ผ่านมรสุมชีวิตมาก็ไม่น้อยสำหรับ “เบส รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ที่เป็นเสาหลักครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย เบสได้เปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิตของตนผ่านรายการ #วันบันเทิงTalk ทางช่องยูทิวบ์ วันบันเทิง เบสเล่าว่าเธอโตมากับยายที่ไม่รู้หนังสือ เพราะพ่อกับแม่ทำร้านหมูกระทะสมรักษ์ย่างเกาหลี ก็เลยมียายเลี้ยงแทนพ่อกับแม่
จน เบส รักษ์วนีย์ โตมาก็หารายได้จากการเป็นยูทูบเบอร์ตั้งแต่ชั้นมัธยม ทำงานในวงการบันเทิง จนตอนนี้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
คำสอนของคุณยายที่หล่อหลอมให้เป็นเบสทุกวันนี้?
“อยู่ให้เขารัก จากให้เขาคิดถึง เวลาอยู่กับใคร ไม่ว่าจะเพื่อน แฟนคลับ พ่อแม่ คนรัก เราต้องไนซ์กับทุกคน จริงใจ ทุ่มเทให้เต็มร้อย แล้ววันนึงที่เราจากเขาไป เขาจะคิดถึงเรา”
เราเอามาใช้กับชีวิตเราอย่างไรบ้าง?
“ก็ยากนะ อยู่ให้เขารัก เราก็ไม่รู้ว่าเขารักเรารึเปล่า (หัวเราะ) แต่สิ่งหนึ่งที่เบสมีให้ทุกคนเลยนะ คือความจริงใจ การที่เราจะจริงใจกับคนส่วนหนึ่งคือเราต้องเปิดใจเราด้วย พูดเพื่อให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นคนเข้าถึงยาก ใจเราอยู่แค่ตรงนี้เองเขาจะได้สัมผัสได้ว่าเราจริงใจ เบสไม่ได้ทำร้ายใครเลย ไม่เคยคิดไม่ดีกับใคร เวลาเบสอยู่กับใครไม่ว่าเขาจะรีแอ็กกลับมายังไง หรือเม้าธ์มอยเรื่องอะไรกลับมา ไม่รู้สึกว่ามันคือลบ เบสคิดบวกตลอด เขาก็คงจริงใจกับเราถึงเล่าให้เราฟัง”
พูดถึงคุณยายในวันที่ไม่อยู่แล้ว?
“ยายค่อนข้างสปอย และตามใจ แต่ในสิ่งที่เขาตามใจ เบสว่ามันดีนะคะ ถ้าคนในบ้านเราไม่ซัปพอร์ตเราไม่ให้กำลังใจเราแล้วใครจะให้กำลังใจเราถูกไหมคะ เขาไม่ได้แสดงความคิดเห็นที่มันแตกต่าง หรือบอกว่าเราคิดผิด ใครคิดถูก หรือเราต้องทำยังไง เขาแค่ให้กำลังใจ เหมือนอยู่กับเขาแล้วอบอุ่นปลอดภัย เป็นเซฟโซน ทำให้เรารู้ว่ากลับบ้านมามีคนนี้รองรับเราเสมอไม่ว่าเราจะเจออะไร อยากให้มีสักคนนึงในบ้าน ที่เป็นเซฟโซนให้กับลูกๆ ได้ แค่คนเดียวเท่านั้น ถ้าเราทะเลาะกับพ่อหรือแม่ แล้วมาอยู่กับยายคืออยู่เลยคือจบ”
ยายฝากอะไร?
“ยายจากไปกะทันหัน แต่ตอนที่ยายยังอยู่แล้วหนูคบพี่ตง (กฤษกร กนกธร) ยายเห็นว่าคนที่อยู่ข้างเราตอนนั้นคือพี่ตง เขาเลยบอกเราถ้าเป็นไปได้ก็ให้สู้นะ กับคนนี้เพราะเป็นคนสุดท้ายที่ยายเห็นและรับรู้ คือทุกคู่มันมีผิดอยู่แล้วเรื่องที่ต้องให้อภัย ไม่ว่าผู้หญิงผิดหรือผู้ชายผิดมันก็ต้องให้อภัยกัน เพื่อที่จะดำเนินชีวิตคู่ต่อ หรือบางคู่มันอาจจะไปไม่ได้ หรือเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่เหมือนยายบอกถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้สู้กับคนนี้ เหมือนเป็นคนสุดท้ายที่ยายเห็น แต่สิ่งที่ยายบอกวันนั้นไม่ได้รู้สึกว่ายายกดดันเราหรอกให้เราคบคนนี้แต่สิ่งหนึ่งที่เขาบอกเราคือให้อดทนและลองสู้ดู แต่อะไรจะเกิดก็เกิดแต่ อย่างน้อยเราก็พยายามเพื่อยายหน่อย” (สัมภาษณ์ในวันที่ 10 เม.ย.66)
อดทนให้ถึงที่สุดแต่สุดท้ายจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของอนาคต?
“ใช่ค่ะ สมมุติเราพูดเรื่องความรักแล้วผู้ชายไม่พูด ก็จะมีคอมเมนต์ว่าผู้ชายไม่เห็นพูดถึงผู้หญิงเลย มีแต่ผู้หญิงพูดถึงผู้ชาย ผู้ชายพูดแบบนี้ผู้หญิงพูดแบบนี้ หรือผู้ชายไม่ลงรูป เราลงรูป ผู้ชายไม่ลงรูปเลย มันมีครั้งนึงผู้ชายลงรูปเราสุดท้าย แต่เราลงรูปผู้ชายรูปที่สาม น้องลงรูปพี่ตงอยู่ตรงกลาง แต่พี่ตงลงรูปน้องสุดท้าย แค่นี้ก็โดน และเบสโดนทุกเรื่อง หน้านิ่งก็โดน ยิ้มมากก็โดน ไม่ร้องไห้ก็โดน ร้องไห้ก็โดน ทำอะไรโดนหมด ดรามา สายตาประมาณนี้ก็เอ๊ะ เบสดูแปลกๆ ไม่ยิ้มก็โดนหน้าตึงไม่ยิ้ม ยิ้มมากก็โดนเว่อร์เนอะ ยิ้มเยอะ หนูก็เลยแบบทำหน้ายังไงดี”
ทุกวันนี้เลิกแคร์คอมเมนต์หรือยัง?
“เบสว่าดาราทุกคนไม่มีใครเลิกแคร์ได้นะ”
ที่มาเป็นป้าหลานบุญธรรมกับ “ดวงดาว จารุจินดา” จากร่วมงานในละคร “ตำย่าบอก”?
“ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะสนิทขนาดนี้กับป้าดาว ตอนแรกก็เรียกอาดาวตามทุกคนแหละ แล้วอาดาวบอกว่าป้าอายุเท่ายายหนูแล้วลูก เรียกอาได้ยังไง (ยิ้ม) หนูเกรงใจค่ะ เห็นคนอื่นเรียกก็เลยเรียก เขาเลยบังคับเบสพอเรียกอาดาว ก็ตีเบสให้เรียกป้า เลยเรียกป้าดาว ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะสนิทกันด้วย เหมือนเขาเป็นรุ่นใหญ่ เวลานั่งพักเขาก็จะมีมุมของเขา จะไม่ค่อยมาเม้าธ์มอยกับแก๊งเด็กอย่างเรา
เหมือนเราพักเบรกแล้วคนอื่นยังถ่ายไม่เสร็จ เราเสร็จก่อนกับป้าดาวนี่แหละ นั่งตรงโต๊ะกินข้าวด้วยกันสองคน แล้วอะไรอยู่ๆ ก็ดลใจให้เม้าธ์มอยให้ป้าดาวฟัง เรื่องชีวิตเรา หนูทำงานหาตังค์คนเดียวเลย ความรักหนูก็เป็นแบบนี้ เพื่อนหนูก็เป็นแบบนี้ หนูเล่าทุกอย่างเลย ป้าดาวก็ให้คำแนะนำมา เสร็จแล้วป้าดาวก็บอกว่าต่อไปนี้เรานับถือกันเป็นป้าหลานบุญธรรมดีกว่า ตอนแรกก็คิดว่าป้าดาวพูดเล่น พอเราไปเข้าฉาก แต่งหน้า เสร็จเขาก็เรียกหนูหลานบุญธรรมมานี่สิกลางกองถ่าย เราก็ เอาจริงเหรอ ซึ่งป้าดาวก็บอกเราว่าเวลาไลฟ์ หรือถ่ายคลิปก็อย่าลืมพูดถึงป้าบุญธรรมด้วยน้า ต้องบอกทุกคนนะว่าป้าคือป้าบุญธรรมเราแล้ว
และมีอีกเหตุการณ์นึงที่เรารับปริญญา ก็ชวนนักแสดงไป เขาก็บอกว่าไม่ว่าง มีคิวละคร แล้วอยู่ๆ ป้าดาวก็มาเซอร์ไพรส์ คือยายเราเสียช่วงถ่ายละคร ตำย่าบอก ด้วย แล้วมาเจอป้าดาว บอกให้นับเป็นป้าบุญธรรม เราก็รู้สึกว่ามีอีกคนนึง ซึ่งป้าดาวมีคำแนะนำคล้ายๆ กับยาย เขาจะไม่ได้ตัดสินใคร หรือพูดถึงอะไรที่ไม่ดีเลย เขาบอกเสมอว่าเราต้องเชื่อในตัวเอง หมั่นทำดี ถ้าเราทำดีก็จะได้สิ่งที่ดี เวลามีอะไรแล้วเราปรึกษาก็จะได้กำลังใจกลับมา
ตอนปลายปีที่แล้วโดนดรามาเยอะมาก ก็มีป้าดาว เดินมาหาเราเองเลยนะว่าไม่ต้องไปสนใจคอมเมนต์นะ คนที่คอมเมนต์ไม่รู้จักเรา ป้าดาวก็มาปลอบ ซึ่งเรารู้สึกว่าเราไม่มีคนที่มาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วแต่ก็ยังมีป้าดาว ปกติก็จะเป็นยายแต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว แต่ตอนนี้มีป้าดาวก็รู้สึกว่าจังหวะมันเหมาะเจาะมาก”