“ทราย” ยอมรับเครียดถูกหาว่าเป็นนักแสดงร้อยล้านซื้อไซยาไนด์ บอกว่าไม่ใช่ตนก็ไม่มีคนเชื่อ แถมยังปักใจด่าตลอดเวลา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเม้าธ์กันเล่นๆ บอกวางแผนเอาผิดคนที่มาด่าทอตนเสียๆ หายๆ บอกอะไรๆ ก็กู ขอให้พอแค่นี้ เพราะถึงเจอมาเยอะ แต่ก็ยังไม่ชิน
ถึงจะเฉลยแล้วว่านางเอกร้อยล้านซื้อไซยาไนด์คือใคร แต่คนที่ถูกคาดเดาเป็นคนแรกๆ ก็คือสาว “ทราย เจริญปุระ” ซึ่งต้องบอกว่าเวลามีเรื่องอะไร ชื่อของเจ้าตัวมักจะปรากฎขึ้นมาในชื่อแรกๆ เสมอ แต่ครั้งนี้พอมีการคาดเดาออกมา สาวทรายก็รีบออกมาบอกทันทีว่าไม่ใช่ตนแน่นอน เพราะเป็นข่าวใหญ่ที่กำลังเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ ๆ
“สภาพจิตใจก็ดีขึ้นนิดนึง คือเรารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรา แต่มันก็ยังมีคนวอแวว่าใช่หรือเปล่า ยังสืบไม่ถึงหรือเปล่า ทำไมเหรอ ทำไมจะต้องให้เป็นเราให้ได้ มันไม่ใช่เราแล้วเสียใจเหรอ หรือยังไง (หัวเราะ)ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่ๆ ก็ยอมรับว่าตกใจมาก เราเป็นมนุษย์ที่อยู่ๆ ก็จะโดนข่าวแปลกๆ อะไรแบบนี้เรื่อยๆ แต่มันก็เป็นเชิงเหมือนข่าวเม้าธ์จุกจิก แต่อันนี้มันเป็นคดีที่ร้ายแรง ข่าวมันก็ดัง แล้วคดีมันยังไม่เสร็จสิ้น แล้วอยู่ๆ มีชื่อขึ้นมา มันก็ไม่ใช่แล้ว เรารู้ตัวว่าไม่ใช่เราแน่ๆ มันเกินกว่าข่าวที่จะเม้าธ์เล่นกันทั่วไป
ถามว่ารู้จักไซยาไนด์มาก่อนไหม คือเราอ่านนิยายสืบสวน ไดอิจิ โคนัน มันต้องมีชื่อนี้ขึ้นมา แต่เราไม่ได้รู้ขั้นตอนกระบวนการว่าเขาเอามาใช้ยังไง แต่เรารู้ว่าพวกร้านเครื่องประดับ เชื่อมทอง เชื่อมเหล็กใช้ นี่ก็รู้จากนิยายล้วนๆ นะ ก็รู้ว่ามันคือสารพิษรุนแรง พอเริ่มเห็นมีข่าวว่ามีชื่อนักแสดงสั่งซื้อ แล้วนักแสดงมีเป็นพัน เป็นหมื่น เราก็นึกในใจว่าใครวะ วันรุ่งขึ้นก็ไปกอง แล้วมีเพื่อนแคปข่าวมาให้ดูว่านางเอกร้อยล้าน เราก็ยังนึกว่าเพื่อนอำ เพื่อนก็บอกว่าที่แคปมาให้เพราะมีคนทายชื่อ บางคนเป็นชื่อย่อ บางคนเป็นชื่อเต็มมาเลย แล้วมันคิดเป็นคนอื่นไม่ได้”
ยอมรับว่าโกรธ ทั้งๆ ที่ชี้แจงแล้ว แต่คนก็ไม่เชื่อ
“วันนั้นด้วยความที่อยู่กอง ถ้าปล่อยให้เนิ่นนาน เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะจบ พอตอนเย็นตำรวจจะมาเลยหรือเปล่ามาสอบถามว่าคุณมีชื่อเกี่ยวข้องอะไรแบบนี้ เราก็เลยต้องรีบออกมาบอกก่อนว่าไม่ใช่นะคะ คราวนี้ก็วุ่นวายมาก ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยากให้เป็นเราให้ได้ จริงๆ ในเนื้อข่าวก็ระบุว่าเป็นภาพยนตร์คอมเมดี้ สายฮา นี่ก็ไม่ได้เล่นนะ เรื่องที่ได้ก็ไม่ได้ฮา
ถามว่าโกรธไหม คือตอนที่เขาใบ้ก็ยังประมาณนึงค่ะ เพราะใจเรารู้ว่าเราไม่ใช่อยู่แล้ว เพราะนางนากก็ 20 กว่าปี นเรศวรก็นานมากๆ แล้ว ก็คงวนมาไม่ถึง แต่พอวนมาถึง แล้วคนที่ทายก็ดื้อมากจริงๆ เราก็เลยเขียนว่าในข่าวเขาเขียนว่าสายฮา หนังเราไม่ฮานะ แล้วก็มีคนเขียนว่าพี่ทรายเขาเขียนแล้วว่าไม่ใช่เขานะ แต่ก็มีบอกอีกว่าถึงใช่เขาก็บอกว่าไม่ใช่หรอกค่ะ
แล้วบอกว่าที่เราผอมเพราะไซยาไนด์ คือคนเรามันจะเสพไซยาไนด์เหรอ (หัวเราะ) แล้วก็โยงไปอีกว่าเป็นซึมเศร้าหรือเปล่า ก็เลยเอามาเพื่อทำอะไรแบบนั้น คือเราหยุดกินยาซึมเศร้ามาได้ 3 ปีแล้ว อาการเราโอเค และตอนที่เป็นเราก็หาหมอ กินยาของหมอตลอด และไม่ได้มีแนวโน้มจะทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายคนรอบตัว อาจจะพูดอะไรงี่เง่าบ้าง แต่ก็ถือว่าไม่ได้มีความรุนแรงหรือทำร้ายอะไรใคร”
เผยแคปข้อความที่โดนด่าเอาไว้หมดแล้ว
“เราว่ามันกระทบไปหมดเลย ที่กองพอเขารู้เรื่องก็บอกว่าไม่ต้องคิดมาก ต้องดีใจหรือเปล่ามีคนคิดถึง ก็บอกไม่ดีใจ (หัวเราะ) มันร้ายแรงมากๆ คนใกล้ชิดรู้ว่าเราเป็นยังไง และวันนั้นโชคดีมากที่อยู่กอง ก็มีคนให้กำลังใจเยอะ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเรื่องโรคซึมเศร้านะคะ มันเป็นเรื่องการโยงมากกว่า เพราะ 100 ล้านมันก็มีประมาณ 20 คนวนอยู่แค่นี้แต่มันเป็นที่เราอีกแล้ว เรื่องดีๆ ทำไมไม่วนมาบ้างวะอะไรแบบนี้
ถามว่าจะแจ้งความไหม จริงๆ ก็มีแคปข้อความที่ค่อนข้างร้ายแรง ค่อนข้างไม่โอเคไว้ แต่ตอนนี้ด้วยความที่ทรายออกกอง ก็ขอเอาใจกับสมาธิไปอยู่หน้ากองก่อน เพราะการฟ้องร้องเราก็ต้องมานั่งอ่านว่าเขาด่าอะไร เขาสาปเรายังไง คือมันเสียเวลา และเราจะไม่มีสมาธิ เพราะจริงๆ แล้วเรื่องหมิ่นประมาทมันเริ่มตั้งแต่เราเห็นข้อความ และมีอายุความที่นานพอสมควรเหมือนกันค่ะ ถ้าหมดงานกองแล้วกลับมาฮึดได้ก็อาจจะค่ะ
ที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยได้รับคำขอโทษอย่างจริงใจเลยนะ ยกเว้นคำสั่งศาล เราคิดว่าบางคนก็คิดว่าแค่เดาเอง ข่าวมันชี้มา คือจริงๆ มนุษย์เราไม่จำเป็นต้องเป็นวงในในทุกๆ เรื่อง หรือรู้อะไรขนาดนั้นก็ได้ไหม เพราะยิ่งเรื่องแบบนี้ตำรวจเขาสืบอยู่แล้ว และมันเป็นคดีที่มีความสูญเสียเยอะมาก และมันยังไม่จบ มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสำหรับใครก็ตาม คุณอ่านข่าวคุณอาจจะมันส์ แต่คุณต้องนึกถึงว่าถ้าเป็นคนในครอบครัวคุณ หรือว่าเป็นชื่อคุณที่ว่าไปซื้อ แล้วเขาจะรู้สึกยังไง ไม่รวมกับคนที่หมั่นไส้อีทรายนี่อยู่แล้ว อันนี้ก็บันเทิงไปกันใหญ่เลย”
พ้ออะไรๆ ก็กู ไม่เคยชินกับเรื่องแบบนี้
“ทรายว่าคนทั่วๆ ไปส่วนใหญ่ก็อาจจะแค่เดาขำๆ อยากมีส่วนร่วม แต่บางคนที่จงใจมากๆ ที่จะให้เป็นเรื่องเป็นราวให้ได้ มันไม่มีประโยชน์กับใครเลยจริงๆ นะ คุณลองคิดดูว่าถ้าวันนึงไปทำงานแล้วเพื่อนล้อว่าอาจจะมีส่วนสั่งสารอันตรายอะไรแบบนี้มา มันไม่ตลกนะ แล้วที่แย่ที่สุดมีคนบอกว่าก็ชื่อทรายไงนะ ทรายยาไนด์ คืออะไร ให้เกียรติความทรงจำที่พ่อฉันตั้งชื่อจากหนังเขาบ้างนะ ก็เบาได้เบานะคะ คือถ้ายังปักใจขนาดนั้นก็คงเกินเตือน
ก็ยังพูดกันเองว่าอะไรๆ ก็กูเนอะ (หัวเราะ) คนจะบอกว่าชินไหม มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาชินหรือเปล่าวะ มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องสะกดตัวเองให้ชิน มันคือความที่คนพยายามพุ่งมาที่เรา เรื่องเม้าธ์ 9-10 เรื่องที่ผ่านมามันก็ไม่จริงสักเรื่อง คนก็พยายามจะให้จริงให้ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว มันเลยกลายเป็นว่าเราต้องอธิบายทุกครั้งถึงสิ่งที่มันไม่จริง และพอเราอธิบายไปคนก็บอกว่าไม่จริงหรอก ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกันค่ะ เหมือนพูดซ้ำพูดซากไปเรื่อยๆ พอแล้วนะปีนี้ ไม่เอาแล้วนะ จบได้จบ พอได้พอ”
