ประกาศโสดแล้วแน่นอน สำหรับ “เบส รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มิหนำซ้ำ “สมรักษ์ คำสิงห์”พ่อของเบสยังออกมาแฉพฤติกรรมของอดีตแฟนเก่า “ตงตง กฤษกร กนกธร”หรือ “ตงตง เดอะสตาร์” ยับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเจ้าชู้ และไม่ค่อยแมน มาอยู่ที่บ้านแต่ไม่ควักเงินช่วยเหลือเลยสักบาท
ล่าสุด เบท รักษ์วนีย์ ได้ไปดูดวงกับหมอดูชื่อดัง ในรายการ คุยแหลกแดกดึก รายการของ “มดดำ คชาภา ตันเจริญ”ที่มดดำเปิดบ้านให้เบสมาดูไพ่ ซึ่งเทปนี้มดดำเองก็ได้เผยความสามารถอีกด้านของตัวเอง นั่นก็คือเรื่องของการดูดวง เมื่อมดดำเห็นไพ่ที่เบสเปิดได้ ก็ทักเลยทันที เริ่มจากเรื่องงานที่เบสถามถึงละครเรื่องใหม่
“ละครดี จะทำเงินแน่นๆ เลย ทำไมชีวิตถึงมีผู้ชายเข้ามาเยอะจัง แล้วแพ้ผู้ชายตัวขาว (พร้อมยกไพ่ยื่นให้เบส) มึงมีแฟนใหม่แล้ว เป็นผู้ชายตัวขาว ซึ่งเบสก็บอกว่ายังไม่มีจริงๆ ใครจะมีเร็วขนาดนั้น ความรัก เป็นฉัน ฉันเบรก มีไพ่ขึ้นมา มันบอกว่าถ้าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ฉันเบรก เพราะมันเป็นไพ่ที่แย่ที่สุด แล้วพูดจริงๆ นะ เงินก็หมด อย่าหวังเลย ถามเรื่องการเงินดีกว่าว่าจะดีไหม เรื่องความรักอยู่ยาวๆ เป็นโสดไป 9 เดือน ถึงจะมี รอไปก่อน”
มดดำเผยอีกว่าการเงิน ก็ดีนะ แต่สถานการณ์ตอนนี้การเงินตึงเครียด แต่หลังจากนี้ไปจะดี ทำเอาเบสเกร็ง ถึงกับเอ่ยปากกลัวคำทำนายมดดำ เพราะพูดตรงมาก จากนั้น มดดำ ก็ ชวน เบสคุยถามว่าตอนนี้หัวใจเป็นยังไง ซึ่งเบสตอบว่า “หัวใจสบายดีค่ะ เลิกกันตอนสงกรานต์ ถามว่าเศร้าไหม ก็ผ่านมาแล้วค่ะ
หลังจากพ่อบอกปุ๊บ ถามวามีโอกาสเคลียร์กับเขาไหม คือคุยกันตลอดอยู่แล้ว ตอนที่มีปัญหาคุยกันมาตลอดอยู่แล้ว ตอนที่มีปัญหาเขาก็รู้ปัญหาทุกอย่างอยู่แล้ว พ่อกับแม่ก็รู้ (ทุกวันนี้แข็งแรงแล้ว?) ใช่ สบายดีค่ะ รักแท้ก็หวังตลอดนะ หมายถึงว่าพอมีแฟนก็ต้องคนนี้แหละๆ”
มดดำถามต่อว่าอะไรคือจุดสุดท้ายกับความรักที่เราไม่ไหวแล้ว ต้องจบ เบสก็เผยว่า “เอาเป็นว่าเบสกับพี่เขารู้กันแล้วกัน แค่นั้นแหละ พร้อมแล้วเดี๋ยวตอบค่ะ ตอนนี้ยังไม่พร้อม”
ส่วนฟางเส้นสุดท้าย เบสเผยว่ามันมีเวลาของมัน ถามว่าจะมาเมื่อไหร่ ก็ด้วยอะไรหลายๆ อย่างด้วย เวลาที่พร้อม มันจะมีเวลานั้นเอง
ยอมรับชอบเปย์ มีล้านให้ 5 แสน ไม่เคยเสียใจที่ให้
“ชอบเปย์นะ เปย์พ่อแม่ เปย์คนรัก เพื่อนก็เปย์ เปย์น้องชายด้วย แต่เวลาจะเปย์ก็ต้องดูว่าอะไร ไม่ใช่ว่ามีล้านนึงให้ล้านนึง ไม่ใช่ จะเป็นถ้าเรามีล้าน จะให้ 5 แสน ถามว่าพ่อแม่เบรกไหม พ่อแม่ให้เราตัดสินใจเองหมดเลยตั้งแต่เด็กๆ เลย ไม่ว่าจะตอนทำงานหรือกับอะไรก็ตาม คบเพื่อนก็ตัดสินใจเองหมด ถามว่าเคยให้ไปแล้วเสียใจไหม ไม่ๆ ไม่เคย เรายินดีให้เขา"
จากนี้โฟกัสเงินเพื่อครอบครัว รักเป็นรอง
“เบสว่าทุกเรื่องที่ผ่านมาทำให้โตขึ้น เราโตขึ้นเร็วกว่าคนที่อายุเท่าเรา หมายถึงว่าบางคนอายุเท่าเรา 23 เขาอาจจะไม่ได้มีวิธีการคิด วิธีจัดแจงชีวิตเป็นระบบแบบเรา อย่างเราเองเราเห็นแล้วว่าบ้านเราเดือนนึงต้องใช้เงินเท่าไหร่ อนาคตน้องชายและครอบครัวต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ มันเห็นภาพนั้นแล้ว แล้วก็เห็นแล้วว่าจุดที่เราต้องโฟกัสชีวิตคือเงิน บางทีความรักเป็นรองเงินด้วยซ้ำ เราต้องหาเงินให้ได้มากที่สุด มากแบบมากที่สุด ไม่ใช่ว่าเพื่อเรานะ แต่เพื่อคนที่อยู่ข้างหลังเรา เช่น น้องชาย”
อ่านทุกคอมเมนต์ เสียใจให้สุด ก่อนฮีลใจตัวเอง
“ไม่ได้บอกพ่อแม่นะคะ เพื่อนก็ไม่ได้บอก คนรักก็ไม่ได้บอก ส่วนใหญ่อยู่กับตัวเอง เราอ่านคอมเมนต์หมด เสียใจแหละแต่ว่าเราอยู่กับตัวเอง เราไม่รู้ว่าจะไปแสดงจุดอ่อนแอให้คนอื่นทำไม สุดท้ายก็ได้แค่บอกว่า ไม่เป็นไร เขาไม่ได้รู้จักเรา เขาก็ได้แค่นี้ สุดท้ายแล้วเราต้องฮีลใจตัวเองด้วยตัวเอง เราต้องอ่านให้หมดแล้วเสียใจให้สุด แล้วมันจะมีจุดนึงว่าไม่เป็นไร ใช้ชีวิตต่อ แล้ววันนึงที่คนเข้าใจเรา หรือแม้แต่คนที่คอมเมนตืไม่ดี แล้วเขากลับมาชมเราบ้าง หรือชมแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ เราก็รู้สึกดีใจมากว่าเขาเห็นแล้วว่าเราเป็นแบบนี้นะ ไม่ใช่แบบที่เขาไม่ชอบ มันจะรู้สึกมีแรงฮึดว่าเราจะต้องทำดีให้เขาเห็นอีก วลาทำงานหนูเฮฮาเต็มที่ เวลาอยู่บ้านก็ไม่ได้โชว์ให้ใครเห็นว่าเราเสียใจหรือคิดอะไร ทุกเรื่องเลยเราอยู่กับตัวเอง”
ในขณะที่ “คุณแม่อ้อย” แม่ของเบส เผยเหตุผลที่ไม่อยากให้ลูกสาวพูดถึงปมปัญหาความรักว่า “ก็..ไม่พูดดีกว่า” ส่วนเรื่องที่สามีออกมาพูดนั้น แม่อ้อยก็บอกว่า “พ่อก็คือพ่อ พ่อเขารักลูกเขาก็พูดออกมา”
