xs
xsm
sm
md
lg

ผู้บริหารค่าย EXP ควง “ทนายนิด้า” มาตามนัดศาล ด้าน “ทนายตั้ม” ไม่กังวล บอกผ่านคดีหมิ่นประมาทมาเยอะ (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังค่าย EXP Entertainment ได้ฟ้อง “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ในคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่เจ้าตัวได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ร่วมกับ “พอร์ส นรากร อิสระวรางกูล” นักร้องนำวง Yes Indeed เพื่อขอยกเลิกสัญญากับทางค่าย เหตุเพราะมองว่าสัญญาไม่เป็นธรรม จนทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดกับทางบริษัท

ล่าสุดวันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. “ท็อป วงศพัทธ์ รติพัชรพรกุล” ผู้บริหารบริษัท เอ็กซ์พีเรียนซ์ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ (EXP Entertainment) ในฐานะโจทก์ พร้อมกับ “ทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ” รวมถึงคู่กรณี อย่าง “ทนายตั้ม ษิทรา” ในฐานะจำเลย ก็ได้เดินทางมา ณ ศาลจังหวัดนนทบุรี ตามที่ศาลกำหนดนัดเป็นที่เรียบร้อย



โดยทนายนิด้ากับท็อป ได้เผยกับสื่อมวลชน ว่าวันนี้เป็นการนัดจำเลยมารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อไป ยืนยันได้รับความเสียหายจริง เพราะอีกฝ่ายนำข้อความไปโพสต์แขวนในสื่อโซเชียล

ทนายนิด้า : “วันนี้ศาลกำหนดนัด เป็นนัดพร้อมสอบคำให้การจำเลย เพราะว่าในนัดที่แล้ว คือเรายื่นฟ้องคดี เป็นข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นัดที่แล้วไต่สวนมูลฟ้อง ศาลประทับรับฟ้องคดีมีมูล วันนี้ก็จะเป็นนัดของตัวจำเลย หลักการก็คือต้องมารับทราบข้อกล่าวหา แล้วก็จะเป็นกำหนดนัดพิจารณา ที่ศาลจะไถ่ถามตัวจำเลย ว่าคุณจะรับสภาพหรือปฏิเสธตามฟ้องของเรา เพื่อที่จะทราบแนวทางของจำเลย ว่าจะรับไหมหรือจะปฏิเสธ เราจะได้กำหนดวันนักสืบพยานต่อไป คดีนี้เราไม่ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายไป เราฟ้องเป็นหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

ในฐานะทนายความ เราบอกได้แต่แนวโน้ม โอกาสในการแพ้หรือชนะคดี แต่ว่าตั้งแต่ทำงานมา สิ่งที่ไม่เคยได้ยินจากปากทนายนิด้าเลย คือมั่นใจว่าคดีนี้ชนะหรือแพ้แน่นอน เพราะว่าหนึ่งด้วยจรรยาบรรณของทนายความ สองคนที่จะตัดสินว่าคดีนี้มีความผิดหรือไม่ผิดคือศาลเท่านั้น แต่สิ่งที่เรามาฟ้องคดีในวันนี้ เรามีความรู้สึกว่าลูกความเราได้รับเสียหาย เราก็นำข้อเท็จจริงตรงนี้เข้าสู่ศาล เรามองว่าเราได้รับความเสียหาย ศาลเห็นด้วยไหม ถ้าศาลเห็นด้วยศาลก็พิพากษา ให้เขาได้รับโทษจำคุก ถ้าศาลไม่เห็นด้วยก็ยกฟ้องไปดังนั้นถ้าจะให้ทนายนิด้ายืนยันเหมือนคนอื่น ว่าอันนี้ชนะแน่ อันนี้แพ้แน่เราไม่เคยทำค่ะ”

ที่ผ่านมาไม่มีการไกล่เกลี่ย เพราะอีกฝ่ายยืนยันว่าไม่เคยแพ้คดีหมิ่นประมาท
ทนายนิด้า : “ไม่ค่ะ จากที่เราดู เราก็ค่อนข้างที่จะเข้าใจว่าเพราะอะไร เขาถึงไม่ได้อยากไกล่เกลี่ยในตรงนี้ เพราะเขายืนยันมาตลอด ว่าเขาไม่เคยแพ้คดีหมิ่นประมาทซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ในมุมของเรา เรารู้สึกว่าลูกความเราได้รับความเสียหาย สิ่งที่เอาออกมาพูด หนึ่งมันมีข้อเท็จจริงบางประการ ที่เรายอมรับว่ามันเป็นแบบนั้น แต่สิ่งที่เรานำมาฟ้อง มันมีหลายข้อมากๆ ตัวลูกความก็เอาหลักฐานมายืนยัน ว่าหลายสิ่งมันไม่ได้เป็นจริงอย่างที่เขาพูด แล้วถ้าหากมันมีข้อโต้แยงกันโดยหลักทนายความ ก็จะต้องนำคดีขึ้นสู่ศาล ไม่ใช่เอาใครมาพูดมาว่าต่อกันในสื่อโซเชียล แล้วก็ให้โซเชียลลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งค่ะ”

ท็อป ซีอีโอค่าย : “ก็เดี๋ยวรอฟังครับ เพราะตอนที่เกิดเรื่อง มันก็เกิดความเสียหายจริงๆ ครับ ไม่มีอะไรครับ ก็ต้องรอดูว่าศาลว่ายังไง”

ทนายนิด้า : “ไม่กังวลอะไรเลย เพราะในฐานะทนายความ เราคิดว่าเรามีหน้าที่ในการเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกความ ทีนี้เราดูจากพยานหลักฐานแล้ว มันมีหลายส่วนที่จำเลยได้แสดงข่าว ตัวเองก็เคยแถลงข่าวให้กับลูกความ แต่ว่าการที่เราแถลงข่าวนั้น เราจะต้องมีความระมัดระวังมากที่สุด หนึ่งเราก็แก้ตัวให้กับลูกความเราด้วย ไม่ให้ลูกความเราถูกโจมตีหรือเสียหาย แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องไม่เอาเรื่องที่ไม่จริงมาโจมตีอีกฝ่าย ดังนั้นวันนี้ที่เรามาฟ้อง เพราะเรามองว่า สิ่งที่ตัวจำเลยทำมันนอกเหนือกติกานั้น ดังนั้นถามว่าวันนี้เรามีความกังวลใจยังไงไหม เรามั่นใจในข้อเท็จจริงของเรา ว่าข้อเท็จจริงเราสามารถพิสูจน์ให้ศาลเห็นได้ ว่าสิ่งที่เขาพูด มันไม่เป็นความจริง ส่วนเขาจะแพ้หรือคดีคดี ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลต่อไปอีก

ทีนี้ถ้าให้นิด้าประเมินแนวทางในการต่อสู้ของเขา ข้อความเนี่ย นิด้ามองว่าถ้าข้อความมันไม่ผิด ไม่หมิ่นประมาท ไม่เสียหาย…มันไม่ใช่ ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่เอามาฟ้อง แต่สิ่งที่เขาอาจจะไม่ถูกลงโทษ ศาลอาจจะมองว่าเขามีความสุจริตก็ได้ ทีนี้ก็ต้องดูต่อไปว่าสุจริตอย่างไร ตัวเราเองเราก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าศาลพิพากษามาว่าสิ่งที่ตัวจำเลยเขาทำ มันทำแบบนี้ได้ ต่อไปเราจะได้นำไปปรับใช้ ว่าไปทำร้ายคนอื่นแบบนี้ได้เหมือนกันแล้วก็อ้างว่าเรามารักษาประโยชน์ให้กับลูกความ”

ส่วนคดีเกี่ยวกับละเมิดสัญญา อยู่ระหว่างพิจารณา แยกเป็นคนละคดีกัน
ทรายนิด้า : “คดีอันนั้นอยู่ในศาลค่ะ อยู่ระหว่างพิจารณา แยกคนละคดีกันค่ะ อันนี้เป็นเรื่องของการหมิ่นประมาท จริงๆ จะบอกว่าเราเองและทนายคนอื่น เขาก็เคยแถลงข่าวให้กับลูกความคนอื่นเยอะ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีใครที่ถูกฟ้อง เราก็ไม่เคยฟ้องใคร เพราะเขาทำในกรอบที่มันควรจะเป็น แต่อันนี้เรามองว่ามันเกินกรอบที่เขาควรจะทำ”

ถือเป็นการเจอกันครั้งแรกกับจำเลย หลังโดนเอาไปแขวนในโซเชียล
ทนายนิด้า : “ใช่ เจอกันครั้งแรก ถามว่ากังวลไหมก็กังวล เพราะเราไม่อยากทะเลาะกับใคร เราอยากทำงาน อยากให้ทุกคนแยกแยะได้ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง ระหว่างเพื่อนร่วมอาชีพ ก็คือความสัมพันธ์หนึ่ง แต่เราอยากให้ทุกคนแยกแยะได้ ว่าอาชีพที่เราจะต้องทำ เพื่อรักษาประโยชน์ให้ลูกความก็ต้องทำ ส่วนตัวตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่จะฟ้อง ถ้าวันนี้มันเท่านี้ก็โอเคตามนี้ เรารับได้ แต่ว่าอนาคตถ้ามันมีอะไรที่มากไปกว่านี้ แล้วเรารู้สึกว่ามันเกินเลยไปและนอกเกมจนรับไม่ได้ ก็คิดว่าอาจจะต้องเทคแอ็กชั่นอะไรบางอย่าง แต่ ณ วันนี้มันยังไม่มีแบบนั้นค่ะ สุดท้ายในเรื่องของคดีหมิ่นประมาท ศาลจะนัดอีกรอบ เดือนกันยายนค่ะ”

ด้าน “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ก็ได้เผยกับสื่อ ว่าวันนี้มาในฐานะจำเลย แต่ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะผ่านคดีหมิ่นประมาทแบบนี้มาเยอะ พูดออกไปเพราะรักษาผลประโยชน์ของลูกความ ขอให้รอฟังว่าสิ่งที่ทำไปจะผิดหรือไม่ผิด

“วันนี้ก็ถูกฟ้องนะครับ ในเรื่องของการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ก็เป็นบริษัทค่ายเพลง ที่ตอนนั้นผมได้ออกไปแถลงเรื่องน้องพอร์ส เกี่ยวกับเรื่องสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ปรากฎว่าค่ายเพลงมีการฟ้องหมิ่นประมาทมา ศาลไต่สวนไปว่ามีมูล ตอนนี้ชั้นพิจารณาแล้ว ผมมาในฐานะของตัวจำเลย มาปฏิเสธ และมาสรุปแนวทาง ว่าจะมีการสืบพยานกันอีกกี่ปาก โจทก์เท่าไหร่ จำเลยเท่าไหร่ ก็ขอให้รอฟังผลแล้วกัน ว่าสิ่งที่ผมทำเพื่อน้องๆ วง Yes Indeed เนี่ย จะผิดหรือไม่ผิดยังไงครับ

ไม่มีความกังวลใจเลยครับ ผมผ่านคดีหมิ่นประมาทมาเยอะ ก็มั่นใจว่าที่เราออกไปพูด เราออกไปเพื่อจะรักษาผลประโยชน์ให้กับลูกความ แล้วก็เป็นการช่วยกลุ่มเด็ก ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักร้องอยากจะเป็นศิลปิน แต่ว่าถูกจำกัดด้วยค่ายเพลง ที่มีสัญญาอยู่ในตอนนั้น”









กำลังโหลดความคิดเห็น