“โบกี้ไลอ้อน” ยอมรับดีใจและไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะได้พากย์เสียงแอเรียล ตอนรู้ข่าวว่าดีสนีย์เลือกถึงขั้นร้องไห้ ยอมรับเสียงแมนเกินเจ้าหญิง แต่ก็อยากให้ฟังก่อนด่า อย่าเพิ่งดรามา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จะได้พากย์ ลั่นสุดภูมิใจ ถึงมีเงินก็ทำไม่ได้
หลังจากที่วอลต์ ดิสนีย์ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าคนที่จะมาพากย์เป็นเสียง แอเรียล ใน Disney’s The Little Mermaid (2023) : เงือกน้อยผจญภัยก็คือนักร้องสาว “โบกี้ไลอ้อน พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ” นั่นเอง และสิ่งที่ตามมาก็คือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่บอกว่าเสียงไม่เหมาะสมกับตัวละครตัวนี้ โดยล่าสุดสาวโบกี้ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ในงาน Dare you to try! BEAUTY WONDERLANDณ ลาน BHP ชั้น M สยามพารากอน เจ้าตัวก็ยอมรับว่าไม่คิดว่าจะได้ แต่ก็ดีใจ เพราะตนเป็นแฟนดิสนีย์มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว
“ตอนแรกหนูก็ทายว่าเป็นหนูจริงๆ หรือเปล่า เพราะหนูก็เริ่มไม่มั่นใจ แต่ตอนแรกที่รู้ว่าได้ตั้งแต่ยังไม่มีข่าว ก็คือดีใจมาก ร้องไห้เลย จริงๆ หนูร้องไห้ตั้งแต่วันไปแคสแล้ว เพราะหนูเติบโตมากับสิ่งนี้เชื่อว่าหลายๆ คนก็โตมากับดิสนีย์ อยากจะบอกว่าดิสนีย์ไม่ใช่แค่โลกของเด็กอย่างเดียว แต่เป็นโลกของคนที่มีจินตนาการ จริงๆ โบชอบพากย์เล่นๆ ตั้งแต่เด็ก จำบทได้แทบจะทั้งเรื่องเลย
พอรู้ว่าเป็นแอเรียลแล้วไปแคส โบไม่คิดว่าจะได้บทนี้ เพราะด้วยความเป็นแฟนดิสนีย์ ก็อยากให้บทเหมาะสมตามที่ควรจะเหมาะสมและตามที่ทางดิสนีย์ได้วางภาพลักษณ์ไว้ ต่อให้โบได้หรือไม่ได้ แต่ถ้าสมมติคนนั้นเป็นคนที่เหมาะสม โบก็ดีใจ เพราะโบก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองเสียงค่อนข้างแหบ ถ้าไปโดยที่ไม่มีความเหมาะสม จริงๆ โบก็กลัวนะ ก็ถามทางทีมตลอดว่าหนูจริงเหรอ ก็ถามว่าถ้าไม่ใช่หนูทางทีมได้ดูใครไว้ อยากรู้ว่าทางดิสนีย์ไว้วางตัวไว้ว่าเป็นโทนเสียงประมาณไหน”
บอกแอเรียลยุคนี้มีการปรับให้เข้ายุคเข้าสมัยมากขึ้น อยากให้ทุกคนเปิดใจ
“เรารู้ตัวอยู่แล้วว่าเราเสียงแมนเกินกว่าที่จะเป็นเจ้าหญิงแอเรียล และเขาก็เป็นเจ้าหญิงที่ค่อนข้างใช้เสียงร้องเพลงเป็นหลัก แต่ตั้งแต่ไปเขาก็ไม่ได้มีโจทย์ใดๆ ให้นะคะ เราก็แค่ไปแคส พอรู้ผลเขาก็บอกว่าทางนั้นได้เลือกมาแล้วว่าจะเป็นเรา เขาได้คิดมาแล้ว แต่โบไม่ทราบว่ามีใครมาแคสร่วมกับโบบ้าง แต่พอได้แล้วก็รีเช็กกับทางดิสนีย์เหมือนกันว่าโบเหมาะสมจริงๆ แล้วใช่ไหม
แต่ตอนนี้ดิสนีย์ก็เปิด มันเป็นเจนใหม่แล้ว หลายๆ อย่างก็ได้รับการยอมรับมากขึ้น มันอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่เราได้เห็นตอนเด็กก็จริง แต่เราก็ต้องยอมรับว่าสมัยนี้โลกมันเปิดมากขึ้น ใครสามารถเป็นอะไรก็ได้ แค่มีความฝัน โบว่าดิสนีย์ตั้งใจสื่อแบบนั้น แต่สุดท้ายแล้วถึงทุกอย่างจะถูกปรับให้ทันสมัยให้เข้ากับทุกเพศทุกวัยมากขึ้น แต่ความคลาสสิกของดิสนีย์ก็ยังเป็นดิสนีย์เหมือนเดิม”
เผยเป็นการแคสที่ยากมาก พร้อมขอคารวะแด่นักพากย์ทุกคน
“โบก็แอบกังวล เพราะไม่เคยพากย์มาก่อน มีแต่พากย์เล่นๆ แต่เขาก็บอกว่าไม่ต้องกังวล แต่ในทั้งเรื่องมีเพลงอยู่ 20 กว่าเพลง แต่เราไม่สามารถเอาเพลงนั้นๆ กลับไปฟังที่บ้านได้ เราต้องอยู่หน้างาน และเขาจะให้เวลาเราแกะ 15-30 นาที โดยที่ไม่มีไกด์อะไรให้เลย มีแค่โน้ตให้เราอ่าน ตอนนั้นก็กังวลว่าเราจะทำได้ไหม ในส่วนของบทพูด ต้องกราบนักพากย์ทุกท่านจริงๆ เลยค่ะ เพราะมันเป็นความยากตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าไปนั่ง เพราะเขาไม่มีไกด์ให้เรา เขามีแค่บท มีตัวเลขวินาที เสี้ยววินาที มันละเอียดมากๆ
ตอนนั้นโบก็ไม่ได้หวังว่าจะต้องแบ๊วขึ้นหรือเป็นเจ้าหญิงขึ้นเพื่อให้ได้เป็นแอเรียล แต่เขาบรีฟมาให้ยังไงก็ทำอย่างนั้น เขาบรีฟมาว่าให้เป็นโบกี้ที่เป็นเจ้าหญิงที่อยู่ในน้ำและมีความอ่อนโยนมากขึ้น ใช้โทนเสียงที่อาจจะสูงขึ้นมา
ถามว่าหนูเหมาะกับแอเรียลไหม หนูไม่มีความคิดเห็น ณ ตอนแรก หนูแค่คิดว่าเรามีสิทธิด้วยเหรอวะที่เราจะได้อะไรแบบนี้ แต่หนูก็บอกทางทีมตลอดว่าถ้าเราไม่เหมาะสมหรือมันดูฝืนจริงๆ เราคงไม่ภูมิใจกับสิ่งที่เราฝืน ถ้าดิสนีย์เขาไม่เลือกเราก็จะอีกเรื่อง แต่นี่เขาเลือกไง พอเขาเลือกเราก็อยากมั่นใจอีกว่าเขาเลือกนะ เพราะเราตั้งใจมาก เรียกว่าคลั่งไคล้ที่จะทำงาน รวมถึงเป็นงานที่เราชอบ อยากตื่นมาทำงานทุกวัน”
บอกงานนี้ไม่ใช่ว่าแค่มีชื่อเสียงหรือมีเงินก็ทำได้
“ดรามาแย่งงานนักพากย์เหรอคะ คือไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลยค่ะ ถ้าพูดผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วย แต่พอเข้าใจได้ว่าไม่ได้เป็นนักพากย์มืออาชีพ แต่ได้ทำงานแรกก็เป็นงานใหญ่แบบนี้เลย แต่ตัวโบเองก็ระมัดระวัง และทำงานหนักมากๆ ค่ะ ก็อยากให้รอดูนะ แต่ถ้ารู้สึกว่ามีตรงไหนที่ไม่เข้า ก็คงเป็นปกติของแฟนๆ ที่สามารถวิจารณ์หรือวิเคราะห์ตัวภาพยนตร์ได้อยู่แล้ว เพราะสิ่งนี้ก็เป็นเรื่องที่เป็นตำนานมาไม่รู้กี่สิบปี
ที่คนวิจารณ์ว่าเสียงไม่เหมาะ โบก็เคยคิดแบบนั้นค่ะ (หัวเราะ) แต่พอได้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์ของภาพยนตร์จริงๆ โบรู้สึกว่าความหลากหลายที่เกิดขึ้นเขาถูกคิดมาไม่รู้กี่ชั้นแล้ว โบเชื่อใจดิสนีย์อยู่แล้วค่ะ แต่จริงๆ ตอนแรกว่าจะไม่เสียใจ แต่ก็เสียใจ เพราะนั่งอ่านทุกอย่างเหมือนกัน จริงๆ เข้าใจนะว่าเสียงเราอาจจะไม่เหมาะ แค่อยากให้ลองดูก่อนค่ะ
คิดว่าชื่อเสียงทำให้เขาเลือกเราไหม คือในสภาวะของการรู้จักใครสักคนแล้วอยากจะให้คนนี้มาแคส ก็อาจจะมีโอกาสตรงนี้ แต่ทั้งโบและพี่ว่านที่ได้รับบทพากย์เรื่องนี้ คนอาจจะคิดว่าเราเป็นคนดังหรืออะไร หยุดค่ะ ถ้าคุณไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้าง กว่าจะมาเป็นตรงนี้มันไม่ใช่แค่อยู่ดีๆ เดินเข้ามาแล้วฉันขอพากย์มันก็ไม่ใช่ มันเป็นสิ่งที่เราสั่งสมสิ่งนี้มาเป็นสิบๆ ปี เราทำมันมาตั้งแต่เกิด โดยที่เราไม่ได้หวังด้วยซ้ำว่าเราจะต้องมาดังจากสิ่งนี้ หรือต้องมาดังจากอาชีพนี้ แต่เพราะเราจริงใจกับสิ่งนี้จริงๆ สิ่งแบบนี้ไม่ใช่ว่ามีเงินก็จะทำได้นะคะถ้าเขาไม่ได้เลือกคุณ”
ภูมิใจที่ตัวเองฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างมาได้จนถึงวันนี้
“ด้วยดรามาที่รู้สึกว่างงๆ ก็คือเรื่องของพี่ว่าน รวมถึงตัวเองด้วยเกี่ยวกับว่ามันดูง่ายเนอะที่จะดึงคนนี้มาแล้วพากย์ มันไม่ง่ายเลยค่ะ คนอาจจะคิดว่าเราเดินมาด้วยทางสะดวก ไม่ผ่านขวากหนามอะไรเลย จริงๆ กว่าเราจะมาถึงตรงนี้ได้ในจุดที่เราก็ภูมิใจของเรา เราก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนที่ทุกคนเคยผ่านมาเหมือนกัน โดยที่คุณก็ไม่รู้หรอกว่าเราเจออะไรมาบ้าง เราตั้งใจกับสิ่งนี้จนทุ่มชีวิตให้สุดๆ
มันสำคัญที่ทุกครั้งที่เราล้ม โชคชะตาก็ไม่ได้ช่วยให้เราลุกขึ้นมานะคะ มีแต่เราสาระแนลุกขึ้นมาเอง ในเส้นทางของดนตรี เราวินาศสันตะโรมามากแล้ว บางอย่างมันก็เป็นสิ่งที่ดี เราก็อยากยินดีกับตัวเองในสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับเรา แต่ในส่วนของความเห็นต่าง ขอน้อมรับไว้ทุกๆ อย่าง แต่อยากให้ลองเปิดใจดูก่อน ถ้าสุดท้ายแล้วไม่เข้าหรือเสียงยังดูไม่เวิร์ก ก็เป็นจุดที่ไม่ว่ากันในการวิจารณ์ค่ะ”
เผยแค่คำว่าเสียงแหบก็รู้สึกเจ็บมากแล้ว
“ที่รู้สึกเจ็บจี๊ดที่สุดเหรอ จริงๆ คอมเมนต์ว่าเสียงแหบก็จี๊ดแล้วนะคะ ฟังแล้วก็เจ็บคออยู่ ตอนที่สัมภาษณ์ ทีมดิสนีย์ก็ให้ร้องสดในแบบที่ร้องในโรงภาพยนตร์ และเสียงเราก็แหบมาก ก็ไม่รู้ว่าจะต้องให้ใครมาคาดหวังอะไรเรา เพราะอย่างน้อยเราก็เชื่อใจดิสนีย์ เหมือนกับที่ดิสนีย์ก็เชื่อในตัวเรา
โบจะเป็นแนวว่าถ้าเขาจะให้ทำอะไร โบจะเน้นว่าถ้ายังไม่ดีขอใหม่ๆ จนเขาบอกว่าโทษนะ มันไม่ดีตรงไหน ลองบอกสิ ก็บอกว่าทุกตรงเลยค่ะ และสายตาทุกคนเหมือนว่าเอาไปอัดเองไหม เราก็บอกว่าอยากให้มีเสียงหลายๆ แบบ เพื่อให้เขาเลือกใช้ได้ง่ายๆ เราก็เลยทำหลายแบบที่จะทำได้ไปเลย
คือปกติโบร้องเพลงก็จะร้องเพลงป๊อป มันก็จะมีการใช้เสียงที่แตกต่างจากการใช้เสียงในการพากย์ และการพากย์เป็นแอเรียลครั้งนี้เราต้องลืมความป๊อป ความโบกี้ไลออนในตัวเองไปค่อนข้างเยอะ เพราะนี่ไม่ใช่หนังของเรา แต่เป็นหนังของเจ้าหญิงแอเรียล โบไม่รู้หรอกว่าจะถูกใจไหม แต่โบมั่นใจว่ามันเป็นเสียงที่ทางดิสนีย์ต้องคัดสรรมาแล้วว่าเหมาะสมที่จะเป็นตัวละครนี้ ก็อยากให้ทุกคนเปิดใจลองชมกันค่ะ”