Johnny & Associates แถลงขออภัยเหยื่อโดนอดีตประธานลวมลาม! แต่ยอมรับว่าตรวจสอบยาก?

ในการแถลงอย่างตรงไปตรงมา "จูลี ฟุจิชิมะ" ประธานของ Johnny & Associates หลานสาวของผู้ก่อตั้งได้ออกปากออกคำขอโทษอย่างเป็นทางการสำหรับข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดทางเพศที่ผู้ก่อตั้ง "จอห์นนี คิตากาวา" ถูกหล่าวหาจากอดีตเด็กในสังกัด

Johnny & Associates เลือกที่จะไม่แแก้ตัว และตัดสินใจขอโทษอย่างตรงไปตรงมาสำหรับข้อกล่าวหาครั้งล่าสุด

แม้ว่าจะมีประวัติถูกหล่าวหาเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน แต่สารคดีล่าสุดโดย BBC และเหยื่อ ควน โอคาโมโตะ อดีตไอดอลชาวญี่ปุ่นเชื้อสายบราซิลที่ดูมีน้ำหนักทำให้ Johnny & Associates ต้องถูกสั่นสะเทือนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และก่อกระแสทำให้แฟน ๆ เรียกร้องการตอบสนองของบริษัท

ในวิดีโอและแถลงการณ์บนเว็บไซต์ทางการของบริษัท จูลี ฟุจิชิมะ ประธานคนปัจจุบันของ Johnny กล่าวถึงสถานการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายยังมองว่าเธอเลือกที่จะขอโทษ โดยไม่ยอมรับตรง ๆ ว่า จอห์นนี คิตากาวาที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2019 ได้กระทำเรื่องทั้งหมดจริง หรือไม่


“เราขออภัยอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่อ้างว่าเป็นเหยื่อ” ฟูจิชิมะกล่าว “เราให้ความสำคัญอย่างจริงจังที่มีผู้ที่กล่าวหาว่าได้รับผลกระทบโดยตรงจากเรา”

“เนื่องจากเราไม่สามารถตรวจสอบเรื่องนี้จาก จอห์นนี่ คิตากาวะ บุคคลที่เป็นปัญหาได้อีกแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะบอกว่าแต่ละกรณีนั้นจริงหรือไม่” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่าบริษัทกำลังดำเนินการตามข้อกล่าวหาอย่างจริงจัง

เกี่ยวกับการที่เธออยู่ในคณะกรรมการบริษัทเมื่อ Shukan Bunshun เผยแพร่ข้อกล่าวหากับเขาเมื่อหลายสิบปีก่อน รวมถึงความเกี่ยวข้องกับเขา จูลี ฟุจิชิมะ บอกว่าเธอไม่ได้รับทราบเรื่องนี้โดยตรง และทั้งหมดเป็นการจัดการของ จอห์นนี คิตากาวา และ แมรี คิตากาวา น้องสาวของเขาเป็นหลักที่สุดท้ายไม่ได้ดำเนินการใด ๆ กับข้อกล่าวหา


“การตัดสินใจต่างๆ เกิดขึ้นโดยคนสองคนเท่านั้น” ฟูจิชิมะซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการในขณะนั้นกล่าว

ฟูจิชิมะ กล่าวว่าเธอได้พูดคุยกับ โอกาโมโตะ มาระยะหนึ่งแล้ว และตระหนักว่าเขาออกมากล่าวหาเพราะเขาไม่อยากเห็นเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้เกิดขึ้นอีก

ฝ่าย โอกาโมโตะ กล่าวในวิดีโอ YouTube ของเขาว่าตนพูดคุยกับ ฟูจิชิมะ ประมาณสองชั่วโมง ซึ่งในระหว่างนั้นเธอได้ขอโทษ

เมื่อถูกถามว่าจะรับผิดชอบอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฟูจิชิมะกล่าวว่าแม้เธอคิดจะลาออก แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะอยู่ในตำแหน่งเดิมเพื่อทำงานตามมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ รวมถึงเปลี่ยนความคิดที่บริษัทด้วย “การพูดคุยกับสมาชิกที่อยู่ในบริษัทเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องการจะทำทั้งในปัจจุบันและอนาคต — นั่นคือแนวทางความรับผิดชอบของฉัน” ฟูจิชิมะ กล่าว