“ลุลา” เซ็งคดีพี่ชายถูกชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายจนแก้วหูฉีกคดีไม่คืบ เหตุตร.อยากให้สองฝ่ายไกล่เกลี่ย เป็นทะเลาะวิวาท แต่ตนและครอบครัวไม่ยอม เหตุพี่ชายโดนทำร้ายรุนแรงเกินไป อยากให้ติดคุก หรือออกนอกประเทศเพราะเป็นภัยสังคม ลั่นถึงสภาพจิตใจพี่ดีขึ้นแต่ยังต้องรักษาต่อเนื่อง และไม่ควรเจ็บตัวฟรีๆ แบบนี้ แฮปปี้ความรักกับ “ฟิลลิปส์ เดอะเฟซ เมน” ฝ่ายชายขอเปลี่ยนสถานะเอง
หลังจากที่เคยออกมาเผยว่าพี่ชายถูกชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายกลางคอนโด จนแก้วหูฉีก ได้รับบาดเจ็บหลายจุด ล่าสุด นักร้องสาวเสียงดี “ลุลา กันยารัตน์ ติยะพรไชย” ได้เผยความคืบหน้าเรื่องนี้ในงานแถลงข่าว โปรเจกต์ “PLERN ORIGINAL Album HEY!” เซ็งคดีไม่คืบ เหตุตร.จะให้เป็นทะเลาะวิวาท แต่ตนและครอบครัวไม่ยอม เพราะมองว่าอีกฝ่ายอารมณ์ร้อน เป็นภัยต่อสังคม
“คือพี่ชายคนกลาง เขาว่ายน้ำอยู่ที่คอนโดที่อยู่มา 30 กว่าปีแล้ว แล้วก็เจอชาวต่างชาติที่เขาเคยอยู่ที่คอนโด แล้วเหมือนกลับมาเยี่ยมครอบครัว คือบริเวณสระน้ำเขาจะไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้า แต่เขาเดินคุยโทรศัพท์และใส่รองเท้าเข้ามา พี่ชายเราก็ไปเตือน บอกเขาว่ายูต้องถอดรองเท้านะ แล้วเหมือนเขาคุยโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ไม่ดีอยู่ เขาก็วางโทรศัพท์แล้วก็ต่อยพี่ชายเราไม่หยุด ลากไปที่พุ่มไม้แล้วก็ต่อยอีกรอบหนึ่ง คนที่อยู่ตรงนั้นเขาก็ไปตามผู้รักษาความปลอดภัยมาช่วย ก็ไปแจ้งความที่โรงพัก แต่คดีไม่ค่อยคืบหน้าเลย เพราะตำรวจเขาอยากให้เป็นทะเลาะวิวาท แต่พี่เรามีแผลร้อยกว่าจุด แก้วหูฉีกขาด เพราะเขารัดคอแล้วก็ต่อยๆ ข้างหู
เกิดจากแค่พี่ชายเราไปเตือนว่าห้ามใส่รองเท้า แต่คือเขาน่าจะมีอารมณ์รุนแรง เป็นคนจอร์แดนค่ะ แล้วก็มีประวัติความรุนแรงกับคนในคอนโดมาก่อนด้วย เราเลยรู้สึกว่าเขาเป็นบุคคลอันตราย ขนาดพี่เราเป็นผู้ชายวัยกลางคนยังสู้ไม่ค่อยได้เลย เขาตัวใหญ่มาก เราก็คิดภาพว่าถ้าเป็นแม่เราหรือตัวเรา คงไม่น่ารอด หลังจากเกิดเรื่องก็ต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะคุณหมอจะต้องตรวจ ต้องถ่ายรูปทำข้อมูล เพื่อที่จะส่งให้ตำรวจทำคดีฟ้องทำร้ายร่างกาย แต่ประเด็นเราอยากจะฟ้องว่าทำร้ายร่างกายสาหัส แต่ตำรวจก็ยืนยันว่าอยากให้เป็นแค่ทะเลาะวิวาท เราก็ไม่ยอมค่ะ ก็พยายามจะทำเรื่อง มีคนยื่นความช่วยเหลือมาเยอะมาก ก็อยากจะขอบคุณทุกคนมากๆ”
เผยพี่ชายโดนต่อยไม่หยุดจนคิดว่าน่าจะตายแล้ว
“แว๊บหนึ่งที่ตอนที่พี่เขาโดนทำร้าย เขาบอกเราว่ามีจุดหนึ่ง ที่เขารู้สึกว่าน่าจะตายแล้ว เพราะเขาไม่หยุดต่อยเลย เดี๋ยวก็ต้องพยายามไปทำให้คดีมันกระเตื้องขึ้น เพราะพี่เขาไม่ควรเจ็บตัวฟรี มันไม่ใช่ทะเลาะวิวาท พี่เราไม่ได้หาเรื่องเขาเลย เราอยากให้เขาติดคุก แล้วก็กลับประเทศไป แต่เจ้าหน้าที่เขาอยากให้ไกล่เกลี่ย เราก็บอกว่าไกล่เกลี่ยอะไร เราไม่ได้อยากได้ตังค์ เราอยากให้เขาอยู่ในที่ที่เขาควรอยู่มากกว่า เขาเป็นภัยกับสังคม เราไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใคร เพราะแม่เราเขาช็อกไปเลย เพราะพี่เราเลือดท่วมตัว”
ลั่นไม่ยอม เดินเข้ามาจะต่อยแม่ด้วย
“ตอนนี้ตำรวจยังดำเนินเรื่องไปไม่ถึงคดีฟ้องเลยค่ะ เขายังพยายามพูดกับเราว่าให้เป็นทะเลาะวิวาท ให้เรียกมาไกล่เกลี่ย เราก็บอกว่ามาไกล่เกลี่ยแล้วเขาจะต่อยเราอีกไหม ขนาดมันเห็นแม่เรา มันยังเดินเข้ามาจะต่อยแม่เราเลย คือเขาโมโห เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาโมโหอะไรเลย เขามีครอบครัวอยู่ที่คอนโดนี้ แล้วเหมือนเขาน่าจะมีปัญหากัน แค่ปัจจุบันคือครอบครัวเขาก็ย้ายไปแล้ว เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหากับใครอีกค่ะ”
สภาพจิตใจพี่ชายดีขึ้น แต่หูซ้ายยังต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง
“ก็โอเคแล้วค่ะ แต่ว่าหูซ้ายยังไม่ได้ยิน ยังต้องรักษาต่อเนื่อง เพราะข้างในมันขาดเลย แล้วก็มีแผลตามตัว ซึ่งเขามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว แผลเขาก็จะหายค่อนข้างช้า”
อยากให้ “ฟิลลิปส์ ณัทธนพล ทินโรจน์” เป็นฝ่ายตอบเรื่องความสัมพันธ์เพราะจะน่ารักกว่าตนตอบ แย้มอีกฝ่ายขอเปลี่ยนสถานะเอง
“เราอยากให้เขาตอบมากกว่า ตอนที่เขาไปแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์ เราก็คิดว่ามันจะตอบไง (หัวเราะ) แต่มันไม่ตอบ ด้วยสาเหตุอะไรไม่รู้ เราก็รู้สึกว่าถ้าเขาตอบ มันจะน่ารักกว่ามาก เพราะว่าเขาเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง แต่ว่าเรารู้สึกว่าจากที่มีความรักมาหลายครั้ง เรารู้สึกแฮปปี้ที่จะบอกคนอื่นเรื่องเขา เพราะเขาเป็นคนตลก เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน จนเขาเป็นคนพูดเอง ว่าเขาอยากจะเปลี่ยนสถานะ เราก็คิดอยู่สักพัก แต่สาเหตุที่เขาอยากจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ก็ต้องไปถามเขา เพราะว่าเขาเล่าแล้วมันจะตลก
จริงๆ เราเป็นเพื่อนที่เล่นกีฬา เจอกัน กินข้าว ปาร์ตี้กันมาสักพักใหญ่ๆ จนเขาเป็นคนบอกเราเอง แต่ว่าก็ไม่เคยคิดว่าเขาเป็นน้อง เพราะเขาเป็นฝรั่ง เขาจะทรีตเราเป็นเพื่อนมาตั้งแต่ต้นแล้ว พอวันหนึ่งเขามั่นใจ เขารู้สึกว่าเขาแน่ใจ เขาก็เลยบอก”
แก้ข่าวรักไม่ได้ทำให้ดูเด็ก แต่ตนน่ารักอยู่แล้ว ไม่งั้นเขาคงไม่จีบ
“อันนี้ขอแก้ข่าวนะคะ เราน่ารักอยู่แล้ว ไม่งั้นเขาไม่มาจีบเราหรอก (เขายังเรียกตัวเองว่าน้องอยู่ไหม?) ไม่ค่อย เราพยายามแก้ (หัวเราะ) จะมาน้องกว่า 6-7 ปีไม่ได้นะ เราว่าเขาติดค่ะ จากหลายๆ คนที่เรียกเขา แต่ในอนาคตมันจะเริ่มเปลี่ยนไปเอง แต่ถ้ามันไม่เปลี่ยนก็น้องได้”
สงกรานต์ดูหวาน บอกคิดถึง อยากบอกว่าเขาน่ารัก
“เขาไปทัวร์กับโตโน่ (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) เหมือนไปเป็นช่างภาพให้ เราก็ไปทางเรา รู้สึกว่าเราทำงานเยอะ เขาก็ทำงานเยอะ เราก็ให้กำลังใจกัน เราอยากบอกทุกคนว่าเขาน่ารักแค่ไหน เราก็เรียกกันว่ายูกับไอค่ะ อินเทรนด์เปล่า”
เผยแอบห่วงตอนไวรัล “ไอจะขยี้ยูให้แหลกคึ” หวั่นคิดว่าจะถูกบูลลี่ แต่อีกฝ่ายคิดบวกเกินไป
“ตลกมาก ตอนที่ละครเรื่องนี้ออนแอร์ เขาเล่าให้เราฟังแล้ว ว่าถ่ายไปตั้งแต่ 4-5 ที่แล้ว แล้วตอนนี้นั้นภาษาไทยเขายังป่นปี้อยู่เลย พอมาออนแอร์ในจังหวะที่เขาภาษาไทยดีขึ้นมากแล้ว เขาบอกว่าเขาเขิน แต่พอมาเป็นมีม ซึ่งเราเห็นในไอจีก่อน เป็นไวรัลมาก เราก็โทร.ไปหาเขา ว่ายูโอเคไหม คือเรากลัวว่าเขาจะรู้สึกว่ามันเป็นการบูลลี่ แต่เขาบอกว่าไม่เลย ไอแฮปปี้มากๆ เขามีความสุขกับตรงนั้น เราก็รู้ว่าเราคิดถูกแล้ว เขาเป็นคนที่ความคิดบวกมาก บวกเกินไป (หัวเราะ) เขาเป็นคนน่ารักค่ะ ชอบคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ ซึ่งบางทีเราต้องค่อยๆ บอกเขา ว่ากับบางคนไม่ได้นะ แต่จุดที่โดนใจเรา ก็น่าจะเป็นรอยยิ้มเขาค่ะ เขายิ้มสวย ยิ้มน่ารัก”
