“อ้น สราวุธ” ยอมรับตกใจที่ซีนด่าในละครกลายเป็นมีม เผยจริงๆ แล้วในบทไม่ใช่ “ตอแxล” เป็นแค่คำว่า “โกหก” เท่านั้น แต่ตนเพิ่มคำเข้าไปเอง ถึงขั้นมีเด็กๆ มารีเควสให้ด่าสดๆ ในไลฟ์สดเลย ตอนนี้ยังไม่มีสาวคนพิเศษ ไม่ได้ปิดกั้นเรื่องเพศ ถ้าวันนึงแต่งงานมีลูกก็ไม่ต้องแปลกใจ บอกมีคนเสนอเงินให้กินข้าวเหยียบครึ่งล้าน แต่ปฎิเสธไป ขอให้อุดหนุนสินค้ากันดีกว่า
กลายเป็นวลีเด็ดจากละครเรื่องไฟลวงเลยทีเดียว สำหรับคำด่าสุดจี๊ด กับคำว่า ตอแxล ที่นักแสดงหนุ่ม “อ้น สราวุธ มาตรทอง” ในบท นิธาน กำลังด่า หยดเทียน ที่รับบทโดยนางเอกสาว “พิม พิมประภา ตั้งประภาพร” ล่าสุดได้เจอหนุ่ม อ้น ในกองละครเรื่องนี้ ณ KPI Tower ชั้น 23 ถนนเพชรบุรี เจ้าตัวก็ยอมรับว่าตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นกระแสขนาดนี้
“เพิ่งเคยเจอเหมือนกัน ก็ตกใจครับ เราไม่ได้คิด คือเราก็ทำการบ้านมาในมุมนึง อยากให้เห็นบทมากเลย มันยุ่ยมาก เราต้องวิเคราะห์ในคาแรกเตอร์เยอะแยะ คือผมไม่ได้มานั่งคิดถึงเรื่องไวรัล แล้วพอมันกลายเป็นมีมขึ้นมาข้ามคืน ก็เก่ง ต้องชมคนที่เขาไปเล่นต่อ ตอนนี้มันเยอะมากเลย มีเต้นโคฟเวอร์ ไปทำอัลบั้มของตัวเองด้วย ก็ดี
คือตอนนี้ผมทำติ๊กตีอกไลฟ์ คนก็จะมาขอให้ผมด่าโชว์ในติ๊กตีอก (หัวเราะ) ผมก็บอกว่าเราด่าได้ด้วยเหรอครับ ไม่ดีมั้งครับ พอเขาชอบการด่าแบบนี้ เขามันส์มาก แต่เขาก็สยอง แต่คิดว่านั่นเป็นความสนุกสนานมากกว่า ยิ่งตอนนี้เห็นมีทำเป็นเพลง ก็เลยคิดว่าสงกรานต์นี้น่าจะมีแล้วมั้ง”
สารภาพเปลี่ยนคำในบทเอง เพราะคิดว่าคำเดิมไม่แรงพอ
“ตอนถ่ายไม่ขำนะครับ จริงๆ ในซีนมันหลอนนะครับ มันเป็นการคุกคาม มันเป็นความหมั่นไส้ ซึ่งในบทเขียนแค่ว่าโกหกนะ คำเดียวเลย แต่ผมรู้สึกว่าในโมเมนต์นั้น คำว่าโกหกมันไม่พอครับ น้องพิมเขาก็มีสะดุ้งเหมือนกันนะ เพราะบางทีเวลาซ้อม ผมจะไม่ซ้อม 100% ครับ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่มันสวยงามในการถ่ายละครมันคือบางสิ่งที่เกินกว่าการคาดหวัง ไปปล่อยสุดหน้ากล้อง เพราะผมอยากได้รีแอ็กชั่นของเขา ผมก็เลยไปใส่หน้างาน
ถามว่าห่วงเด็กๆ อาจจะทำตามไหม ผมว่าตอนนี้อยู่ปี 2023 แล้ว ลองมองอ้น สราวุธครับ ละครก็คือละคร ชีวิตจริงผมแทบไม่พูดคำเหล่านั้นเลย อยู่ในวงการนี้มา 26 ปีก็เป็นแบบนี้มาตลอด แต่ถามว่าห่วงเด็กๆ ไหม ถ้าจะห่วงคงต้องห่วงเป็นร้อยพันล้านเรื่อง คงไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว แต่เท่าที่มองมาทุกคนเอาไปเล่นสนุกครับ ผมก็เลยคิดว่ามันเป็นเรื่องการเล่นสนุกกัน เป็นอะไรที่ยิ้มได้ในช่วงอากาศร้อนมากแบบนี้ และอย่างน้อยก็เป็นการโปรโมตละครได้ด้วย”
ได้ฐานแฟนคลับใหม่เป็นกลุ่มเด็กๆ น้องๆ ขึ้นมาอีก
“สุดท้ายอีกอย่างก็คือเด็กๆ อาจจะสงสัยว่าอ้น สราวุธคือใคร ลองไปค้นหาและลองติดตามดู ทุกวันนี้ที่ทำไลฟ์อยู่ก็มีน้องๆ หลายคนที่ผมรับเป็นน้องแล้วครับ แฟนๆ ที่เป็นเด็กๆ จะมีมาบอกว่าให้ผมด่าเขาในไลฟ์ ผมก็จะบอกว่าการแสดงก็คือการแสดง เพื่อให้เขาเข้าใจว่างานศิลปะกับชีวิตจริงมันคนละส่วนกัน เราไม่ได้เอาตัวจริงมาเล่น เพราะเมื่อไหร่ที่เราเอาตัวจริงมาเล่นนั่นไม่ใช่การแสดง
บางคนก็ห่วงว่ามาเล่นแบบนี้เสียภาพพระเอกหมด หรือพูดอย่างนี้ไม่น่ารักเลย มันมีนะครับแบบนี้ แต่ผมแค่อยากจะบอกทุกคนว่าผมรักงานศิลปะของผมมาก ผมใส่ความทุ่มเท จิตใจ จิตวิญญาณของผม เพราะฉะนั้นถ้ารักผมจริงๆ ที่เป็นตัวผม ขอให้รักงานศิลปะที่ผมมอบให้ด้วยความตั้งใจ ไม่ใช่ว่าเราปลงกับชีวิตนะ ผมเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่าคนเห็นหรือเปล่าเท่านั้นเอง ผมว่าด้วยโลกปัจจุบัน ด้วยปัญหาอะไรหลายๆ อย่าง สิ่งที่เราควรทำกันก็คือ เมตตากับตัวเอง ใจดีกับตัวเองมากๆ และไม่ใจร้ายกับคนอื่น”
บอกไม่ได้ไขว่คว้าหาคนรู้ใจ แต่ถ้าวันนึงเห็นแต่งงานก็ไม่ต้องแปลกใจ
“หัวใจก็ดีครับ ลูกๆ เยอะ ดูแลหัวใจผมอย่างดี หมาแมวทั้งหลาย เพราะเวลาเล่นละครผมเหนื่อยมากนะ ใช้สมาธิสูงมาก แต่พอเวลาที่ทำไลฟ์หรือมีเวลาส่วนตัว มันสงบ เรียบง่าย สะอาด ไม่ใช่ไม่พร้อมที่จะมีใครครับ ถ้ามีก็ได้ แต่จำไว้อย่างนึงว่าในเมื่อคนๆ นึงที่รักตัวเองมากๆ เราจะไม่ไขว่คว้าเลยครับ เพราะต้นทุนคือหัวใจของเราแล้ว เราจะไม่ยอมขาดทุนเด็ดขาด แต่ถ้าเกิดเราจะไปรักใครสักคน ผมว่าคนๆ นั้นต้องทำให้เรามีความสุขขึ้น ไม่ใช่ลดลง
มีเข้ามามั้ยเหรอ ก็มีมาจีบอยู่เรื่อยๆ นะครับ จีบทุกแนวเลยครับ เดี๋ยวนี้เขาจีบกันในติ๊กต๊อกแล้วนะ คือเรายังอยู่ในยุค 90 อยู่มั้ง ถามว่าเหงาไหม คือผมยังมีความต้องการนะครับ (หัวเราะ) ผมก็ยังเป็นมนุษย์คนนึง และผมก็โตแล้ว ไม่ใช่อายุ 12 ผมอายุ 40 กว่าแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงผม ผมจัดการตัวเองได้ ถ้าเกิดพร้อมเมื่อไหร่ก็อาจจะรู้หรืออาจจะไม่รู้ เพราะผมรู้สึกว่าผมไม่ได้ขายเรื่องส่วนตัว ผมขายงานผม ถ้าเกิดบังเอิญเห็นว่าผมแต่งงานหรือมีลูกจริงจังที่ไม่ใช่หมูหมากาไก่ ก็คงได้รู้ครับ”
เผยไม่เคยปิดกั้นเรื่องเพศ
“ทุกวันนี้ผมว่าการหาคนใจดี มันยาก ก็หาคนใจดีครับ คือผมเป็นคนไม่ปิดเรื่องเพศเลยนะครับ เพราะผมโดนจีบในหลายๆ เพศมาก ผมให้เกียรติทุกคนครับ บางคนถ้าเกิดมาดีๆ พูดดีๆ ผมก็จะบอกว่าขอบคุณนะครับ แต่ไม่เป็นไรนะครับ ผมขออนุญาตเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อนกันก็ได้ ผมรู้สึกว่าเขากล้าที่จะส่งข้อความมาหาเราได้ เขาก็เป็นคนน่านับถือส่วนนึง ยกเว้นเขาจะส่งอะไรที่น่ากลัวมา แบบนั้นก็ขออนุญาตบล็อคนะครับ
ผมว่าไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกที่เจอ เจอกันหมดแหละครับ คนคิดว่าตอนนี้เราชอบแบบเดียวกัน แล้วแต่คนจะเข้าใจครับ ผมไม่ใส่ใจอะไรทั้งสิ้นครับ ผมรู้ว่าผมใช้ชีวิตยังไงพอแล้ว แต่ถามว่ามีเสนอเงินเลี้ยงดูให้ไหม ก็ไม่รู้เรียกว่าเลี้ยงดูหรือเปล่า แต่เสนอกินข้าวน่ะมีเยอะอยู่ แต่ภูมิใจที่ได้หาเงินเองมากกว่า ถ้าอยากจะเสนอเงินจริงๆ อุดหนุนสินค้าของผมดีกว่า แต่ที่เคยมีเสนอมาก็ประมาณ 5 แสนครับ กินข้าวนะ มื้อเดียว แต่ไม่รู้เขาให้กินข้าวอย่างเดียวหรือเปล่าไง
ก็เลยบอกว่า ขอบคุณครับ ไม่เป็นไรครับ อุดหนุนของดีกว่า คือเงินมันก็เยอะนะ แต่ถ้าเกิดเราเริ่มต้นกับอะไรแบบนี้ มันก็จะมีต่อไปอีก เวลาเราเดินไปไหน ความภูมิใจลึกๆ ของเราสำคัญมากเลย ถ้าเกิดเราไปเลือกทางลัด ผมว่ามันแค่เดินได้ แต่มันไม่ได้ภูมิใจหรอกครับ แต่ถ้าอยากให้เงินผม อุดหนุน deep เถอะครับ หรือถ้าจะสั่งซื้อเป็นคันรถ ผมจะขับไปนวดหน้าให้เองถึงบ้านเลย (หัวเราะ)”
