สู้ชีวิตมากที่สุดคนหนึ่ง สำหรับ “คุณหญิงแมงมุม ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล” หลังล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบ (Stroke) เนื่องจากออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ แถมยังต้องต่อสู้กับโรคประจำตัวอย่าง SLE หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง มีอาการมาตั้งแต่ปี 2552 ต้องเข้าๆ ออกๆ รพ.นาน 6 ปี ล่าสุดยังสูญเสียการมองเห็น และต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ล่าสุด “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” ได้พาคุณหญิงแมงมุม พร้อม “นายพลดอลล่าร์ พล.ต. พัชร รัตตกุล” สามีที่คอยดูแล มาเปิดใจเรื่องราวความรักผ่านรายการแฉ ซึ่งคุณหญิงแมงมุมเผยว่าเรื่องดวงตาที่มองไม่เห็น ใครจะไปคิดว่าวันนึงจะเกิดขึ้น ตอนเด็กเราก็ใช้ชีวิตกันมันมากเลย ตอนนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ ต้องเข้าๆ ออกๆ รพ. เป็นเวลา 6 ปีแล้ว นายพลดอลล่าร์ทำงานออนไลน์ ต้องให้เวลาภรรยาเยอะมากเพราะสถานภาพเปลี่ยนไปเยอะ ตั้งใจอยู่กับเขาให้มาก โดยยืนยันไม่ท้อ ต้องไม่เหนื่อย เห็นเขาอยู่สภาพแบบนี้ เราต้องลืมตัวเอง
ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลนั้น เยอะมากๆ หลักร้อยล้านน่าจะได้ เริ่มจากปี 2561 คุณหญิงแมงมุมเส้นเลือดตีบในสมอง เป็นสโตรก มกราคม 2561 ถึงปัจจุบัน เขาเป็น SLE อยู่แล้ว ตั้งแต่อายุ 18 ก่อนหน้านั้นเขาก็เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลอยู่แล้ว ปีหนึ่ง 5-6 ครั้ง อย่างมาก พอปี 2561 หลังเป็นสโตรกก็ลงเหวมาเรื่อย ต้องฟอกไตทุกสองวัน
นอกจากนี้นายพลดอลล่าร์เผยเรื่องลุ้นหัวใจหยุดเต้นว่า เป็นภาวะซับซ้อน ภรรยาร่างกายเป็นทั้ง SLE เส้นเลือดอักเสบ มีประวัติเส้นเลือดสมองตีบ ไตวาย โรคเขาเยอะ แม้หลายครั้งๆ ที่เขาไปแล้วตนก็บอกว่าไปไม่ได้ ต้องเอากลับมา เพราะคิดว่าสมองเขายังดี ใจเขายังสู้ แต่ท้ายที่สุดอยู่ที่เขา แต่เราก็มองว่าเดี๋ยวมันต้องดีขึ้น เราต้องไม่ยอมแพ้
ขณะที่คุณหญิงแมงมุมเผยว่าตนสู้ แต่ท้อไหมก็มี บางทีมันเหนื่อย ป่วยอีกแล้วเหรอ ต้องทำอันนี้อีกแล้ว ทำอันนั้นอีกแล้ว เหนื่อยด้วย เจ็บตัวด้วย เจ็บปวด 24 ชั่วโมง ลืมตาหรือตื่นจะเป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง ปวดท้องเรื้อรังเป็นปีๆ แล้ว ต้องใช้ยาระงับความปวด วันหนึ่งต้องฉีดยา 50-70 เข็ม ทรมาน ถ้าจะหลับต้องใช้ยากึ่งๆ ยาสลบ ขณะที่สามีพยายามหาเทคโนโลยีใหม่ๆ แว่นตาช่วยเรื่องการมองเห็น จนแมงมุมต้องบอกหยุดซื้อได้แล้ว เพราะมองไม่เห็นอยู่ดี เขาคิดบวกมากๆ เวลาเราท้อเขาคือพลังผลักดัน รวมทั้งพ่อแม่ น้องชาย ครอบครัว ช่วยผลักดัน วันหนึ่งมันอาจดีขึ้นได้ ตอนนี้เราก็ใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม อาจจะไม่สุดเท่าเมื่อก่อน แต่เราก็มีความสุขได้หลายๆ ทาง ยอมรับว่าเรายังมีความฝัน ยังอยากทำหนังแนวชีวิตจริง อย่าง ไอซ์หีบเหล็ก หรือ แอม ไซนาไนด์ ก็อยากทำ
นอกจากนี้นายพลดอลล่าร์เผยว่าตอนแต่งงานตนอายุ 50 แล้ว ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าเขาป่วย SLE แต่รู้แค่ว่าตอนนั้นต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ ตอนนั้นก็ช่วยเขาจัดยาให้เขากินมาตลอด ส่วนทุกวันนี้มีคุณพยาบาลช่วย วันหนึ่งเขายังต้องกินยา 50-60 เม็ดด้วย ส่วนอาการป่วยเขาคือมาแย่ก็ตอนเป็นผู้กำกับ
ส่วนเรื่องที่นายพลดอลล่าร์จะเปลี่ยนเอาไตตัวเองให้แมงมุมว่า หมอไม่ให้ บอกว่าไตแก่ไป ทางแมงมุมก็ไม่ยอม จริงๆ น้องชายเขาก็จะให้ แต่ไม่เอา คือเราจินตนาการว่าน้องต้องเจ็บ และมันเสี่ยง คุณหญิงแมงมุมเผยว่าเครื่องปั๊มหัวใจทรมานมาก เจ็บมาก ล่าสุดปั๊มไป 4 ที หมอฉีดยานอนหลับให้ ยังไม่ทันหลับเขาช็อตไปแล้ว รู้สึกตัวเด้งกระตุก เจ็บมาก คือเดี๋ยวนี้เขาก็พัฒนาแล้วไม่เหมือนในหนัง ซึ่งตอนนั้นเป็นเหตุการณ์หัวใจใกล้หยุดเต้น ส่วนที่เหมือนในหนังคือครั้งก่อน ปั๊มหัวใจกับซีพีอาร์ เป่าปาก ปั๊มซี่โครงร้าวไปซี่หนึ่ง หัวใจหยุดเต้นไป 12 นาที ปกติสมองต้องบวมต้องตายไปแล้ว แต่โชคดีที่เราอยู่ในโรงพยาบาล หมอเตรียมอุปกรณ์ล่วงหน้า พอหยุดแล้วเขาปั๊มเลย หยุดไป 12 นาที แต่สมองไม่เสียหาย ซึ่งน้อยมาก
คุณหญิงแมงมุมเผยว่าตอนนี้ตนสู้เพื่อครอบครัว เพี่อสามี เพื่อพ่อแม่ เพื่อทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ตน เขายังมีกำลังใจให้เรา เราก็ท้อไม่ได้ ยอมรับว่าทรมาน ขณะที่นายพลดอลล่าร์เผยว่าตนสู้กับคุณหญิงแมงมุม เพราะเลือกแล้วว่านี่คือภรรยา ต้องเป็นเพื่อนกันไปจนตาย แต่ทำด้วยความสุข ไม่ได้บังคับตัวเอง ทำด้วยความเต็มใจไม่มีใครมาบังคับ คนที่เรารักเขาอ่อนแอ เขาเจ็บปวด เราก็ต้องเข้มแข็ง อาบน้ำโบกเดียวก็หาย
ขณะที่คุณหญิงแมงมุมขอบคุณสามีที่ทำให้ทุกอย่าง รู้สึกได้ถึงความรัก ความใส่ใจ ความเข้มแข็ง ถ้าไม่มีสามีป่านนี้คงแย่ไปกว่านี้
