คนดังจีนจำนวนมากต่างเดินทางไปดูคอนเสิร์ตของวง BLACKPINK ที่จัดขึ้นที่มาเก๊า และกลายเป็นการจุดรประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการคลั่งไคล้ศิลปิน K-Pop ในจีนครั้งใหม่
BLACKPINK เดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตที่มาเก๊า เมื่อคนบันเทิงทั้งที่ฮ่องกง, ไต้หวัน และมาเก๊าเองเดินทางมาชมด้วยมากมาย
ซึ่งนั่นก็รวมถึงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ต่างเดินทางเข้าไปดูคอนเสิร์ตของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้ หลังเคยซื้อตั๋วคอนเสิร์ตฮ่องกงกันอย่างถล่มทลาย จนทำให้ตั๋วผีมีราคาพุ่งกระฉูดมาแล้ว
แต่กลายเป็นว่าการที่คนดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่ลงทุนไปดูคอนเสิร์ต BLACKPINK ถึงที่มาเก๊า กลับสร้างกระแสวิจารณ์อย่างหนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ หลี่ เสี่ยวเผิง ตำนานนักยิมนาสติกจีน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 4 สมัย ได้เปิดเผยว่าตนเองได้พาลูกสาวไปดูคอนเสิร์ต BLACKPINK ที่มาเก๊า จนทำให้เกิดกระแสถกเถียงอย่างรุนแรง
ซึ่งมีชาวเน็ตจีนกลุ่มหนึ่งแสดงความผิดหวังที่คนดังในประเทศลงทุนเดินทางไกลไปถึงมาเก๊าเพื่อดูคอนเสิร์ตของศิลปินจากเกาหลี และหลายคนยังมองว่ารัฐบาลจีนควรจะกดดันด้วยการรื้อฟื้นการ "แบนฮันรยู" (แบนสื่อบันเทิงเกาหลี) อย่างเข้มข้นแบบที่ทำเมื่อหลายปีก่อนกลับขึ้นมาอีกคร้ัง
แต่ดูเหมือนว่าคนจีนจะไม่ได้เห็นไปในทางเดียวกันทั้งหมด เพราะยังมีบางส่วนที่มองว่าการชื่นชอบศิลปินต่างชาติไม่ใช่เรื่องที่ผิด และยังเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่จีนกับต่างชาติจะแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกัน หลายคนยังมองว่าเพื่อนร่วมชาติกำลังโจมตี BLACKPINK และ K-pop อย่างรุนแรงโดยไม่จำเป็น
ส่วนคนที่ต่อต้าน K-Pop ก็ยังตอบโต้ไปอีกว่าพวกเขาคิดว่ากระแส K-Pop กำลังล้างสมองวัยรุ่นชาวจีน และอ้างว่าถึงขั้นมีวัยรุ่นบางคนที่ประกาศว่าตนเอง "คงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มี K-Pop" และพวกเขายังมองว่าประเทศจีนเป็นเพียงแหล่งสูบเงินสำหรับ K-Pop เท่านั้น และวงการบันเทิงเกาหลีใต้ยังปฏิบัติกับไอดอล K-Pop ชาวจีนอย่างไม่ยุติธรรมมาตลอดด้วย
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีกระแสว่าคนดังชาวจีนที่เดินทางไปดูคอนเสิร์ต BLACKPINK ในมาเก๊า หรือต่างประเทศ และพากันโพสต์ออกโซลเชียลมีเดียอย่างเปิดเผยอาจจะถูกทางการ "เชิญไปกินน้ำชา" ซึ่งหมายความถึงการถูกเรียกไปพูดคุยเพื่อชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ เป็นเหมือนการตักเตือนโดนสถานเบา และไม่เป็นทางการ
