“ฉอด สายทิพย์-เอส วรฤทธิ์” เผยหันมาทำซีรีส์วายครั้งแรก เพราะเป็นนิยายที่คนอ่านกว่า 700 ล้านวิว ยังคงความแซบตามแบบฉบับของ CHANGE2561 เหมือนเดิม แต่เพิ่มความเข้มข้นเข้าไปอีก บอกไม่หวั่นเรื่องคู่แข่ง เพราะถือว่าเป็นการแข่งเพื่อพัฒนาซีรีส์วายขึ้นไปอีกขั้น หวังอยากให้น้องๆ นักแสดงนำทั้ง 12 คนได้เป็นนักแสดงมืออาชีพที่เข้ามาประดับในวงการบันเทิง
ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ CHANGE2561 ที่นำโดย “ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” และ “เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย” หันมาจับซีรีส์วายอย่างเต็มตัว และทำการเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย ในงาน PIT BABE SOFT FAN MEETING : Get ready to go! ณ ลาน Hall FL.5 Siam Paragon โดยสองผู้บริหารใหญ่ได้เผยว่าที่หันมาทำเรื่องนี้ เพราะเป็นซีรีส์ที่คนนิยมอ่านกว่า 700 ล้านวิว และมีคนอยากให้ทำซีรีส์แนวนี้มาตลอดอยู่แล้ว
ฉอด สายทิพย์ : “สำหรับโปรเจกต์ Pit Babe The Series เป็นซีรีส์บอยเลิฟเรื่องแรกของเรา CHANGE2561 ก็เอามาจากนิยายออนไลน์ ซึ่งมีคนอ่านประมาณ 700 ล้านวิว เราก็เลยตัดสินใจเลือกเรื่องนี้มา แล้วก็มีเด็กๆ 12 คนเป็นนักแสดงนำค่ะ จริงๆ แล้วมีหลายคนบอกว่าอยากให้ฉอดกับเอสทำบอยเลิฟมาตลอดอยู่แล้วค่ะ แต่เราก็ยังรู้สึกว่าไม่ถึงเวลา และพอมีคนแนะนำเรื่องนี้มาให้อ่าน พออ่านแล้วก็รู้สึกประทับใจมากและอยากทำ ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นค่ะ”
เอส : “สำหรับน้องๆ ทั้ง 12 คน จริงๆ แล้ว CHANGE2561 จะมีอาร์ติสต์เมเนจเมนต์อยู่แล้วครับ น้องๆ บางคนก็จะเป็นน้องๆ ที่รู้จักกันมาก่อน แต่หลังจากที่ตั้งใจทำโปรเจกต์นี้ก็มีการออดิชั่น ประกาศอย่างเป็นทางการออกไป ก็จะมีน้องๆ เยอะแยะเลย มาเป็นพันเลย”
ฉอด สายทิพย์ : “ทั้งที่เป็นเด็กใหม่และเด็กที่เรามีอยู่แล้ว”
เอส : “ใช่ครับ น้องๆ ที่เป็นเด็กเก่าก็ต้องลงสนามจริง ทำแคสติ้งใหม่หมด ออดิชั่นใหม่หมดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาครับ และประกาศจนเหลือ 12 คน ก็จะเป็นนักแสดงนำครับ”
บอกถึงเป็นซีรีส์แนวบอยเลิฟ แต่ก็ยังคงความแซบเหมือนเดิมตามสไตล์แน่นอน
ฉอด สายทิพย์ : “บอยเลิฟก็แซบนะคะ (หัวเราะ) เราก็ไม่ทิ้งความแซบนะคะ”
เอส : “คือบางคนอาจจะเคยอ่าน Pit Babe มา ก็จะเห็นว่ามีเอ็นซีนเยอะ ก็ยังคงต้องมีอยู่บ้าง (หัวเราะ) ต้องรอดู ถามว่าเอ็นซีนเสมือนจริงหรือเล่นจริง เราสนับสนุนให้น้องทำการแสดงด้วยตัวเอง ก็เล่นจริง เล่นให้เสมือนจริง”
ไม่กดดันที่มีตลาดซีรีส์วายเยอะ มองว่าเป็นการพัฒนาขึ้นไปมากกว่า
เอส : “อย่างที่พี่ฉอดพูดไปนะครับว่าจริงๆ แล้วบริษัท CHANGE2561 เองก็ทำละครมาเยอะ แต่ลักษณะของบอยเลิฟหรือซีรีส์วายก็มีคนทักกันเข้ามาเยอะ จริงๆ ตลาดนี้บูมมาก และบูมในไทยมาหลายปีแล้ว จนถึงตอนนี้ซีรีส์วายของไทยไปทั่วโลกแล้ว เป็นคอนเทนต์หลักและเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ดีด้วย เราก็อยากทำนะ แต่ก่อนหน้านี้เราอาจจะยังไม่เจออะไรที่มีความเป็นเรา ตรงกับเรา จนมาอ่านนิยายเรื่องนี้ รู้สึกว่ามันน่าทำจริงๆ เชื่อว่าคนที่เคยอ่านไปแล้ว ถ้าไม่ดีจริงหรือไม่สนุกจริงๆ คงไม่ถึง 700 ล้านวิวครับ”
ฉอด สายทิพย์ : “กับการที่มีคนทำอะไรสักอย่างนึงเยอะๆ เรากลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีที่มีโอกาสที่น่าตื่นเต้น ยิ่งการมีคนทำเยอะ ไม่อยากเรียกว่าเป็นคู่แข่ง แต่พอมีคนเข้ามาทำงานตรงไหนเยอะๆ เรารู้สึกว่าตรงนั้นได้รับการพัฒนา คำว่าแข่งขันจริงๆ แล้วมันเป็นการสู้กันด้วยการพัฒนาทำให้มันดีขึ้นไป ฉะนั้นคำที่เราพูดกันอยู่เสมอ คำว่าซอฟต์พาวเวอร์ก็ยังต้องการการสนับสนุน ต้องการการตั้งใจทำงานที่ดีอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้จำกัดว่าแค่นั้นแค่นี้ ต้องบอกว่าเราก็ไม่ได้ทิ้งการเป็นลายมือของ CHANGE2561 นะคะในแง่ของความเข้มข้น ก็คงเป็นซีรีส์วายที่เป็นซีรีส์วายที่เขาเป็นกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเข้มข้นมากขึ้นด้วย”
เผยอยากปั้นน้องๆ นักแสดงทั้ง 12 คนให้เป็นนักแสดงมืออาชีพประดับวงการ
เอส : “ถ้าย้อนกลับไปต้องมองว่ามันไม่ใช่แค่การสร้างซีรีส์วายขึ้นมาหนึ่งเรื่อง แต่จริงๆ แล้วเราคุยกันกับน้องๆ ทุกคนคือเรากำลังอยากจะสร้างอาชีพ สร้างนักแสดงในวงการนี้ขึ้นมา เราอยากให้เขาเป็นนักแสดงมืออาชีพจริงๆ ทั้ง 12 คน ส่วนแต่ละคนทำได้มากได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเอง ฉะนั้นสิ่งที่พวกเราตั้งใจก็คือทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดกับสิ่งที่ทุกคนจะได้รับ”
ฉอด สายทิพย์ : “Pit Babe The Series คงเป็นแค่จุดเริ่มต้นของ 12 คนนี้ ส่วนจากนี้ไปเขาจะไปถึงไหน และจะไปได้ดีขนาดไหน ทุกคนก็ต้องพิสูจน์ตัวเองกันต่อไปค่ะ ก็ต้องฝาก 2 อย่างนะคะ นอกจากจะฝาก Pit Babe The Series ที่จะออนแอร์ทางช่อง One31 ในช่วงปลายปีนี้ ตอนนี้เรากำลังเริ่มงานกันอย่างเข้มข้นแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ฝากน้องๆ นักแสดงนำของเรื่องนี้ทั้ง 12 คนด้วย มีทั้งหน้าใหม่เอี่ยมเลย และอาจจะมีบางหน้าที่พอจะเคยเห็นกันบ้าง หรือผ่านผลงานมาบ้างแล้ว ก็มารวมตัวกันในเรื่องนี้
ความตั้งใจของ CHANGE2561 นั้น เราอยากสร้างทีมนักแสดง เราอยากสร้างนักแสดงที่มีคุณภาพ และเป็นเด็กดีด้วย เพราะฉะนั้นเราจะมีการอบรมบ่มนิสัยกันค่อนข้างแรง ค่อนข้างหนักมากๆ เพราะอยากให้เขาเป็นมืออาชีพจริงๆ หมายถึงในแง่ของหน้าที่ความรับผิดชอบ ความตรงต่อเวลา นิสัยอะไรหลายๆ อย่าง เราฝันว่าอยากให้ทั้ง 12 คนเป็นอย่างนั้น แต่สุดท้ายแล้ว เขาจะเป็นได้แค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเขาแต่ละคนด้วย”