“ครูอ้อย ฐิตินาถ” ฟ้องแน่ “ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด” ไม่ได้ทวงบุญคุณ ชีวิตวิบัติ - เจ๊ง ก็ไม่ต้องอาศัยชื่อครูให้ได้พื้นที่สื่อ แจงเหตุถอยห่าง “กาละแมร์” เป็นฝ่ายบอกเอง ให้คิดว่าครูตายไปแล้ว ไม่รู้จักกัน
เรียกว่ากลายเป็นประเด็นร้อน ภายหลังจาก “ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด พงศ์สุชาติ” ได้ออกรายการแฉ เล่าชีวิตตัวเองที่หลงผิดกับลัทธิหนึ่งจนสูญเงิน 100 ล้าน แถมเป็นหนี้อีก 50 ล้าน อีกทั้งต้องสูญเสียมิตรภาพดีๆ ในวงการบันเทิง ทำให้คนพุ่งเป้าไปที่คอร์ส “เข็มทิศชีวิต” ของ “ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง” ต่อมาครูอ้อยได้เปิดศึกฉะกลับ โดยยืนยันว่าไม่ได้รับเงินจากตุ๊ยตุ่ยแม้แต่บาทเดียว ที่ผ่านมาอยู่ฟรีกินฟรี และเป็นฝ่ายที่ขอเลิกคบเอง
ล่าสุด “บอย ธิติพร จุติมานนท์” หรือ “บอย วันบันเทิง” ไปดักขอสัมภาษณ์ ครูอ้อย ฐิตินาถ ขณะไปร่วมงานพิธีอัญเชิญต้นศรีมหาโพธิ์หน่อเนื้อพุทธางกูรมาปลูกไว้ที่วัดแหลมแค อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี โดยครูอ้อยยอมรับว่าถ้าข้อกฎหมายเข้าก็จะฟ้องตุ๊ยตุ่ย พร้อมกับเคลียร์สัมพันธ์ “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” อดีตลูกศิษย์ที่เคยสนิทกันมากที่สุด
“ตอนข่าวถูกออกหมายจับ ตอนที่เห็นเลยมีคนนำมาให้ดู ก็รู้แน่ๆ ว่าเป็นข่าวปลอม ตอนคนนำมาให้ดูก็แจ้งว่าคนที่ปลอมเพจของกองปราบอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของตร. ก็เรียกว่าก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์แบบแหย่หนวดเสือเลยทีเดียว ตอนแรกคุณพ่อคุณแม่ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนตกใจเป็นห่วง ทุกครั้งที่สร้างเจดีย์ต้องมีแก๊งนี้ออกมา ทำแบบนี้มาสิบกว่าปีแล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่จะหายกันสักที ครูอ้อยไม่ได้สอนแล้ว ไม่ได้มีผลประโยชน์กับใคร อยากให้ปล่อยครูอ้อยไปอยู่เงียบๆ ตามทาง ถ้าครูอ้อยเคยล่วงเกินท่านในอดีตชาติหรือเมื่อไหร่ก็ตาม ก็ขอให้เราได้เลิกแล้วต่อกัน มีบุญของครูอ้อยไปถึงท่านและได้จบกันเพียงชาตินี้ค่ะ”
เล็งฟ้อง “ตุ๊ยตุ่ย” ถ้าข้อกฎหมายเข้า ลั่นเสียใจด้วยถ้า 7 ปีที่ไม่ได้คบกันจะขาดแคลน
“วันที่ครูอ้อยกลับมา ก็ทราบว่าอาตุ่ยไปออกรายการ สื่อก็จับความและเขียนทุกสื่อเลยว่าตุ่ยมาเจอครูอ้อยแล้วเสียเงิน 100 ล้านและเป็นหนี้ 50 ล้าน ในรายการไม่ได้พูดถึงคำว่าเข็มทิศฯ เลย แต่ในทางกฎหมายต้องดูว่าเจตนาเล็งเห็นผลว่าที่อาตุ่ยบอกว่าไปเจอไลฟ์โค้ชหรือคุณครูท่านนึงเมื่อ 7 ปีที่แล้ว มันเป็นบริบทที่สังคมทราบอยู่ ดังนั้นเจตนาเล็งเห็นผลและผลนั้นเกิดขึ้น การกระทำนั้นเกิดผลจริงๆ คือประชาชนในประเทศไทย หรือสื่อก็รู้ว่าตุ่ยหมายถึงใครที่อยู่ด้วยเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว อันนี้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถามตรงๆ ว่าตุ่ยหมายถึงใครล่ะ มดดำ (คชาภา ตันเจริญ) หมายถึงใคร แล้วเจตนาในตอนนั้นก็รู้อยู่ว่าหมายถึงใคร ฉะนั้นเป็นหน้าที่เมื่อสื่อทั้งประเทศลง ครูอ้อยก็ต้องตอบ กระบวนการฟ้อง ก็ใช่ค่ะ ตอนนี้แยกเป็นสองส่วน หนึ่งคนปลอมแปลงเพจ ให้ข่าวเท็จ นั่นก็ส่วนนึง แล้วก็ในเพจสื่อที่รับลูกก็ส่วนนึง
ถามว่าจะฟ้องตุ่ยไหม ถ้าถามครู ถ้าข้อกฎหมายเข้าและถึง ครูฟ้องแน่นอนค่ะ (ยิ้มหวาน) จริงๆ ครูจบกับอาตุ่ยสวยมา 7 ปี ไม่เคยพูดถึงอาตุ่ยเลยตลอด 7 ปีนี้ แต่ที่ผ่านมาตุ่ยไปออกรายการไหน ก็พูดถึง แล้วเป็นหน้าที่ของครูคือการให้ข้อเท็จจริง แล้วครูคิดว่าสังคมหรือประชาชนควรได้อยู่ในสังคมที่ปลอดภัย ไม่ใช่ว่าเป็นดาราจะนินทาใครก็ได้ มันควรมีความยุติธรรมว่าคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นดาราก็มีสิทธิ์ชี้แจงในข้อเท็จจริง
ถ้าสังเกตในสิ่งที่ครูอ้อยโพสต์ชี้แจง ไม่ได้ตำหนิอะไรอาตุ่ยเลยแม้แต่คำเดียว ไม่เคยได้รับเงินจากอาตุ่ย 100 ล้านหรือบาทเดียวก็ไม่เคย อย่างที่ทุกคนรู้ว่าครูอ้อยสายเปย์ ไม่เคยให้ใครเลี้ยงข้าว ไม่รับเงินจากตุ่ย อาตุ่ยมากินมานอนบ้านครูอ้อย เรียนฟรีอยู่ฟรีกินฟรี ตลอดเวลา 7 ปี ถ้าไปเช็กสเตทเมนต์ตุ่ยเอง ช่วงที่อยู่กับครูอ้อยปี 2555-2560 เป็นปีที่อาตุ่ยมั่งคั่งมากที่สุด และครูอ้อยก็เสียใจกับอานะคะ ถ้า 7 ปีนี้อาจะขาดแคลนหรือเกิดปัญหาในชีวิต”
แจงทำไมลูกศิษย์ในวงการหลายคนถอยห่าง ลั่นเหนื่อย ขออนุญาตไม่ดูแลชีวิตใคร
“อยากให้ลองคิดดูง่ายๆ อยากให้ดูว่าตอนมาเป็นยังไง มีเงินไหม มีความสุขไหม มีงานไหม พอมาแล้วมีความสุขไหม ได้ทำทาน รักษาศีล ทำบุญภาวนา ได้ทำบุญพระธาตุพนม สวยขึ้น ทำงานดีขึ้น ชีวิตมีคุณภาพขึ้น เก่งขึ้น หน้าที่ครูอ้อยในความเป็นครูคือเราทำให้คนมาเจอเจริญขึ้น ทำทานมากขึ้น รักษาศีลมากขึ้น จากไม่เคยมีศีลเลยสักข้อ ละเมิดแฟนตัวเอง กินเหล้า วันนึงก็หยุดเสพ หยุดเล่นการพนัน เล่นหวย หน้าที่ความเป็นครูคือทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น วันนึงชีวิตเขาดีแล้ว เราว่ากล่าวตักเตือนเขา เขาโกรธ หรืออาจเราเองที่ปวดหัวว่าพอแล้วในการแบก
อย่าลืมว่าลูกศิษย์แบกครูคนเดียว แต่ครูแบกลูกศิษย์ในประเทศไทยเฉพาะชาวเพจเข็มทิศชีวิตล้านกว่าคน ครูก็เหนื่อยนะคะ แล้วครูก็มีสิทธิ์บอกว่าครูพอแล้ว ขออนุญาตไม่ดูแล ครูไม่เคยออกมาพูดอะไรกับใครเลย สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้นะคะ คนบอกเลิกไม่เคยออกมาตีโพยตีพายค่ะ มีคนกลุ่มนึงจองเวรกับครูมา 10 กว่าปี ไม่ว่าสอนให้ทำอะไรก็ตาม ให้รักพ่อแม่ รักษาศีล เรียกว่าเป็นลัทธิหมด ขณะที่ตัวเองทำไม่เป็นไร ส่วนครูอ้อยทำตัวเท่ากับทุกคน จะเห็นว่าลูกศิษย์ครูอ้อยด่าครูอ้อยได้ทุกคน ถ้าเจ้าลัทธิจริงเขาจะกล้าด่าเหรอ ถูกไหม คอมมอนเซ้นส์คือถ้าเป็นเจ้าลัทธิเขาไม่กล้าด่าอยู่แล้ว แต่นี่ครูอ้อยทำตัวเท่ากันเป็นพี่เป็นน้องเป็นพ่อแม่”
ไม่ได้ทวงบุญคุณ เรียนฟรีกินฟรี ได้ดีไป 7 ปี พอเจ๊งหมดเงินชีวิตวิบัติ ก็ไม่ต้องอาศัยชื่อครูให้ได้พื้นที่สื่อ
“แล้วตอบตัวเองว่าคนที่มาเมื่อก่อนกินเหล้าตอนนี้เลิกเหล้า เมื่อก่อนมีชู้ หรือศีลข้อสามขาด ตอนนี้ก็เลิก พอดีขึ้น รวยขึ้นไหม ทำทานไหม รักษาศีลไหม ชีวิตเจริญไหม ก็จบแค่นั้น หน้าที่ครูอ้อยไม่ได้ทำเพื่อให้ใครคิดว่าครูอ้อยดี ไม่ได้ทวงบุญคุณนะ ที่เรียนฟรีกินฟรี ได้ดีไป 7 ปี ไปอยู่เป็นของตัวเอง ถ้าเจ๊งมาหมดเรื่องราวมาในชีวิต หมดเงินหมดทองชีวิตวิบัติ ก็ไม่ต้องมาอาศัยครูอ้อยได้พื้นที่สื่อ ไม่ว่าใครนะคะ ครูขอร้อง”
ลั่นเป็นฝ่ายบอก “กาละแมร์” เอง ให้คิดว่าครูตายไปแล้ว ไม่รู้จักกัน
“กาละแมร์เป็นคนน่ารักและขยันมากๆ ถ้าถามครูควรไปอุดหนุนน้องเขา เป็นคนมีความตั้งใจดี น่ารัก และขยันที่สุด ที่บอกว่าผลประโยชน์ขัดกัน จริงๆ กาละแมร์ไม่มีอะไรผิดเลย ถ้าจะมีบกพร่องคือตัวครูเอง ในวันที่ครูปฏิบัติธรรม ครูบอกกาละแมร์เองให้คิดซะว่าครูตายไปแล้ว ให้คิดซะว่าเราไม่รู้จักกัน คุณแม่ไม่สามารถดูแลลูกได้อีกแล้ว ให้ครูไปปฏิบัติธรรม ทำสิ่งที่ครูอยากทำ และลืมไปเลยว่ามีครูอยู่ในโลกใบนี้
เวลาครูพูดหรือทำอะไร ครูมีพยานเสมอ เพื่อนรักกาละแมร์ก็นั่งอยู่ด้วยกัน วันนั้นคิดจริงๆ ว่าอยากมีชีวิตเพื่อตัวเองบ้าง ขออนุญาตมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองบ้าง น้องเขาก็ดี น่ารัก ขยันค่ะ (ขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์เงินทอง?) เอาจริงๆ กาละแมร์มีคลาส และนิสัยดีเกินกว่าจะมาทะเลาะกับใคร หรือขัดแย้ง ในส่วนของครูอ้อยไม่ได้อยากได้อะไร ถ้าอะไรที่กาละแมร์อยากได้ครูอ้อยยกให้เลย อะไรที่ครูอ้อยทำแล้วขัดกับกาละแมร์ครูอ้อยไม่ทำ ถ้าอะไรทำแล้วลูกศิษย์ขัดกับกาละแมร์ ครูอ้อยให้เลิก”
ยังรักทั้ง “กาละแมร์” และ “ตุ๊ยตุ่ย”
“ไม่ใช่แค่กาละแมร์ รวมถึงตุ่ยด้วย ครูอ้อยรักและปรารถนาดีกับตุ่ยเสมอ แม้จะขอเลิกคบกับตุ่ย ไม่พูดกับตุ่ยมา 7 ปีแล้ว แต่ก็อยากให้ตุ่ยมีชีวิตที่ดีเสมอ”