร้านในอนาคตก็ให้ไป”

ฝ่ายบุคคลโทร.มาขอบคุณ ทำให้ภาพลักษณ์คนทำงานภูมิใจ ไม่เลือกงานก็จะไม่ตกงาน
“คนก็บ่นเหมือนกันว่าข้ามมาจากแกรมมี่ไม่มีแล้ว เพราะเขาทำแค่ไม่กี่วันครับ ทำแค่เพื่อการเรียนรู้ แต่ฝ่ายบุคคลเซเว่นโทร.มาขอบคุณนะ เขาบอกว่าทำให้ภาพลักษณ์ของคนที่มาทำงานภูมิใจในงานที่เขาทำ เพราะคนที่มีชื่อเสียงยังอุตส่าห์ส่งลูกมาทำงานที่นี่ และองค์กรเขาก็ทำให้เห็นว่าคนไทยงานมีเยอะแยะ ถ้าเราไม่เลือกงาน เราไม่ตกงานครับ และขอให้มีความสุขกับงานที่เราทำแค่นั้น แมสเซจที่่ผมอยากสื่อมีแค่นี้เลยครับ”

ลูกชายมีความสุข
“เขามีความสุข เข้าเวร 4 ทุ่ม 3 ทุ่มครึ่งพ่อก็ขับรถมาส่ง แต่เช้ากลับเองนะลูก พ่อไม่ตื่น (หัวเราะ) ส่วนที่โซเชียลบอกว่าพนักงานหล่อบอกต่อด้วย ก็พ่อหล่อแหละ (หัวเราะ)”

ดี๊ด๊าขึ้นคอนเสิร์ตอีกครั้งในรอบ 30 ปี ได้ร้องเพลงที่ไม่ติดลิขสิทธิ์
จริงๆ ผมห่างเวทีคอนเสิร์ตไปเกือบ 30 ปีแล้วครับ เพราะตอนที่ผมหยุดร้องเพลงอัลบั้มสุดท้าย เป็นอัลบั้มที่ 14 แล้วกับ 4 ค่าย ก็พอแล้ว เพราะว่าภรรยาท้อง รู้สึกว่าไม่อยากไปไหน ไม่อยากทิ้งเขาก็เลยหยุดร้องเพลงไปเกือบ 30 ปี ไม่เคยขึ้นคอนเสิร์ตเลย แต่เมื่อต้นปีเพิ่งจัดคอนเสิร์ตใหญ่ไป มีคนดู 2,500 คนมั้ง อันนั้นตื่นเต้น เพราะต้องทำอะไรเยอะมากเลย ร้องเพลงอะไรก็ไม่ได้สักเพลง เพราะติดลิขสิทธิ์ (หัวเราะ) ก็ดีครับ เมืองไทยก็จะมีเรื่องของการอย่าไปล้ำเส้นใคร อย่าละเมิดลิขสิทธิ์ใคร แต่ตอนนี้ร้องได้แล้ว ขอไปแล้วทุกเพลง ความตื่นเต้นครั้งนั้นมันหมดไปแล้ว ครั้งนี้ก็เลยพร้อมมาก (ยิ้ม)”

แจงโพสต์ว่ารับเบี้ยผู้สูงอายุแล้ว แต่หลายคนไม่เชื่ออายุเข้าเลข 6 บอกอย่าให้อายุเป็นตัวกำหนด
“ก็แค่จะพูดว่า 60 แล้วไงล่ะ (ยิ้ม) เราอยากให้คนที่อายุ 6 หรือ 6 กว่าอย่าเอาอายุมันเป็นตัวกำหนดว่าอายุมันทำให้เราทำอะไรไม่ได้ อายุ 60 หมายถึงว่าสายตาต้องสั้น ต้องยาวแล้วเหรอ แว่นผมก็ไม่ได้ใส่นะ ยังคงมีผมให้หวีเพลงกระโดดก็เต้นได้อยู่ ฉะนั้นอย่าไปกลัวคำว่าอายุเป็นตัวกำหนด เมื่อก่อน 60 คนบอกว่าต้องเกษียณ แต่เรารู้สึกว่า 60 แล้วเราภูมิใจได้ไปทำบัตรใหม่ ได้รับเบี้ยยังชีพ 600 บาทแล้ว เราอย่าไปรู้สึกว่า 60 แล้วเราจะไม่ไหว อย่าเอาตัวนี้เป็นตัวกำหนด

ก็จะเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าอย่าไปยึดติดกับอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ข้างในเรามีความสุข คิดบวก เดี๋ยวนี้มีโลกโซเชียล มีอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็จะเล่าให้ฟัง เพราะประสบการณ์ที่เราเดินไปทุกย่างก้าว ยิ่งอายุเยอะ ทุกโมเมนต์มันมีความสุข ความสุขมันหาได้กับทุกสถานการณ์เลย อยู่ที่ว่าเราจะเลือกหยิบอะไรและสื่อสารอะไรออกไปครับ”







กำลังโหลดความคิดเห็น