xs
xsm
sm
md
lg

“กานต์” แฮปปี้ได้ลูกคืน เตรียมถอนฟ้องทุกคดี แต่ไม่ยกฟ้อง “ดรีม” ถ้าจะคบ ฝ่ายหญิงต้องเข้ามาขอขมาอย่างจริงใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กานต์ วิภากร” เผยตอนนี้สุดแฮปปี้ “เสือ-กวาง” ยอมกลับบ้านแล้ว แต่ยังไปๆ มาๆ คาดอีก 3 เดือนจะกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม พร้อมถอนทุกคดีที่ฟ้องลูก ต่างฝ่ายต่างอโหสิกรรมให้อภัยกัน ลั่นพยายามปรับตัวเองให้เหวี่ยงน้อยลง ลดเล่นโซเชียล ถ้าลูกชายจะกลับไปคบ “ดรีม” ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ฝ่ายหญิงมาขอขมาตนอย่างจริงใจ 

กลับมายิ้มได้อย่างเต็มที่สักที สำหรับ “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” ภรรยาของร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ “เสก โลโซ”เสกสรรค์ ศุขพิมาย ที่ล่าสุดมีภาพที่ลูกชายคนโต “น้องเสือ เสฏกานต์” และลูกสาวคนกลาง “น้องกวาง กรกวี” กลับบ้านมานั่งทานข้าวพร้อมหน้าพ่อแม่อีกครััง ล่าสุด กานต์ ก็มาเปิดใจถึงเรื่องนี้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ณ สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 อาคารอาร์เอส กรุ๊ป  ถนนประเสริฐมนูกิจ เจ้าตัวบอกว่าตอนนี้มีความสุขมาก แต่ลูกทั้งสองก็ยังไปๆ มาๆ รออีก 3 เดือนถึงจะกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม 
“ก็มีความสุขดีค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็โอเค เขาก็ยังไปๆ มาๆ อยู่นะคะ จริงๆ มันไม่ได้กลับนะวันนั้น อยู่ดีๆ ก็กลับมาโดยไม่มีอะไรเลย ไม่มีเหตุผลหรือเงื่อนไขอะไร วันนั้นเป็นวันที่ 21 ต้องขึ้นศาลเยาวชน ก็ไม่ประสบความสำเร็จ น้องเขาก็มากราบขอขมากันทั้งสองคน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ พอศาลลงบัลลังก์ไป ก็กำลังจะกลับ ศาลก็นัดอีกวันที่ 28 มิ.ย.

แล้วกานต์ก็ไปกอดน้องกวาง และกระซิบน้องกวางว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ พอกวางเขารู้เหตุผล เขาก็ปลอบกานต์ ก็เลยดีกัน เรื่องคดีก็เดี๋ยวถอนให้หมดค่ะ ของน้องกวางน่าจะ 2 ของเสือน่าจะ 4-5 มั้งคะ กำลังจะไปถอนค่ะ ไม่วีกนี้ก็วีกหน้า แต่โทร.บอกตำรวจไว้เรียบร้อยแล้ว แจ้งไปแล้วว่ากานต์จะถอนหมด ให้เขาเตรียมไว้” 
พร้อมอโหสิกรรมให้ลูกทุกอย่าง
“ตอนนั้นอยู่ศาล เขาก็มานั่งกราบตรงตัก ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร รู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่พอมีกันอยู่เหลือแค่พ่อแม่ลูก มันถึงจะเป็นความรู้สึกจริง คือที่ผ่านมาขึ้นศาลไม่รู้กี่รอบ เขาให้อยู่คนละห้อง มันก็เลยไม่ได้มีฟีลได้เห็นหน้าลูก มันก็จะยิ่งโมโห กานต์ก็บอกไปแล้วว่าทำไมศาลไม่ให้มาอยู่ในห้องเดียวกัน มันยิ่งทำให้เดือดกัน ทางนั้นก็โกรธ ทางเราก็โกรธ ถ้าเกิดพ่อแม่ลูกเจอกันมันก็ต้องซอฟต์

พอเสร็จน้องกวางกับน้องเสือก็พาไปกินข้าว กวางเขาเลี้ยง (หัวเราะ) แล้วก็ขอโทษกันทั้งสองฝ่าย น้องเสือน้องกวางก็ขอโทษกานต์กับเสก เสกกับกานต์ก็บอกขอโทษลูกเหมือนกัน ก็ปรับความเข้าใจกัน คือเขาก็มากราบเฉยๆ ถ้าเป็นคำสั่งศาลยังไงก็ไม่มี มันต้องเป็นจากตัวเอง สำหรับกานต์ไม่ได้คิดว่าอะไรเลย แต่พอศาลลงบัลลังก์ ก็ไปกอดกวาง อันนั้นคือเป็นความรู้สึกจริงของทั้งพ่อแม่ลูก ก็เลยดีกันโดยที่ไม่ต้องมีคนกลาง ก็ให้อภัย กานต์อโหสิกรรมให้ลูกทั้งหมดอยู่แล้ว และขออโหสิกรรมลูกด้วย เพราะกานต์ก็ทำผิด มันทำผิดทั้งคู่นั่นแหละ ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิดทั้งหมด มันก็ทั้งสองนั่นแหละ”

ยังต้องปรับตัวกันใหม่ทั้งสองฝ่าย
“น่าจะอีกสักระยะนึง ประมาณสัก 3 เดือน เพราะเขาเช่าคอนโดอยู่ และเขาก็ทำงานกัน แต่ตอนนี้น้องเสือเขาก็มาเล่นคอนเสิร์ตแล้ว ช่วงนี้ก็คุยกันทุกวันค่ะ ก็เป็นห่วง กานต์ก็จะสั่งอาหารไปให้ ก็ต้องปรับความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ก็ยังไม่ได้ 100% กันทั้งคู่หรอก คือตอนนี้มันเพิ่งสดๆ ร้อนๆ ทั้งสองฝ่ายก็ต้องปรับเข้าหากันทีละนิด อย่าไปเร่งความรู้สึกความคิดความอ่าน ก็เป็นไปตามธรรมชาติ ก็เปลี่ยนแปลง ไม่เป็นคนขี้เหวี่ยง (หัวเราะ) ตอนนี้กานต์ก็เลิกกินยาซึมเศร้ามาประมาณเดือนนึงแล้ว หมอไม่เห็นจ่ายให้ (หัวเราะ) ก็แปลว่าหาย เพราะกานต์มีหมาแฮรอทไง มันตามติด มันก็เลยทำให้ไม่ร้องไห้

เสกเขาก็ดีใจ คือเขาก็ไม่คิดไม่ฝัน วันนั้นที่จะออกจากศาลพอได้คุยอธิบายกัน พอเขาฟังเขาก็เป็นห่วง เขาก็ดี เขาบอกว่าเดี๋ยวกวางหาหมอจิตแพทย์ให้ดีไหม เขาก็คอยถามว่าไหล่หลุดเป็นยังไงบ้าง เขาคอยเป็นห่วง แล้วก็จูงมือเราลงมาจากศาลพาไปเลี้ยงข้าว น่ารัก ตอนนั้นไม่ได้ร้องไห้ มีแต่ยิ้มดีใจ แล้วก็จูงมือเขาไปอย่างมีความสุข (หัวเราะ) กวางใจดีมากเลย น้องเสือยังไม่ใจดีเท่ากวางนะ เขาเป็นผู้ชาย คือกวางเขารู้เหตุผลแล้ว เพราะกานต์คุย แต่กับน้องเสือเราจะค่อยเป็นค่อยไป ทั้งสองคนแหละ เรายังไม่เร่งรีบ”

น้องเสือจะมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องเคลียร์เยอะไหม เพราะมีเรื่องของแหวนอะไรอีก
“เอาคืนไปหมดแล้วไง จริงๆ คนส่งมาให้กานต์ดู กานต์ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเอามาอยู่แล้ว แต่ทำไมถึงไปเอา ไม่งั้นเสกก็ไม่เชื่อกานต์ ก็บอกว่ามีคนส่งมา กานต์ก็มาบอกเสกว่ามันเป็นอย่างนี้ ก็ต้องเอาตัวจริงมาให้เขาดูเพื่อให้เขาพิจารณาว่ามันเป็นยังไง ที่ฝั่งนั้นเขาไปแจ้งความว่าเราไปเอาบัตรประชาชนเขา ไปเอาแหวนเขาเหรอ กานต์โพสต์ก่อนนะ ก่อนที่เขาจะไปแจ้งความบอกว่ามาเอาของได้แล้ว

เขาไปแจ้ง แต่กานต์ไปแจ้งก่อนแล้ว พอกานต์ไปเอาบัตรประชาชนกับแหวนมา กานต์ก็ไปแจ้งความเลย บอกว่าไปเอาอันนี้มา แสดงความบริสุทธิ์ใจ กานต์ก็มีหลักฐาน ลงบันทึกประจำวัน กานต์ไม่ได้เอาไปเลย กานต์ก็แวะไปสน.ลุมพินี เขาถอนแจ้งหรือยังกานต์ไม่รู้ ถามตำรวจแล้ว เขาบอกว่าทางนั้นแจ้ง แต่ไม่รู้ว่าแจ้งอะไร แต่ทางตำรวจยังไม่เรียกอะไรเลย คงอีกนานค่ะ เพราะว่าตามหลักฐานมันแจ้งไม่ได้หรอก เพราะว่ากานต์ไปแจ้งไว้ก่อน เราไม่ลักทรัพย์ คนลักทรัพย์ใครจะบ้าวิ่งไปหาตำรวจ แล้วให้ตำรวจลงบันทึกไว้ คืนนั้นกานต์ไปเอาเสร็จก็ไปสน. เลย”

ไม่ถอนคดีที่ฟ้อง “ดรีม” แฟนเสือ ไม่เอาเรื่องคนอื่นมาเกี่ยวกับครอบครัว
กานต์ไม่รู้สถานะของพวกเขา เพราะว่าเราจะคุยกับลูกเรา กานต์ไม่ให้ค่าคนนี้ แต่คดีที่ฟ้องเขายังมีอยู่ ถึงเสือมาคุยก็ไม่ยกฟ้อง เรื่องของคนอื่น เราจะไม่เอาเรื่องนี้มาใส่ในครอบครัว กานต์แก้ไขเฉพาะเรื่องในครอบครัวของเราให้มีความสุข 5 คนพอ ปัญหาของกานต์ที่มีกับคนอื่นเราก็ต้องไปเคลียร์ของเราเอง เราจะไม่เอาเสือ เสก หรือตัวละครอื่นเข้ามาเกี่ยว

เรื่องเงินของเสือเราก็ไม่ได้คุย ก่อนหน้านี้กานต์ก็คิดไว้แล้ว ตอนแรกก็คุยกับเสกว่าเราจะทำงานหาเงินไปทำไม ลูกก็ไม่มี ตายไปก็ให้แต่ลอนดอน แล้วถ้าลอนดอนไปอีกคน ไม่ใช่ต้องให้สาธารณะเหรอ กานต์ไม่ได้ถามถึงเรื่องเงินเลย เพราะว่าไม่ได้ต้องการเงินคืน ต้องการที่จะเจอและคุยกับลูก พอเจอก็สมใจแล้ว ถอนฟ้องหมด ที่กานต์ฟ้องลูกหลายคดี เพราะคิดว่ามันต้องไปเจอลูกสักคดี (หัวเราะ) เรื่องเงินไม่สำคัญเท่ากับได้ลูกกลับมา กานต์พูดกับเสกตลอดว่ากานต์หาเงินกานต์ก็ไม่ได้ใช้อะไรเลย มีแต่ซื้อให้ลูก”

บอกตอนนี้ครอบครัวกลับมาแฮปปี้แล้ว สนใจโซเชียลน้อยลง
“ตอนนี้เรียกว่าแฮปปีเอนดิ้ง แต่ว่าในอนาคตเราไม่คาดหวังอะไร เราไม่รู้ไง แต่สำหรับตัวเราก็จะไม่เหวี่ยงแล้ว พอลูกกลับมาแล้ว กานต์ไม่ได้ให้ลูกอยู่ในกรอบ เราตามใจลูกทุกคน แต่เขาอาจไม่ชอบที่เราขี้เหวี่ยง แล้วเราไปเหวี่ยงใส่เขาในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็เลยไป 2 คนเลย ช่วงที่ลูกไม่อยู่ก็เหวี่ยงน้อยลง กานต์ไปดูโพสต์ไม่ค่อยเยอะ ที่กานต์โพสต์มันมาจากความรู้สึกจริงๆ แล้วคนมาทำเราก่อน เลยโพสต์ไปแบบนั้น ถ้าไม่มีใครมาทำเราก่อน เราก็ไม่ใช่คนบ้าที่จะไปด่าชาวบ้าน หลังๆ เรารู้สึกว่าไม่ได้แล้ว เราต้องให้ลูกเห็นว่าเราใจเย็น เผื่อลูกมาส่อง

อาจจะเพราะว่ายารักษาโรคซึมเศร้าด้วย แต่ตอนนี้หยุดกินมา 1 เดือนแล้ว ไปหาคุณหมอเดือนละครั้ง ล่าสุดคุณหมอให้แค่ยานอนหลับมาอย่างเดียว ก่อนหน้านี้เป็นซึมเศร้า แต่ไม่ถึงไบโพล่าร์ ส่วนไบโพล่าร์ พี่เสกเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ไปแล้ว (หัวเราะ) กานต์รู้ตัวเองว่าเหวี่ยงน้อยลง เพราะวันๆ ปลูกต้นไม้ ร้อยกำไลหิน เล่นกับหมา ไม่ค่อยติดโซเชียล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำเลย ตอนนี้กลายเป็นว่ามันสนุกดี มันสนุกไปเอง หลังๆ ไม่ค่อยโพสต์ เพราะห่วงแต่ปลูกต้นไม้ กับร้อยหิน แต่ที่เมื่อก่อนโพสต์เพราะโจทก์เยอะ”

ไม่ห้ามถ้า “เสือ” จะกลับไปคบ “ดรีม” แต่ฝ่ายหญิงต้องปรับตัวและมาขอขมา
“เขาโตแล้ว เขาสามารถมีแฟนมีความรักได้ แต่แค่อย่าทิ้งพ่อแม่กับน้องเท่านั้นก็พอ เพราะกานต์รักเพื่อน รักแฟนของลูกทุกคน กานต์ดูแลด้วยตัวเองตลอด เรื่องแฟนให้เขาหาของเขาเอง ส่วนถ้าเสือเขากลับไปคบกัน ถ้าเขารู้จักปรับการกระทำ หรือว่าปรับความคิดของตัวเขาเองและมาขอโทษเรา เราก็รับได้ กานต์เป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว ด่าๆ ไป 2 วันก็ลืมแล้ว ด่าใครไปก็จำไม่ได้แล้ว

ถ้าเขาเดินเข้ามาขอขมา เราก็ยกโทษให้ เขาก็ต้องปรับตัว แล้วเขาก็ต้องจริงใจด้วยนะ ความสุขของกานต์ตอนนี้คือเราได้อยู่พร้อมกัน 5 คน พ่อแม่ลูก แต่ตอนนี้ของเอาเฉพาะ 5 คนก่อน เพิ่งมาเจอกันยังไม่ถึง 1 เดือนเลย ก็คิดว่าจะไปถอนฟ้องวันที่ 28 มิ.ย. เลย”









กำลังโหลดความคิดเห็น