“อะตอม สัมพันธภาพ” แฉแซ่บ เข้าคอร์สเข็มทิศชีวิต เสียเงินหลักแสน บอกโชคดีที่ไหวตัวทัน เพราะ “ครูอ้อย” ไม่ได้เป็นคนสมถะอย่างที่พูดจริง มีแต่ใช้ชีวิตหรูหรา รับ “แตงโม-แต๊งค์” เคยเตือนแต่ไม่ฟัง ห่วงสุดคือ “กาละแมร์-ตุ๊ยตุ่ย” ว่าจะโดนอะไรบ้าง เพราะใกล้ชิดมาก เตือนคนที่อยากจะเข้าคอร์สให้ตั้งสติ ดูหลักธรรมะ ศึกษาเองดีกว่าไปเสียเงินให้กับสิ่งเหล่านี้
ช่วงนี้กลับมาเป็นประเด็นให้ได้พูดถึงอีกครั้ง สำหรับ “ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง” หรือ ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต หลังจากที่ “ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด พงศ์สุชาติ” ออกมาเผยเรื่องลัทธิหนึ่ง ที่เคยหลงเชื่อทำหมดเนื้อหมดตัว 100 ล้าน แถมได้หนี้อีก 50 ล้าน และตอนนี้ตาสว่างแล้ว ทำคนโยงไปว่าลัทธิที่ว่าน่าจะเป็นเข็มทิศชีวิต ที่เมื่อก่อนตุ๊ยตุ่ยเคยสนิทกับครูอ้อยเป็นอย่างมาก
ล่าสุดแม้แต่นักแสดงหนุ่ม “อะตอม สัมพันธภาพ” ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่าครั้งหนึ่งตนก็เคยหลงเชื่อและเสียเงินให้ครูอ้อยเหมือนกัน ซึ่งอะตอมเผยกับทีมข่าว MGR บันเทิงว่าเสียเงินไปแสนกว่าบาท ดีที่คิดได้และปลีกตัวออกมาทันก่อนที่จะหมดเงินไปมากกว่านี้
“ของผมนานมากแล้วครับ ที่ผมโพสต์ก็เพราะผมเคยเสียตังค์ไปตั้งแต่ผมคบกับแฟนเก่าประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเสียไปแสนกว่าบาทครับ และที่ผมหยุดไปเพราะผมลองไปสืบหาดูของต่างประเทศที่เป็นไลฟ์โค้ช ซึ่งมันมีมาก่อนที่ทางเข็มทิศชีวิตออกมาพูดกับคนไทย ผมก็เลยมาฉุกคิดได้ว่าเขาไม่ได้คิดเองเหรอ และตอนนั้นรู้สึกจะมีนายตำรวจใหญ่ตำแหน่งผู้กำกับ เขาชวนพี่ชายเขามาเรียนด้วย ภรรยาด้วย ซึ่งก็มีชื่อเสียงเลยแหละ ถ้าคนในวงการตอนนั้นก็มีพี่กาละแมร์ (พัชรศรี เบญจมาศ) มีอาตุ๊ยตุ่ย และมีน้องซี (ภูวรินทร์ คีแนน) นักร้องอาร์เอสที่เป็นทอมอยู่ด้วย
เริ่มต้นคือแฟนเก่าผมเขาไปเรียน เขามีโรคประจำตัวอยู่ พอเข้าไปเรียนเขาก็บอกว่ามันดีนะอย่างนั้นอย่างนี้ ทีนี้พอผมเข้าไปฟังครั้งแรกมันก็ดี แต่พอครั้งหลังๆ ผมก็เอาเงินให้แฟนเก่าผมไปเรียน ครั้งละประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท แต่ว่ายิ่งคอร์สลึกๆ ยิ่งแพงขึ้น ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร และเวลาที่ใครตีตัวออกไปจะต้องโดนฟีดแบ็กจากทางเขามาตลอด ว่าคิดไม่ได้บ้างอะไรบ้าง ทั้งๆ ที่ทุกคนก็ดูมีสติปัญญากันทั้งนั้น แต่ก็โดนว่าทุกคน พอเห็นแบบนั้นผมก็เลยปลีกตัวออกมา”
บอกไม่เห็นสมถะอย่างที่พูด เพราะทำตัวหรูหรามาก
“คนที่ไปเรียนกับเขาส่วนใหญ่เป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคมทั้งนั้นเลยนะ และเขาจะสุ่มจับบางคนขึ้นมาบนเวที แล้วเขาก็จะให้นอนและหลับตา แล้วเขาก็พูด ให้คนที่นอนนึกภาพตามสิ่งที่เขาพูด บางคนถึงขั้นร้องไห้บนเวที ลูกศิษย์ข้างล่างก็มาให้กำลังใจ มาปลอบกัน ทำให้คนๆ นั้นรู้สึกได้ปลดปล่อย และรู้สึกดี แต่ที่จริงแล้วที่ผมเอะใจเพราะผมเข้ามาสายธรรมะอย่างจริงจัง
สิ่งที่เขาบอกว่าเป็นคนสมถะ แต่สิ่งที่ผมเห็น ผมไม่เคยเจอความสมถะจากทางครูคนนี้เลย มันมีแต่โชว์แก้วแหวนเงินทอง โชว์คนที่บริจาคเงินเยอะ สร้างหมู่บ้านเอง ที่บางปะกงก็ต้องให้ลูกศิษย์ไปซื้อ ผมก็คิดว่าตกลงมันสมถะยังไงวะเนี่ย ทุกครั้งที่ไปเรียนเขาก็จะมีปฏิบัติธรรม เหมารีสอร์ตของลูกศิษย์ไปปฎิบัติธรรมกัน ให้ลูกศิษย์มานั่งสมาธิฟรี แต่ตัวครูเขานั่งอยู่บนโพเดี้ยมเด่นตลอดเลย เหมือนเขามีความสูงส่ง เราก็ไม่ได้นินทาเขานะ แต่สิ่งที่เราเจอมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ”
เผย “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” และ “แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ” เคยเตือนแล้ว แต่ไม่ฟัง
“ตอนที่ไปเรียนผมยังเคยไปพูดกับแต๊งค์กับแตงโมเลย แตงโมยังบอกเลยว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า มันดีจริงๆ เหรอ ตัวผมเองยังแอบคิดในใจเลยว่าทำไมเพื่อนไม่ไปเรียนวะ แต่พอมารู้จริงๆ คือเพื่อนฉลาดกว่าเราอีก (หัวเราะ) เขามองขาดกว่า โดยเฉพาะแต๊งค์เขาเตือนผมตลอด บอกว่าตอมอย่าไปนะ เราก็มีคำถามในใจว่าทำไมเพื่อนคิดแบบนี้วะ
แต่พอนานเข้าๆ คนออกทีละคนสองคน แล้วตอนที่ผมยังอยู่ ผมก็ได้ยินข่าวว่าเขาเอารูปของนักแสดงหลายๆ คนไปลงว่าเป็นนักเรียน เป็นลูกศิษย์เขา โดยที่ยังไม่ได้ขออนุญาตก่อน นักแสดงหลายๆ ก็โทร.ไปบอกขอให้ลบรูปซะ แล้วทางนี้ก็ไปด่าเขาลับหลัง จริงๆ ตอนรุ่นผมก็มีศิลปินดาราเยอะครับ แต่ผมไม่ขอเอ่ยชื่อดีกว่า ดังๆ ทั้งนั้นเลย แต่ตอนนี้ผมก็อยากให้คนไปศึกษาเกี่ยวกับศาสนาหรือหลักวิธีคิดเองดีกว่า เดี๋ยวนี้ในโซเชียลมีเยอะแยะ มันไม่จำเป็นต้องให้ใครมาชี้นำทางว่าคุณจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วพอออกมาก็โดนด่า แบบนั้นมันไม่ใช่ ไม่จำเป็นต้องมาเสียเงินกับอะไรพวกนี้”
เคยแอบห่วง “กาละแมร์-ตุ๊ยตุ่ย” เพราะอยู่ใกล้ชิด “ครูอ้อย” มาก
“เมื่อก่อนผมคิดอยู่ตลอดนะว่าพี่กาละแมร์กับอาตุ๊ยตุ่ยเขาจะเจอปัญหาบ้างหรือเปล่า โดยเฉพาะพี่กาละแมร์ เพราะผมเห็นอยู่ติดกับครูคนนี้ตลอดเลย แม้กระทั่งเห็นไปซื้อคอนโดที่แพงๆ หลายสิบล้านก็ยังไปอยู่คอนโดเดียวกัน ผมเองก็ยังสงสัยว่าคุยกันยังไงถึงไปซื้อตรงนั้น ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าย้ายออกหรือยังนะ เพราะตั้งแต่มีเรื่องลูกชายเขา ผมก็เห็นพี่กาละแมร์ลบรูปร่วมกันหมดเลย
ต้องบอกว่าทุกครั้งที่ผมเคยไปตอนฝึกอบรมฟรี ตอนที่เขาเปิดเพื่อจะดึงคนไปเสียเงินในหลักสูตร ทุกครั้งที่เขาลงรูปคนที่ประสบความสำเร็จ คนสุดท้ายก็ต้องเป็นเขา และเขาก็เอาลูกชายเขามาเปิดตัวทุกครั้งเลย แต่ปรากฎว่าลูกชายเขากลับมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ผมก็งงนะว่ามันยังไง แต่ตอนนี้คนก็รู้ทันเยอะแล้ว และถ้าคนที่เขาสมถะจริงๆ ก็ไม่ต้องเริ่ดหรูอลังการขนาดนั้นก็ได้ แต่นี่พอเขาไม่เห็นด้วยก็โดนเอาไปพูดลับหลังหมด มันไม่ถูกต้องครับ”
