เป็นประเด็นอย่างต่อเนื่องสำหรับคอร์สหลักสูตร "เข็มทิศชีวิต" ของ "ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง" หลังคนในวงการต่างทยอยถอนตัวออกจากวงจรของเจ้าตัวกันมากขึ้น
ทั้งนี้ถ้าย้อนกลับไปก็ต้องบอกว่า "คอร์ส" การจัดสัมมนาปรึกษาปัญหาชีวิตของเจ้าตัวนั้นมีปัญหามาตั้งแต่แรกๆ แล้ว
เริ่มกันตั้งแต่ในรายการของนักร้องดัง "อุ๋ย บุดด้า เบลส" ซึ่งถูกติดต่อให้มาร่วมทำเพลงให้กับหลักสูตรอีกฝ่าย ทว่าหลังไปสังเกตการณ์เจ้าตัวจึงได้ตัดสินใจที่จะไม่ร่วมงานด้วย แต่สุดท้ายกลับมีภาพของเขาไปอยู่ในภาพโปรโมตการสอน จนนักร้องดังต้องแจ้งให้อีกฝ่ายเอารูปออก
เช่นเดียวกับในรายของดาราสาว "เอ๋ มณีรัตน์" ที่มีโอกาสได้เข้าร่วมคอร์สกับไลฟ์โค้ชคนดังในตอนนั้น ทว่าสุดท้ายก็ได้ถอนตัวออกมาโดยให้เหตุผลว่าแนวทางไม่ตรงกัน แต่กระนั้นก็ยังมีภาพของเธอไปปรากฏในการสอนของอีกฝ่ายอยู่บ่อยครั้งจนเธอต้องออกมายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
“ใครที่เห็นเอ๋จากตรงนี้ คอร์สนี้หรือสื่อใดๆ จากที่นี่ นั่นมันนานมากแล้วนะคะ แต่ก็ยังมีการเอามาใช้วนเวียนจนถึงปัจจุบัน และก็ไม่ได้มีใครบอกว่าจะเอามาใช้ในการโปรโมทนะคะ"
อีกคนที่กลายเป็นข่าวขึ้นมาก็คือในส่วนของ "ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ" หลังเจ้าตัวได้ออกมายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับอีกฝ่ายและให้ครูอ้อยลบภาพที่ตนไปเกี่ยวข้องออกให้หมด
ขณะที่ครูอ้อยเองพยายามจะชี้แจงว่าทางด้านครูเงาะมีการเซ็นยินยอมให้ตนนำภาพไปโปรโมตได้ ซึ่งทางด้านของครูเงาะออกก็ออกมาสวนทันทีว่าไม่ใช่เรื่องจริงพร้อมถามหาหลักฐานที่ว่า
เรื่องบานปลายเมื่อมีข่าวครูอ้อยออกมาให้ข่าวถูกหมิ่นประมาทและข่มขู่เพื่อกรรโชกทรัพย์เป็นเงินถึง 11 ล้านบาท หนึ่งในนั้นปรากฏว่าได้มีชื่อของครูเงาะอยู่ด้วยจนเจ้าตัวตัดสินใจต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมหลักฐานและยืนยันว่าหากอีกฝ่ายฟ้องมาจริงๆ ตนก็จะฟ้องกลับอย่างแน่นอน
แต่คนที่สร้างความแปลกใจไม่น้อย ก็เห็นจะเป็นในรายของพิธีกรหญิง “กาละแมร์ พัชรศรี" ที่ถือได้ว่าเป็นลูกศิษย์ก้นกุฎิที่มีความสนิทชิดเชื้อถึงขนาดมีการลงทุนทำอสังหาซื้อขายคอนโดฯ ตลอดจนลงหุ้นทำธุรกิจ "พาวเวอร์ชอต" ร่วมกัน แถมยังออกหน้ารับหากอีกฝ่ายมีปัญหาเข้ามา
ทว่าจู่ๆ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาทางพิธีกรดังก็ลบภาพที่แสดงถึงความสนิทสนมกับอีกฝ่ายจนเกลี้ยงและประกาศไม่ขอเป็นหุ้นส่วนกับอีกฝ่ายโดยให้เหตุผลว่าทัศนคติไม่ตรงกัน
งานนี้แม้จะไม่มีการสัมภาษณ์ให้ร้ายอะไรแต่จากการที่เจ้าตัวระบุว่าหากอีกฝ่ายมีการนำรูปตนไปใช้เพื่อโฆษณา ตนก็จะใช้กฎหมายดำเนินคดีทันทีก็เป็นการยืนยันได้ดีว่าทั้งสองจากกันด้วยดีหรือไม่อย่างไร?
รวมถึงล่าสุดในรายของ "ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด พงศ์สุชาติ" ที่ออกมาเผยว่าหลงลัทธิฯ จนชีวิตเกือบพัง
นักแสดงดังระบุว่าตลอดระยะเวลา 7-8 ปีทีผ่านมาใครเตือนใครห้ามก็ไม่ฟัง ไม่คบเพื่อน มีแฟนก็เลิก เพราะรู้สึกว่าทุกคนคือมาร คือคนบาป มาขัดขวางการทำความดี และงานในวงการที่มีก็มองเป็นเรื่องไร้สาระ ซึ่งผลพวงที่ตามมาก็คือเงินเก็บหลักร้อยล้านก็หมด แถมยังเป็นหนี้ 50 ล้านอีกต่างหาก
“เกิดจากความที่เราอยากมีก่อนหนึ่ง แล้วเราก็เห็นภาพลักษณ์อันดีนั้นสอง แล้วก็เซ็ตติ้งที่มันน่าเชื่อถือ มีคนพูดว่าทำไมถึงหลงจัง คนอย่างเธอทำไมถึงหลงขนาดนั้น โดนให้กินอะไรหรือเปล่า คำตอบคือไม่รู้จริงๆ เพราะว่าอันที่เราไม่รู้ เราพูดไม่ได้ แต่เราไม่ปกติจนคนสงสัยแบบนั้น ซึ่งถ้าไม่มีหลักฐานเราพูดไม่ได้ค่ะ”