เป็นอีกหนึ่งหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ สำหรับ "เจ้าขุน จักรภัทร วรรธนะสิน" ลูกชายคนกลางของ "พ่อเจ เจตริน" กับ "แม่ปิ่น เก็จมณี" ที่เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ล่าสุดมาเปิดใจในรายการถึงซิงเกิ้ลเพลงใหม่ล่าสุด "ถ้าเธออยากไปทะเลฉันพร้อม...Talay" และเรื่องราวชีวิตครอบครัว ความรัก และความฝัน และความกดดันในการวางตัวที่เกิดมาในครอบครัวที่มีชื่อเสียง และคำคอมเมนต์ดรามาที่ต้องเจอ ในรายการ WOODY FM
ตอนนี้คุณเรียนจบแล้ว มีแพลนยังไงต่อ?
“มีแพลนไว้นิดหน่อยว่าจะเริ่มเข้าวงการเป็นศิลปินแบบเต็มตัวแล้ว เริ่มอยากรับงานซีรีส์ รับงานหนัง รับงานถี่ขึ้น”
มีคนทาบทามบ้างไหม?
“มีครับ แต่ช่วงนั้นผมติดเรียนด้วย”
คิดถึงอังกฤษไหม?
“คิดถึงมากครับ คิดถึงบรรยากาศที่ชิล ไม่มีใครมาตัดสินผมเลย ไม่มีใครมองว่าคุณมาจากไหนอะไรยังไง คือเขาชอบผมเพราะเราเป็นเพื่อนกัน เพราะนิสัยเหมือนกัน”
ทุกวันนี้คิดว่าคนตัดสินคุณว่าอะไร?
“ก็เยอะอยู่ ที่ผมเห็นในอินเตอร์เน็ตที่ผมได้อ่านนะครับเยอะมาก ที่จึ๊กสุดเวลาว่าพ่อแม่ คือถ้าว่าผมนะโอเคเข้าใจ ผมวัยรุ่นเมื่อก่อนผมก็ทำตัวไม่ดีเท่าไหร่ในวงการ เพราะผมก็เกิดมาก็กล้องถ่ายเลย ไม่รู้ว่าชีวิตจริงกับชีวิตในวงการมันต้องแยกยังไง แต่ก็นี้ผมก็ดูออกมากขึ้น”
การเกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นคนมีชื่อเสียง ไม่ได้ง่ายมันลำบากการที่จะโตขึ้นมา เหมือนโดนเปรียบเทียบ โดนจับตามองตลอด คุณสามารถโตขึ้นมาจนถึงวันนี้ อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรายังแข็งแกร่งได้?
“พระเจ้า สำหรับผมมันคือพระเจ้า เดี๋ยวนี้ผมค่อนข้างเคร่งศาสนา เวลาอ่านแล้วทำให้ใจเรานิ่งขึ้น ผมนับถือคาทอลิกครับ ผมรู้สึกสงบใจขึ้น”
คุณคอนเมนต์ให้แฟนคลับบอกว่า "จริงๆ ผมพยายาม ผมอาจจะไม่มีความสุขได้ครับ ตอนนี้ผมพยายามให้แฟนคลับดูผมแล้วแฮปปี้" อันนี้คุณหมายความว่าอะไร ?
“คืออันนี้มันไม่เกี่ยวเลยกับดรามาที่ทุกคนเชื่อมโยง มันแค่ดันตรงจังหวะ แต่ว่าที่ผมพูดแบบนี้คือ ผมเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์อยู่แล้ว ผมก็เลยอยากจะมอบความสุขให้กับแฟนคลับผม คืออย่างน้อยคุณทำงานมาคุณเครียด คุณผิดหวังมา ผมอยากเป็นคนที่ทำให้มีรอยยิ้มแค่นี้ ทำให้วันของใครสักคนดีขึ้นสักหน่อย แต่จริงๆ แล้ว ผมที่ยิ้ม ผมที่บ้าอย่างนี้ อาจจะไม่ได้มีความสุขไง แต่ผมแค่ทำเพราะว่ามันเป็นงาน นั่นแหละที่ผมหมายถึง”
พูดถึงดรามาในชีวิต ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา บ้านคุณเจอหนักที่สุด พ่อเจ-แม่ปิ่น เรารู้จักกันมานาน แต่การที่ต้องเห็นครอบครัวคุณผ่านเรื่องแบบนี้โดยที่มีสังคมคอยติดตาม คอยดู คอยตัดสิน ตลอดเวลามีเอฟเฟกต์อะไรเกี่ยวกับตัวคุณบ้าง?
“เยอะมากเลยครับ บางทีมันไม่รู้ตัวด้วย ว่าจิตเรามันไม่ ตอนนี้คุณไม่ปกติ แต่เราไม่รู้ตัว เพราะคนที่เป็นอยู่มันไม่มีทางรู้ พี่น้องก็เหมือนกัน จริงๆ ส่วนมากก็เรื่องดรามาด้วย แต่บางทีเราก็งงว่านี่อะไร”
ได้มีโอกาสคุยกับพ่อแม่ไหมว่าฉันมีปัญหาตรงนี้?
“ตั้งแต่เด็กแล้วครับ โห! ผมโดนตอนเด็กๆ หาว่าเป็นเกย์ ไปซื้อกินเกย์ อะไรก็ไม่รู้ แล้วผมก็เลยบอกว่าไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้เป็น เหนื่อยเหมือนกันครับ”
แม่ของคุณเข้มแข็งมากนะ?
“ใช่ครับ แม่ผมคือที่สุดในโลกสำหรับผมนะ พูดแล้วจะร้องไห้”
คุณรู้ไหมว่าแม่ของคุณรักใครมากที่สุด พวกคุณ 3 คนไง แล้วคุณได้บอกรักเขาบ้างไหม ครอบครัวสำคัญที่สุด อยากเป็นกำลังใจให้ก้าวผ่านทั้งหมดนี้ไปด้วยดีและเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุผลของมัน อาจจะสับสนในตอนนี้แต่อีกในไม่ช้ามันจะคลายแล้วจะเห็นว่าเราจะก้าวผ่านมันไป จะแต่งงานเมื่อไหร่?
“ผมคิด เพราะเมื่อวานผมเพิ่งไปบ้านของพี่ทีมงานมา แล้วผมเห็นลูกเขาแล้วผมไปเล่นด้วย และผมเหมือนจะ.... แต่เร็วไป ไม่ได้ๆ ถ้าผมมีลูก ผมคงซอฟต์มาก ผมจะเปลี่ยนไปเลย ผมรู้ตัว ไม่รู้ตัวเลขแต่ก็เมื่อเราพร้อม งานมั่นคง ชีวิตมั่นคงแล้ว เจอความสงบแล้ว”
อยากมีลูกมากกว่าแต่งงานใช่ไหมตอนนี้?
“ใช่ เหมือนอยากมีครอบครัวมากกว่า”
คิดว่าเจ้านายน่าจะไปก่อน?
“เขาพูดถึงเรื่องการแต่งงานกับคนนี้แล้วนะ (หัวเราะ) เผาพี่อีกแล้ว เจ้านายยิงแน่ เจ้านายค่อนข้างโตเร็ว เพราะเขาเจอเรื่องอะไรมาตั้งแต่เด็ก มันเลยทำให้โตเร็วด้วย เขาเป็นเหมือนผู้นำ เอาจริงๆ ผมพูดตรงๆ เลย ผมมองว่าเขาเป็นผู้นำ
ครั้งที่แล้วประกาศว่ามีความรัก หลังจากนั้นก็หายไปเลย ไม่มีอีกเลย?
“เข็ดเลย มันทำให้ผมโตขึ้น เข้าใจอะไรมากขึ้น เข้าใจคนอื่นมากขึ้น เข้าใจโลกกว้างขึ้น”
มีคนเข้ามาในชีวิตบ้างไหมตอนนี้?
“มีนะครับ มีเยอะมากเลย โดยเฉพาะหลังจากที่ปล่อยเพลงมันก็จะมีอะไรมา DM มา แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อย ผมพยายามชาร์ตโทรศัพท์นอกห้องเลย”
มีอะไรในชีวิตที่เป็นฝันอันสูงสุดไหม?
“มันอาจจะฟังดูตลก แต่ผมอยากเปิดร้านกะเพรา นั่นคือฝันสูงสุด ผมอยากเป็นพ่อค้า ผมอยากเป็นนักธุรกิจ”