“หนิง ปณิตา” ลั่น “จิน จรินทร์” ไม่มาเซ็นหย่าก็อยู่กันไปอย่างนี้! บอกใช้กม.ปกป้องศักดิ์ศรี ฟ้องบุคคลที่สามอย่างมีสติ ไม่สู้ด้วยอารมณ์แล้ว กฎหมายช่วยได้ ทำผิดก็ต้องรับผิด อุบตอบสืบอะไรมาถึงฟ้อง “มดดำ” คันปากอยากเล่า บอกปกติท้าเขาหย่า แต่คนนี้ถูกเขาท้าหย่า!
สตรองมากขึ้นแล้ว สำหรับ “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” แม้จะยังค้างๆ คาๆ เรื่อง “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ” ที่ถึงวันนี้ก็ยังไม่ยอมมาเซ็นใบหย่าให้ เพราะข้อตกลงที่ยังไม่ลงตัวกัน โดยหนิงเปิดใจผ่านรายการแฉวันนี้ (12 พ.ค.66) พร้อมเผยเหตุผลทำไมถึงใช้กฎหมายจัดการบุคคลที่สาม ลั่นจากนี้จะใช้สติ ไม่ใช้อารมณ์ เพราะเชื่อว่ากฎหมายช่วยตนได้แน่นอน
“ก็ขยันทำงานไป อย่างที่เห็นแหละ ทุกอย่างเหมือนเดิม ทำงานไป มีช่วงนึงที่ข่าวเยอะๆ ก็ทำไม่ไหว ก็พูดตรงๆ ก็เบี้ยวๆ งาน ไม่เข้าจัดรายการ ไม่อยากมา ประชุมก็ผิดพลาด เหมือนสติสตังค์ไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ เราก็ทำงานๆ ต้องหาเงิน (หัวเราะ) อะไรจะเกิดก็ช่าง ปล่อยไป
ยังอยู่บ้านเดียวกัน ทำหน้าที่พ่อกับแม่ ในติ๊กต๊อกพี่ธัญญ่า (ธัญญาเรศ เองตระกูล) เรื่องของเรื่องทำรายการกับพี่ญ่าเสร็จ แกก็ไปทำสวยมา หน้าแกตรงกรอบหน้าอาบน้ำไม่ได้ ก็เลยถามว่าสระผมยังไง ก็ลำบากมาก ก็เลยบอกว่าพี่เรื่องอุปกรณ์เสริมหนิงมี หนิงซื้อถังสระผม เป็นเก้าอี้นั่งแล้วนอน เราศัลย์มาก็รู้ว่าน้ำโดนหน้าไม่ได้กี่วัน เราไปทำงานด้วยกัน ก็กลับด้วยกัน ก็เลยบอกว่าไปแบกอันนั้นมาให้ แล้วก็เจอคุณจินเขา พี่ธัญญ่าก็แซว มันก็เลยเกิดเหตุการณ์วันนั้นขึ้นมา”
หาทางออกยังไม่ได้ ก็อยู่เฉยๆ
“สถานะก็คือทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดี คลุมเครืออยู่ (หัวเราะ) ทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีของลูก เวลามีปัญหาอะไรถ้าหาทางออกยังไม่ได้ ยังตอบอะไรไม่ได้ ก็อยู่มันเฉยๆ ไป ใบหย่าก็ยังไม่เซ็น เคลียร์ไม่จบ ก็อยู่มันไปนิ่งๆ แต่คนเราธรรมชาติมนุษย์เวลามีเรื่องจะเครียด ทุกคนเป็นหมด จะจิตตก แต่มันเครียดนานไม่ได้ สุดท้ายถ้าไม่ทำงาน กระเป๋าไม่มีเงินเข้า แต่เรายังต้องใช้เงิน พอถึงจุดนึงก็เศร้าพอแล้ว ต้องกลับมาโฟกัสสิ่งที่ต้องทำข้างหน้า ละครก็ดึงมาตั้งกี่เดือน งานก็ไม่ทำ พิธีกรก็ไม่เข้ารายการ ไม่ทำงานตอนมีปัญหา ตั้งแต่ต้นปีนะ แต่ออกมาทำบ้างนะ ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากออกจากถ้ำมาเจอหน้าคน แต่สุดท้ายก็ต้องทำบ้าง”
เล่าบรรยากาศในบ้าน ไม่เจอ ไม่เดินสวนกัน ต่างคนต่างอยู่
“ก็เฉยๆ ต่างคนต่างอยู่ไป ไม่เดินสวนกัน ไม่เจอ ด้วยเวย์ของหนิงเวลาเข้าบ้าน หนิงจะขึ้นไปอยู่ห้องนอนหนิงกับลูก ในห้องนอนก็มีห้องทำงาน หนิงทำห้องนอนหนิงให้ครบทุกอย่าง เวลาดึกๆ เรากลับบ้านเอาลูกเข้านอน เราก็จะสถิตอยู่ตรงนั้น จะเช็กเทปจะอะไรบนนั้นมีทุกอย่างหมด ของกิน ตู้เย็นมีหมด ในห้องนั้นเหมือนคอนโดที่มีทุกอย่าง เข้าห้องนั้นแล้ว หนิงก็ไม่ค่อยออกจากห้องตรงนั้น นอกจากลงมากินข้าว ปกติเป็นคนไม่ค่อยกินอยู่แล้ว”
ทำความเข้าใจกับลูก ในวัยที่เติบโต โชคดีเลี้ยงลูกปรึกษาจิตแพทย์ตั้งแต่เด็ก
“ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีที่ครอบครัวหนิงและคนรอบข้างเพื่อนๆ คอยซัปพอร์ต หนิงเลี้ยงลูกปรึกษาจิตแพทย์ตั้งแต่เด็กอยู่แล้วก็จะเป็นตามวัยว่าเวลานี้ควรพูดประโยคไหน แต่สำคัญเลย การสอนเด็กสมัยนี้ ห้ามโกหกเด็กเด็ดขาด โกหกไม่ได้ พอเขารู้ความจริงเขาจะไม่เชื่อใจเรา เราอยากให้เขาเป็นอย่างไร ก็ทำให้เขาดูว่าเราก็เป็นอย่างนั้น อย่าไปดรามาใส่เด็ก ถ้าจะให้เขารู้เรื่องก็ต้องพูดให้อ้อมหน่อย แต่ความหมายเดียวกันกับเวลาเราพูดกับผู้ใหญ่ ไม่ไปซ้ำๆ สิ่งสำคัญที่สุดจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ ความรักของเราที่โอบกอดเขาแน่นๆ ทุกวัน หรือการดุเขาในสิ่งที่เขาไม่ชอบ แต่สุดท้ายเราก็ต้องอธิบายว่าเราทำด้วยความรักของเรา โชคดีที่เพื่อนรอบข้างดีมาก ทุกคนจะโอบกอด เติมเต็ม จะให้ เขาก็สัมผัสว่าคนรอบข้างรักเขา เขาไม่ได้ขาด”
ศาลรับฟ้องบุคคลที่สามแล้ว ปัดตอบไปสืบอะไร ใช้กฎหมายให้เป็นประโยชน์บนพื้นฐานความถูกต้องและไม่ทำร้ายกัน
“ถ้าอันนั้นตอนสัมภาษณ์คุยแซ่บโชว์คือศาลรับฟ้องแล้ว ถามว่าไปสืบอะไร เล่าไม่ได้สิ อยู่ในขั้นตอน (หัวเราะ) คนเราถ้าใช้วิธีการเดิมๆ แล้วจัดการปัญหาไม่ได้ ก็อย่าใช้วิธีการเดิมๆ ลองเปลี่ยนวิธีการดู เราก็ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนวิธีการจะจัดการได้หรือเปล่า เป็นเรื่องอนาคต แต่อย่างนึงเลย เราต้องใช้กฎหมายให้เป็นประโยชน์ เมื่อเรามีกฎหมายอยู่แล้ว บ้านเมืองเรามีขื่อมีแป จะทำอะไรก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง และไม่ทำร้ายกัน ถูกไหมคะ”
ใช้กฎหมายเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง ทำผิดก็ต้องยอมรับผิด
“ที่เอากฎหมายมาช่วยถามว่าเพื่ออะไร ปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง ตั้งแต่หนิงมีข่าว มีคนดีเอ็มมาหาหนิงเยอะ เอาเป็นว่าผู้หญิงแทบทุกคนที่ผ่านการมีชีวิตคู่จะผ่านเรื่องราวเหล่านี้ ฉะนั้นเราอย่าสู้ด้วยอารมณ์ สู้ด้วยสติ กฎหมายมีไว้คุ้มครองเราอยู่ และอยากทำให้ผู้หญิงทุกคนรู้ว่ากฎหมายช่วยคุณได้ ถ้าทำผิดก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ทำผิดไป แค่นั้นเอง”
นักสืบโซเชียลช่วยเยอะ
“มีคนช่วยสืบหามือที่สาม มีเพียบเลย นักสืบภาคประชาชน ดีเอ็มมาเยอะเลย ที่เจอตัวก็อย่างที่เคยสัมภาษณ์ไปแล้ว คือน้องณิรินเป็นคนเจอ แล้วณิรินมาเล่าให้เราฟัง เราก็บอกไปว่าไม่จริง ไม่ใช่ เพราะเราก็ไม่รู้ เราไม่ได้เชื่อลูกเรา คิดว่าสไตล์ลูกเราสาวๆ คุยกับพ่อ ก็ไปบล็อกเขาซะหมด เพราะเคยมีเพื่อนเราที่เป็นสาว แต่เป็นเพื่อนเรา เขาก็บล็อกไป เราคิดว่าเป็นเหตุการณ์แบบนั้น เราไม่เชื่อ จนนักสืบโซเชียลมาบอกเรา แล้วเราคุ้นๆ ชื่อตรงนี้ที่ลูกเคยบอกเรา เด็กน้อยบอกตั้งแต่ปีที่แล้ว นานมาก จนเราลืมแล้ว หลังๆ เรื่องพวกนี้หนิงไม่สนใจนานมากแล้ว
ถามว่าทำไมคราวนี้ไม่ปล่อย ก็ปล่อยไง ถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่แรก มันมีๆๆ แต่ไม่เคยมีอะไรที่ทำให้หนิงต้องมานั่งตอบคำถาม (มดดำบอกปกติขอเขาหย่า แต่คนนี้เขาขอหย่า ขอเสือxตอบแทน ปกติ ไปท้าเขาหย่า แต่คราวนี้ไม่ใช่ ไม่อยากประดิษฐ์คำถาม) เราเป็นคนอยู่หน้าจอเนอะ (หัวเราะ) แล้วด้วยความเรา ทำอะไรบางทีคนก็ตั้งป้อมไปด่าก่อน พยายามสตินิ่งๆ ว่าขอช้าๆ ค่อยๆ คิด คือการให้เกียรติเขาด้วย พยายามทำให้ดีที่สุด (มดดำบอกว่าปกติต้องเชิ่ดๆ หยิ่งๆ ไปตามเขา แต่คนนี้เขาบอกเมื่อไหร่จะไป) พูดตรงเนอะ (หัวเราะ)
คำว่ามูฟออน ต้องไปเคลียร์ศาลที่ไปฟ้องบุคคลที่สาม คนจับตามองก็ทำอะไรไม่ได้ ตราบใดที่ทำอาชีพนี้อยู่ ก็เป็นธรรมชาติที่ต้องจดจ้อง จับตามอง ไม่ต้องอาชีพนี้หรอก คนทั่วไปมีข่าวแรงๆ เขาก็ถูกจับตามองหมด ใครก็แล้วแต่บนโลกใบนี้ ก็ต้องปล่อยทิ้งไป สิ่งเดียวเลยในการที่คนจับตามอง มีข้อดีอย่างคือเตือนสติให้เราทำสิ่งที่ดีและถูกต้อง ให้มองกลับมาเป็นข้อดี หนิงเสียหลายๆ เรื่องเพราะตัดสินใจเร็ว ทำอะไรด้วยอารมณ์ จุดเริ่มต้นบางทีเราไม่ได้ผิด แต่เราผิดเพราะใช้อารมณ์หลายๆ เรื่อง ฉะนั้นสิ่งที่คนโฟกัสจับจ้องเป็นเรื่องดี สอนเราว่าอย่าขาดสตินะ ใจเย็นๆ แต่ที่พูดๆ อยู่ไม่ใช่เราจะทำได้ทุกเรื่องนะ มนุษย์วันนึงก็ต้องสติแตก มีบ้าง อนาคตก็ตอบอะไรไม่ได้ ไปแต่ละวัน เราไม่ไปล้ำเส้นเขา เรายังคงทำอะไรให้เกียรติเขาทุกอย่าง แค่นี้เราก็จบแล้ว คนอื่นจะทำยังไงก็ช่าง”
ยันไม่ได้อดทนรออะไร แต่อีกฝ่ายไม่มาเซ็นหย่า ไม่เซ็นหย่าก็อยู่กันไปอย่างนี้
“อ้าว ก็เขาไม่มาเซ็น (หัวเราะ) รู้อยู่แล้วยังมาถาม ถ้าไม่ได้เซ็นก็อยู่กันไปอย่างนี้ วันนี้ไม่มีอะไรสำคัญในชีวิตหนิงเท่าเด็กน้อยที่อยู่ข้างๆ ตลอดเวลา แค่ใช้ชีวิตแต่ละวันไปกับความสนุกๆ ใหม่ๆ อันนั้นก็หมดเวลาแล้ว นั่นคือที่สุดของหัวใจแล้ว ถ้าวันนึงลูกเราเติบโตไปเป็นบุคลากรที่ดีของสังคม ประสบความสำเร็จในชีวิตโดยเราไม่ต้องห่วง อันนั้นคือความภาคภูมิใจที่สุด”
เคลียร์กับครอบครัวจินตลอด
“คุยตลอด คุยกับน้องสาวคุณจิน โอ้โห น่ารักมาก น้องคอยส่งมาตลอด พี่เป็นยังไง บางทีส่งมาไม่ได้รับก็โทร.มา พี่ไหวไหม โอเคไหม น้องจินน่ารักมาก ที่สุด น่ารักที่สุดพูดเลย”
