“ธัญญ่า อาร์สยาม” รู้สึกจึ้งมากคนเปิดวาร์ป “อาร์โล่” แฟนหนุ่มเศรษฐีลาว บอกเป็นแค่ครอบครัวนักธุรกิจ และแฟนของตนเป็นคนที่หาเลี้ยงตัวเอง ชมเป็นผู้ชายน่ารักช่วยตนทำมาหากินโดยไม่ขอส่วนแบ่งใดๆ เลย วางแผนอนาคตอีก 3-4 ปี แต่งงานมีครอบครัว ไม่อยากคบใครเล่นๆ แล้ว
เรียกว่าตั้งแต่ประกาศมีแฟนใหม่แล้ว หลายๆ คนก็เห็น “ธัญญ่า อาร์สยาม” ตัวติดกับแฟนหนุ่มนักธุรกิจชาวลาว “อาร์โล่” ไปแทบทุกที่ ซึ่ง ธัญญ่า เผยว่าที่เห็นตัวติดกันตลอดเพราะแฟนหนุ่มมาช่วยตนไลฟ์สด ทำมาหากินกัน
“เรื่อยๆ ชิลๆ ค่ะ ที่เห็นว่าตัวติดกันตลอด เพราะมีเรื่องงาน ที่ไลฟ์สดสินค้าทางแบรนด์สินค้าจ้างมา เขาก็อยากขอแถมอาร์โล่มาด้วย เลยจะต้องไปด้วยกันตลอด จริงๆ แล้วคนในไลฟ์ แฟนคลับเราตอนนี้ไม่ได้ติดเรา แต่ติดผู้ชาย เขาชอบภาษาของอาร์โล่ที่ดูเป็นธรรมชาติ ความน่ารัก เป็นธรรมชาติ ความตรงๆของเขา
ไลฟ์สดแรกๆ ก็มีเขิน หลังๆ ก็ช่วยเราขายของได้แล้ว ความน่ารักของเขาคือช่วยกันทำมาหากิน ช่วยขายของ ไม่เคยมาก้าวก่ายเรา เอาตังค์หน่อย แบ่งหน่อยกันไหม เราจะถามเขาตลอดเลยว่าเอาแบ่งไหม แบ่งกันไหม เขาจะบอกไม่เอา เขาไม่เคยเอาเลย เขาให้เป็นของเราหมดเลย เขาให้ใจเรา รอเราพร้อมในทุกๆ ด้าน อยากให้เราปิดบ้านปิดรถได้”
เปย์แฟนตอบแทนด้วยของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไม่ถึงกับแบรนด์เนม เพราะซื้อของพวกนี้ไม่เป็น
“ก็จะซื้อของให้ตลอด เขาทำงานช่วยเรา แล้วไม่ได้เงิน เราจะรู้สึกว่าเขาไม่ได้อะไรเลยอยากซื้อของให้เขา จะชอบเปย์เป็นของขวัญ (แบรนด์เนม?) มีบ้าง แต่เราเป็นคนซื้อของพวกนี้ไม่เป็น จะเป็นแบรนด์ปกติ 2-3 พัน ยอดขายยังไม่ได้ขนาดนั้น ถ้าทำเงินได้ 100 ล้านแล้วค่อยว่ากัน(หัวเราะ) ค่อยเป็นแบรนด์หลักแสน หลักล้าน
เวลาเลือกของขวัญก็จะเอาจากที่ตัวเองชอบเป็นหลัก เขาเป็นคนง่ายๆ เราซื้ออะไรให้เขาก็โอเค เราซื้อมาแล้วก็ต้องใส่ ก็แกมบังคับนิดหน่อย”
จึ้งมากคนเปิดวาร์ป “อาร์โล่” เป็นเศรษฐีลาว บอกเป็นแค่ครอบครัวนักธุรกิจ และแฟนของตนเป็นคนที่หาเลี้ยงตัวเอง
“ไม่อยากจะใช้คำว่าเศรษฐี เพราะตั้งแต่คุยกันมา ก็มีถามเขาถึงเรื่องนี้ว่าขนาดนั้นเลยเหรอ เขาก็บอกว่าไม่ จริงๆ แล้วเขาไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ตั้งแต่เด็กๆ ด้วยซ้ำ อยู่กับญาติๆ ก็อาจจะเป็นฝั่งทางญาติเขา อาจจะเป็นคุณพ่อเขา ซึ่งคุณพ่อเขาก็มีครอบครัวใหม่ เขาเป็นคนที่โตมากับย่า คุณแม่เสียแล้ว ครอบครัวเขาฝั่งคุณพ่อทำธุรกิจ เขาทำงานตั้งแต่เด็กๆคนเดียว อยู่กับย่าเขาก็อยู่ตัวคนเดียว คำว่าเศรษฐีลาว อันนี้คือมันจึ้งมาก ว่าคนเอามาจากไหน เขาไม่เคยพูด เรียกว่าเขาเป็นครอบครัวนักธุรกิจดีกว่าคะ
ถามว่าเขาดูแล ซัปพอร์ตเราได้ไหม ณ ตรงนี้ก็คือไม่เคยเดือดร้อนเราแล้วกัน แถมยังมาช่วยเราทำงานด้วย เราไม่ได้มองคนที่ว่าจะต้องรวยมหาศาลหรืออะไร แค่ซัปพอร์ตในความรู้สึกเราได้ ช่วยเราในด้านต่างๆ เรื่องงานเรื่องอะไรเราหาทำได้เองอยู่แล้ว พอมีคนเข้ามาช่วย โอ้โห ไม่เคยมีคนเข้ามาช่วยเรื่องงานเราขนาดนี้ เรายิ่งแฮปปี้เลย (เคยเจอครอบครัวเขา?) เคยเจอแม่บุญธรรมค่ะ ครอบครัวเขาก็แฮปปี้กับเราดี”
ไม่เกี่ยว เป็นเศรษฐีนี รวยแล้วห้ามไลฟ์สดขายของไม่ได้
“จริงๆ คนรวยๆ หลายคนก็ยังไลฟ์สดขายของเยอะนะคะ ถ้าเราเป็นแบบนี้แล้ววันนึงมีเศรษฐีมาชอบ เขาก็ต้องชอบที่เราเป็นเรา มันไม่ได้เกี่ยวเลยว่าเป็นเศรษฐีแล้วจะมานั่งไลฟ์สดไม่ได้ (เขากดดันไหมที่คนเข้าใจว่าเราเป็นเศรษฐี รวยมาก?) ไม่ได้กดดัน ในไลฟ์สดคนมาเมนต์จิกกัดเยอะมาก จนทุกวันนี้เราชิลแล้ว เราไม่เคยบอกว่าอาร์โล่รวยมาก เป็นเศรษฐี เราไม่เคยพูด เราพูดว่าเราอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ได้ไปเดือดร้อนใคร จะรวยไม่รวยเราก็ต้องทำมาหากินต่อไป ซึ่งการนั่งไลฟ์สดคือการหาเงิน”
วางแผนอนาคตอีก 3-4 ปี แต่งงานมีครอบครัว เลยไม่อยากคบใครเล่นๆ แล้ว
“เขาก็ไปๆ มาๆ ส่วนใหญ่ตอนนี้เขาก็ติดเราแล้ว ก็เพิ่ง 6 เดือนเอง ก็รู้สึกว่าไปได้เรื่อยๆ ค่ะ มันก็ต้องดูกันไปอีกยาวๆ แต่ใน ณ ปัจจุบันนี้เรารู้สึกว่ามันดี ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้หมด ตอนนี้ดีค่ะ ถามว่าคาดหวังไหม คบกับใครก็ไม่อยากเลิก ปีนี้ 26 แล้ว เราชอบเป็นคนวางแผนอนาคต อยากจะแต่งงานตอนอายุ 29-30 ปี อีกไม่กี่ปีแล้ว ก็บอกเขานะ บอกตั้งแต่คุยกันวันแรกเลยว่าถ้าจะคุยเล่นๆ ไม่คุยนะ ไปเลยไม่ต้องคุยต่อ อันนี้คือคุยจริงจัง คนนี้ที่บ้านไฟเขียวให้หมด เพราะเขามาด้วยความจริงจัง จริงใจ ตอนนี้ก็มีบ้าน มีรถ มีแฟน แต่ยังไม่มีสามีค่ะ”