หน้าร้อนปีนี้ ใครยังไม่มีแผนสำหรับวันหยุด คู่น้าหลานสุดซี้สายลุยอย่าง “แน็ก ชาลี” และ “น้องอาเธอร์ อลันตา ปอทเจส” ขอชวนทุกท่านออกผจญภัย “สำรวจความมหัศจรรย์สุดมันส์กับป่า Rainforest” ที่ ซีไลฟ์ แบงคอก (SEA LIFE Bangkok) ไปพร้อมกัน โดยทางอควาเรียมมีการปรับโฉมพื้นที่ภายใต้บรรยากาศป่าดิบชื้น ออกเป็น 4 โซนย่อย ที่มีโครงสร้างป่าอันสลับซับซ้อนด้วยพันธุ์ไม้น้ำและกลิ่นไอที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่ในป่าลึก ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนานาพันธุ์ นำทัพด้วยสัตว์แปลกหน้าใหม่กว่า 9 ชนิด อย่าง กิ้งก่าชายน้ำ (Sailfin Dragon), มดตะขอเบ็ด (Fish Hook Ant),ตะกวดต้นไม้ (Tree Monitor), กบลูกศรพิษ (Poison Dart Frog), แมลงสาบมาดากัสการ์ (Hissing Cockroach), แมงป่องช้าง (Asian Forest Scorpion), แมงมุมนกยูง (Peacock Tarantula), เต่าเสือดาว (Leopard Tortoise) และ งูเหลือม (Reticulated Python) เสริมทัพด้วยกิจกรรมใหม่ล่าสุด “Keeper’s Talk…เรื่องเล่าจากคนดูแลสัตว์” ที่เปิดโอกาสให้ชมความน่ารักของสัตว์เลื้อยคลานหลากหลายชนิดแบบไม่มีกระจกกั้น พร้อมความรู้ประกอบจากผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลสัตว์ได้ทุกวัน ทั้งหมด 3 รอบต่อวัน เวลา 12:15 | 14:15 | 16:15 น. รับประกันประสบการณ์แปลกใหม่ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว วัยรุ่นหรือจะเป็นเหล่าคนรักสัตว์ ก็จะสนุกกับโฉมใหม่ของโซน Rainforest แห่งนี้แน่นอน!
“รอบนี้ก็เป็นครั้งที่สองแล้วในการมาเที่ยวที่ซีไลฟ์ แบงคอกของผมกับน้องอาเธอร์ครับ ซึ่งก็ยังทำให้รู้สึกตื่นเต้น สนุกสนาน และได้ความรู้กลับไปเหมือนเดิม เพราะไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ที่ซีไลฟ์ฯ ก็สามารถตอบโจทย์ทุกความชอบได้ เพราะมีการนำเสนอกิจกรรมใหม่ๆ ให้เราได้ตื่นเต้นตลอด อย่างวันนี้งาน “สำรวจความมหัศจรรย์สุดมันส์กับป่า Rainforest” โฉมใหม่ก็ถูกใจผม และอาเธอร์มากๆ เพราะได้ใกล้ชิดกับสัตว์หลายชนิดในป่าที่หลายๆ ตัวก็หาดูได้ยาก ถูกใจคนที่รักสัตว์สุดๆ ครับ หน้าร้อนปีนี้ใครที่ยังไม่มีแผนจะไปเที่ยวไหน ก็ชวนมา “สำรวจความมหัศจรรย์สุดมันส์กับป่า Rainforest” ที่ ซีไลฟ์ แบงคอก กันเยอะๆ นะครับ” แน็ก ชาลี ปอทเจส กล่าวถึงกิจกรรมในวันนี้
ข้อมูลประกอบการ “สำรวจความมหัศจรรย์สุดมันส์กับป่า Rainforest”
ป่าดิบชื้น หรือ Rainforest เป็นป่าที่มีสีเขียวตลอดทั้งปีเพราะต้นไม้จะไม่ผลัดใบเพื่อลดการคายน้ำ เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก และยังเป็นบ้านหลังใหญ่ของพันธุ์ไม้และสัตว์กว่าพันชนิด ที่มีการปรับตัวโดยมีการจำแนกที่อยู่อาศัยตามระดับชั้นความสูงของพื้นที่ป่า เพื่อให้สามารถอยู่รอดในสภาพอากาศที่มีความพิเศษของป่าดิบชื้นได้ โดยในโซนนี้ ซีไลฟ์ฯ ก็ได้แรงบันดาลใจดังกล่าวมาแบ่งพื้นที่กิจกรรมเป็น 4 ส่วนย่อย เริ่มตั้งแต่ ยอดไม้ ไล่ไปจนถึงใต้ผืนน้ำ ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป
เริ่มต้นกันที่โซนแรก “Tree Top (ทรี ท็อป)” ที่ได้จำลองชั้นเรือนยอดไม้ (Canopy) ระดับชั้นที่สูงสุด ที่มียอดไม้ขึ้นสูงแข่งกันรับแสงอาทิตย์จากด้านบนอย่างหนาแน่น ซึ่งเป็นจุดเด่นของป่าดิบชื้น เมื่อเข้าสู่โซนนี้ทุกคนจะสัมผัสถึงหมอกและไอน้ำ ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่ต้นไม้ชั้นเรือนยอดจะต้องเผชิญ โดยในโซนนี้ทุกคนจะได้พบกับสัตว์บนต้นไม้อย่าง
• มดตะขอเบ็ด (Fish Hook Ant) มดพันธุ์หายาก มักอาศัยอยู่บริเวณต้นไม้แห้งๆ มีจุดเด่นคือตะขอ 2 คู่ โผล่ข้างหลัง ที่เอาไว้จับและตัดเหยื่อ รวมถึงปกป้องตัวอีกด้วย
• ตะกวดต้นไม้ (Tree Monitor) ตะกวดต้นไม้มีทั้งสีเขียวสดใส และสีออกเหลือบน้ำเงิน และดำ ลำตัวแบนยาว เพศผู้จะมีหงอนเพื่อใช้ดึงดูดตัวเมีย
• กบลูกศรพิษสีส้ม (Orange Dart Frog) และ กบลูกศรพิษสีทอง (Golden Dart Frog) กบมีพิษตัวเล็ก สีสันฉูดฉาด แต่มีพิษร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตเพียงแค่สัมผัสโดน โดยเฉพาะกบลูกศรพิษสีทองที่ถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก
โซนที่สอง อย่าง “Cave หรือ ถ้ำ” จำลองลักษณะหินงอกหินย้อยที่เกิดจากลักษณะป่าดิบชื้น แหล่งหลบภัยและที่พักอาศัยของแมลงแปลกๆ มากมาย อย่าง
• แมลงสาบมาดากัสการ์ (Hissing Cockroach) สัตว์พันธุ์ใหม่ล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักแมลง แมลงสาบมาดากัสการ์มีขนาดใหญ่กว่าแมลงสาบอื่นๆ ไม่สามารถบินได้ เป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวเชื่องช้า ไม่มีพิษ ส่งเสียงคล้ายงูขู่ในระหว่างผสมพันธุ์ และเพื่อสื่อสารเตือนภัยกับพวกพ้อง
• แมงป่องช้าง (Asian Forest Scorpion) มีขนาดใหญ่ถึง 10-12 เซนติเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในแมงป่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีนิสัยก้าวร้าว ชอบอาศัยในที่มืด ความพิเศษคือเมื่อส่องแสงอุลตราไวโอเล็ตเปลือกสีดำของมันเรืองแสงสีเขียวออกมา
• แมงมุมนกยูง (Peacock Tarantula) แมงมุมขนาดจิ๋ว ตัวผู้จะมีลำตัวสี ฟ้า เหลือง แดง ดำ ขาว เขียว สดใส สามารถแพนหางที่ก้นออกมาคล้ายกับหางนกยูงเพื่อชูและโบกไปดึงดูดตัวเมีย แมงมุมพันธุ์นี้ถือเป็นยอดนักเต้นที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย
ไต่ระดับความสูงลงมาที่ โซนที่สาม อย่าง “Tree Trunk” (ทรี ทรังค์) หรือชั้นใต้เรือนยอด (Understory) ซึ่งอยู่ในระดับกลางของป่า นำเสนอระบบนิเวศสิ่งมีชีวิตในช่วงกลางลำต้นและกิ่งไม้ ที่ได้รับแสงแดดเล็กน้อย ซึ่งเป็นชั้นที่เหมาะสำหรับการซ่อนตัวของสัตว์ตัวเล็กๆ ในป่า ในโซนนี้ทุกคนจะได้พบกับไฮไลต์เด็ด อย่าง
• กิ้งก่าชายน้ำ (Sailfin Dragon) หนึ่งในกิ่งก่าพันธุ์หายาก ที่มีสีสันสวยงามจึงมักถูกมนุษย์ล่าเป็นประจำ ชอบอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำเป็นพิเศษ
• เต่าเสือดาว (Leopard Tortoise) เต่าบกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีจุดเด่นเป็นกระดองที่มีลายจุดสีดำคล้ายเสือดาว
และสุดท้ายแต่สำคัญไม่แพ้ใคร ก็คือ โซนที่สี่ “Ground Level (กราวด์ เลเวล)” หรือชั้นพื้นป่า (Forest Floor) ซึ่งอยู่ด้านล่างสุด รวมไปถึงแหล่งน้ำต่างๆ นี่จึงเป็นพื้นที่ในการอนุบาลต้นไม้ที่เพิ่งเกิด ในโซนนี้ทุกคนจะได้พบกับ Living Wall กำแพงต้นไม้ที่จะนำเสนอพันธุ์ไม้ป่าที่อุดมสมบูรณ์ ในโซนนี้มีตัวเอก อย่าง งูเหลือม (Reticulated Python) ที่นำมาจัดแสดงให้ทุกคนได้ชมและศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ พร้อมลูกเล่นอินเตอร์แอคทีฟอย่าง Laser Eyes จออินฟาเรดจำลองภาพจากสายตางูที่สามารถจับรังสีความร้อนที่แผ่ออกมาจากวัตถุได้ เพื่อให้สามารถมองเห็นเหยื่อที่แอบซ่อนตามพุ่มไม้ตอนกลางคืนได้ดี
ทั้งหมดนี้คือโซนกิจกรรมใหม่ล่าสุดที่ซีไลฟ์ แบงคอกตั้งใจมอบให้กับผู้ชมในทุกกลุ่ม ร่วมสัมผัสโฉมใหม่กับ “สำรวจความมหัศจรรย์สุดมันส์กับป่า Rainforest” ได้แล้ววันนี้ พร้อมกิจกรรม “Keeper’s Talk…เรื่องเล่าจากคนดูแลสัตว์” เปิดโอกาสการชมความน่ารักของสัตว์เลื้อยคลานหลากหลายชนิด แบบไม่มีกระจกกั้น พร้อมความรู้ประกอบจากผู้เชี่ยวชาญนักดูแลสัตว์ ทั้งหมด 3 รอบต่อวัน เวลา 12:15 | 14:15 | 16:15 น. ที่ซีไลฟ์ แบงคอก สยาม พารากอน ชั้นบี 1-2 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10:00-20:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 19:00 น.) ซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าทางเว็บไซต์ https://www.visitsealife.com/bangkok/