xs
xsm
sm
md
lg

“ป๋อ ณัฐวุฒิ” ชีวิตหลังหย่าแก้เคล็ด! ไม่เคยทะเลาะหนัก เห็นข่าวดาราขาเตียงสั่น เคยผ่านมาก่อน ชมเมียงามทั้งภายนอกภายใน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ป๋อ ณัฐวุฒิ” เลิกหวงเมียเซ็กซี่ แถมเป็นคนถ่ายให้ มีคอมเมนต์ชุดก่อน เพราะรุ่นใหญ่แล้วแหวกสูงเกินไปก็ไม่ดี เผยที่มาคลิปยกมือไหว้ “เอ๋” เพราะลืมวันครบรอบแต่งงาน 11 ปี ตอนนี้รู้วิธีเอาใจกันมากขึ้นและให้อภัยกันเร็วขึ้นแล้ว คุยกันตลอดเวลาเห็นข่าวคู่รักขาเตียงสั่นเพราะเคยผ่านมาก่อน ชมเมียงามทั้งภายนอกและภายใน ขอบคุณคอยดูแลครอบครัวอย่างดี

เป็นอีกหนึ่งคู่รักดาราที่ครองรักกันมาอย่างยาวนาน สำหรับคู่ของพระเอกตลอดกาล “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” กับนางร้ายเบอร์หนึ่ง “เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ” ที่เผลอแป๊บเดียวก็ครบรอบแต่งงาน 11 ปีเข้าไปแล้ว แต่เห็นหวานๆ กันแบบนี้ ก็เคยมีอุปสรรคเหมือนกัน เพราะเคยทะเลาะกันหนักถึงขั้นจะเลิก เลยต้องไปเซ็นใบหย่าแก้เคล็ดมาแล้ว ล่าสุดได้มีโอกาสนั่งคุยกับหนุ่มป๋อ ก็เลยขอถามถึงความคลั่งรักเพราะขึ้นชื่อเรื่องหวงภรรยามากเหมือนกัน

“มันเป็นคอนเทนต์ (หัวเราะ) คือเอ๋เนี่ยเขาก็อยากโชว์ไง ผู้หญิงพอความมั่นใจมันกลับมาเขาก็อยากโชว์ เราก็ให้เขาโชว์ไป เพราะที่ผ่านมาก็เห็นความอดทนในการไม่กิน ตั้งใจออกกำลังกายของเขามาตลอด แต่เมื่อก่อนไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าทำไมจะต้องโชว์อะไรอย่างนี้ แต่เดี๋ยวนี้เรารู้สึกว่าถ้าเขามีความมั่นใจและมีความสุขก็ยินดีกับเขาด้วย ไม่หวงแล้ว เมื่อก่อนอาจจะหวงแหละ แล้วยิ่งพอตอนนี้เขาใส่บ่อยๆ เราก็เริ่มชินแล้ว หลังๆ เราเป็นคนถ่ายรูปให้เองด้วย ส่วนเรื่องชุดก็ไม่ค่อยได้สกรีน แต่ส่วนใหญ่เขาจะมาใส่ให้ดูก่อนว่าชุดนี้เป็นยังไง อันไหนได้อันไหนไม่ได้เราก็คอมเมนต์ไป แต่โป๊มากมันจะยิ้มไปก็ไม่ได้ เอากลางๆ เรารุ่นใหญ่แล้วถ้าจะมาแหวกสูงเกินก็ไม่ดีกว่า”

เผยที่มาคลิปยืนยกมือไหว้เมีย ที่แท้คือลืมวันครบรอบแต่งงาน 11 ปี
“(หัวเราะ) คลิปที่ยกมือขอโทษใช่ไหม คือในขณะที่เขาโพสต์คลิปนั้น เขากำลังโกรธเราอยู่เลย วันที่ 18 พ.ค. มันเป็นวันครบแต่งงานของเรา ซึ่งเราลืม แล้วเราก็นั่งดูทีวีอยู่ เอ๋ก็ถามว่าไม่ไปกินข้าวที่ไหนเหรอ เราก็บอกว่าไม่ไปแล้ว เขาก็พูดขึ้นมาว่าแต่วันนี้วันครบรอบนะ เราก็เอ้า! แล้วทำไมไม่บอกล่ะจะได้เตรียมตัว เราก็อาศัยฉีกไปทางโมโหนิดหนึ่งเขาจะได้ตกใจ เขาก็แบบแล้วทำไมต้องพูดแบบนี้ ทำไมต้องมาพูดให้เสียใจด้วย แล้วก็เดินไปเลย มาคุไหมล่ะ หลังจากนั้นเขาก็ไปโพสต์คลิปนี้ที่เราทำท่ายกมือไหว้ แล้วก็บอกว่าทุกครั้งที่โกรธเห็นคลิปนี้แล้วก็จะหายโกรธ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังโกรธอยู่นะ

จำไม่ได้ในคลิปยกมือไหว้ทำไม
“โวยวายอะไรไม่รู้ไม่แน่ใจ คือเอ๋เป็นคนชอบพูดอะไรหวานๆ พูดให้เอาใจ แต่เราชอบขี้บ่น เอ๋เขาก็จะน้อยใจซึ่งน้อยใจทุกวัน แต่วิธีการน้อยใจของเอ๋พัฒนาขึ้นคือเงียบ แต่นี่เราก็โทร.ไปง้อแล้วนะว่าอย่างอนเลย คิดว่าเขาน่าจะดีแล้วนะ (มันเลยดูทำให้เป็นการกระชับรักอยู่ตลอดเวลาไหม?) ดีขึ้นๆ ดีขึ้นในที่นี้หมายความว่าเราเรียนรู้ที่จะเอาใจเขามากขึ้น คือเขาก็พัฒนาขึ้น ความต้องการของเขาก็พัฒนาเพิ่มมากขึ้นไปอีกหลังจากที่เราโอนอ่อนผ่อนตามแล้ว”

ถ้าไม่มี “เอ๋” คอยดูแลคงอยู่ลำบาก เหมือนเป็นส่วนผสมของกันและกัน
“ถ้าเราไม่มีเขาเราคงอยู่ลำบากเหมือนกัน อันนี้พูดจริงๆ เราก็คงจะกินอยู่ลำบากกว่านี้ หรือใช้ชีวิตแบบผู้ชายๆ ไปเลย ง่ายๆ ไปหมดเลย แล้วความง่ายของเรามันก็คือง่ายจริงๆ ง่ายจนแบบผู้หญิงก็คงจะไม่เข้าใจเหมือนกัน แล้วเขาเป็นคนรายละเอียดเยอะ อัดวิตามินให้เราด้วย พาเราไปเสริมหล่อด้วย ร้านหมออะไรนี่เราก็ตามเขาไป เราไม่เคยคิดเองได้หรอก ถึงได้บอกไงว่าทุกวันนี้ เราจะมีการแต่งตัวที่ดูดี หรือว่าสุขภาพเราจะดีอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าไม่มีเขาคอยดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นมันก็เหมือนกับเราเป็นส่วนผสมของกันและกัน”

คุยกันตลอดเวลาเห็นข่าวคู่รักดาราขาเตียงสั่น เพราะเคยถึงขั้นจะเลิก ต้องไปเซ็นใบหย่าแก้เคล็ด
คุยกันตลอดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้นะเอ๋ สิ่งที่เราพูดในวันนี้อีกสามปีข้างหน้ามันอาจจะไม่ใช่อย่างนี้ก็ได้ แต่สิ่งที่จะยึดมั่นตัวเราเอาไว้ได้ก็คือใจเราต้องนิ่งนะ นิ่งในที่นี้หมายความว่าต้องรู้จักให้อภัยกัน คือทุกคนทำสิ่งผิดพลาดได้ตลอดอยู่แล้วในทุกๆ วันเลย บางทีเราก็อาจจะพลาดไปแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่เอ๋เดี๋ยวนี้เขาดีตรงที่เขาเรียนรู้ที่จะให้อภัยเราได้เร็วขึ้น เมื่อก่อนเคยโกรธเป็นเดือนๆ ซึ่งพอได้พูดคุยกันเขาก็เข้าใจว่าวันนึงอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ จริงๆ วิธีการก็คือต้องประคับประคอง

เราเคยถึงขั้นจะเลิกกัน เคยเซ็นใบหย่าแต่ว่าเรื่องเซ็นนี่เป็นการแก้เคล็ด แต่ว่าก่อนที่จะแก้เคล็ดมันก็ทะเลาะกันหนักมาก ทะเลาะแบบไม่มีอะไรดีเลย แล้วเรารู้ว่าจุดนั้นมันมีจุดที่ไม่ไหวแล้ว แยกเหอะ เห็นแววตาของกันแล้วกันก็รู้ว่ามันเริ่มไม่ไหวแล้ว แต่หลังจากที่ไปแก้เคล็ดมาไม่เคยมีแบบนั้นอีกเลย แต่ถามว่ายังกลัวว่าจุดนั้นจะกลับมาอีกไหม กลัวเสมอ แต่จะบอกว่าทำให้ดีที่สุด วิธีการมีครอบครัวหรือว่าคบกันไปนานนานคือต้องทำให้ดีที่สุด บางครั้งมันมีข้อไม่ดีเล็กๆ น้อยๆ ก็ให้มองข้ามไป แล้วไปมองข้อดีที่มีให้กันดีกว่า อะไรปล่อยผ่านได้ก็ช่างมันเถอะ อีกอย่างทุกวันนี้เราสองคนก็โตขึ้นด้วย เราก็เรียนรู้ที่จะเบาลง เขาก็เรียนรู้ที่จะเออ…เราเป็นอย่างนี้แหละ ทุกวันนี้มันก็เลยยังอยู่ด้วยกันได้” 
ไม่อยากให้ลูกไปเรียนต่างประเทศ เพราะติดลูกมาก บอกเตรียมใจไม่เท่าไหร่ ต้องเตรียมเงินมากกว่า
“เอ๋ไม่ค่อยอยากให้ไป เราก็ด้วย แต่วันหนึ่งคิดว่าลูกก็คงต้องไป เพราะว่าทุกวันนี้ลูกเรียนโรงเรียนที่เป็นหลักสูตรของอังกฤษ แล้วเพื่อนๆ ส่วนใหญ่เขาก็จะไปกัน ถึงวันนั้นก็ไม่เป็นไรไปก็ไป เตรียมใจยังไม่เท่าไหร่ ต้องเตรียมเงินมากกว่า แต่เอ๋เคยคุยกับเราว่าเราเรียนโรงเรียนอินเตอร์ฯ ที่นี่ก็ได้ เพราะว่าเราก็อยากให้ลูกอยู่กับเรา อย่างบางคนก็จะมองว่าผมไปเรียนเมืองนอกมาก่อนน่าจะอยากให้ลูกไปเหมือนกัน เพราะว่าเราเคยไปอยู่ไงถึงไม่ชอบไง คือไม่ได้ชอบมาก แล้วอีกอย่างตอนนี้ลูกคนโตเพิ่งอายุ 11 ขวบเอง ยังไม่ถึงเวลา แล้วถ้าลูกต้องไปเรียนต่างประเทศจริงๆ คิดว่าคงทนไม่ได้กันทั้งคู่ เพราะว่าติดลูกกันทั้งคู่เลย ติดแบบติดรุนแรง แต่ลูกก็เริ่มที่จะไม่ติดเราแล้วนะ เริ่มมีออนไลน์คุยกับเพื่อน คือระยะของเรากับลูกมันเริ่มห่างกันพอสมควร แต่ก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ เราก็เข้าใจเขาด้วย เพราะว่าเด็กก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีโลกของตัวเองมากขึ้น”

ยังไม่เตรียมใจว่าลูกจะมีแฟน 
“ยังๆ แต่เตรียมใจในเรื่องที่ว่า…เรามานั่งวิเคราะห์กันว่าลูกจะอยู่กับเราจริงๆ แค่ 18 ปีนะ ตอนนี้เขาอายุ 11 ปีแล้ว เรายังมีเวลาอีก 7 ปีในการที่จะอยู่แบบสนิทสนมนอนกอดกันกับลูก หลังจากนั้นพอเหมือนกับเขาจบม.6 เขาก็จะโบยบินแล้วนะ เขาจะไปอยู่หอไปเรียนหนังสือที่โน่นที่นี่ แล้วหลังจากที่เขาไปเรียนแล้วเขาก็จะไปทำงาน แยกไปอยู่คอนโดฯ ที่ใกล้กับที่ทำงาน เขาก็จะไม่อยู่กับเราแล้ว พูดง่ายๆ เหมือนนกที่ต้องบินออกจากรังไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รักเรานะ แต่ชีวิตเขาต้องไปแบบนี้ เราเองก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน”

ยังคลั่งรัก “เอ๋” อยู่ตลอดเวลา เพราะงามทั้งภายนอกและภายใน ใส่ใจดูแลครอบครัวตลอด
เอ๋เป็นผู้หญิงที่ไม่ให้โอกาสใคร เรารู้สึกปลอดภัยเสมอเวลาที่เอ๋ไปอยู่ที่ไหนที่ไหนก็ตามแต่ เรารู้เลยว่าเขาไม่ได้เป็นผู้หญิงที่โปรยเสน่ห์ ไม่บริหารเสน่ห์อะไรให้กับตัวเอง แต่เป็นคนที่มีความงามนอกจากความสวยที่ทุกคนอาจจะเห็นภายนอก แต่จริงๆ คือเขาเป็นคนจิตใจดี มีความงามในใจดูแลครอบครัวดี รักลูกและดูแลลูกได้ดี เพราะฉะนั้นผมว่าผู้ชายทุกคนถ้ามองหาผู้หญิงสักคน ที่จะมาช่วยดูแลครอบครัวของเขา ดูแลลูกของเขา ผมว่าเอ๋เขาก็เป็นคนที่น่าจะเหมาะสมกับเราที่สุดเท่าที่จะทำได้”















กำลังโหลดความคิดเห็น