เรียกได้ว่าเป็นการเปิดใจพร้อมกันทั้งครอบครัวครั้งแรกในรอบ 20 ปีสำหรับ ครอบครัว “ขวัญ ขวัญฤดี - ปู อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์” และลูกสาว “น้องหยดน้ำ นัดดาภรณ์ นิวาตวงศ์” กับเรื่องราวที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อนในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน31
รู้สึกยังไงที่นั่งแล้วมีพ่อ แม่ ขนาบอยู่ต่อหน้าคนทั้งประเทศ?
หยดน้ำ : “ตื่นเต้น หยดน้ำจำได้ครั้งล่าสุดที่ออกรายการกับคุณพ่อ คุณแม่ น่าจะประมาณ 2-3 ขวบ ปีนี้หยดน้ำอายุ 25 ค่ะ”
เราเป็นครอบครัวนักแสดงทั้งคู่ ตอนนั้นมีหยดน้ำด้วย แบ่งเวลาดูลูกยังไง?
ปู : “จริงๆ เราดูคิว จะจัดคิวไม่ตรงกัน ต้องมีคนหนึ่งนอนกับลูกทุกวัน”
หยดน้ำ : “ใช่ค่ะ หยดน้ำติดพ่อกับแม่มาก นอนกับคนอื่นไม่ได้เลย คุณย่า คุณยาย นี่นอนไม่ได้เลย”
ปู : เราจะคุยคิวกันก่อนว่าปูรับคิววันนี้ๆ นะ เมื่อก่อนเราไม่รับละครซ้อน คิวก็จัดง่ายหน่อย”
อาชีพนักแสดงของพ่อ แม่ ไม่น่าเป็นอาชีพที่เราชอบเลยตอนเด็ก?
หยดน้ำ : “ใช่ค่ะ ตอนเด็กๆ รู้สึกว่ามันทำให้พ่อ แม่ ไม่มีเวลาให้เราเหมือนพ่อ แม่ คนอื่น เหมือนตอนนั้นหยดน้ำอยู่โรงเรียน พอตอนเลิกเรียนพ่อ แม่ เพื่อนก็มารับ เสาร์-อาทิตย์เขาก็ไปเที่ยวกัน เหมือนหยดน้ำก็คือถ้าจะไปเที่ยวกับที่บ้านคือต้องลา หยุดเรียน แล้วก็ไปกัน ก็เลยรู้สึกว่าทำไมเขาไม่มีเวลาให้เราเหมือนคนอื่น”
แบบนี้คุณพ่อ คุณแม่รู้มาก่อนไหม?
ปู : “ก็มีคุณย่าดูแล”
หยดน้ำ : “ตอนเด็กๆ ก็มีร้องไห้ เมื่อไหร่แม่จะเลิกถ่ายละคร ไม่ไหวแล้ว”
ชีวิตจริงพ่อ แม่ ไม่มีเวลา แล้วในละครมีลูกด้วย เสียใจหนักกว่าเก่า?
หยดน้ำ : “ตอนนั้นเสียใจมาก ทำไมเขาไม่รักเรา เขารักคนอื่น”
ปู : “เมื่อก่อนเรานั่งดูด้วยกัน พอเรามีลูกก็เอาเขามานั่งดูละครด้วยกัน แล้วอธิบายให้เขาฟัง”
ขวัญ : “บางทีถ้ามีช่วงหยุดยาว หรือว่าช่วงเทศกาลเราจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ฮ่องกง ให้เวลากับเขาเต็มที่เลย”
มีความสุขไหมตอนที่ไปเมืองนอกแล้วจับมือ พ่อ แม่ ไปด้วยกัน?
หยดน้ำ : “มีความสุข แต่ว่าไม่ชอบเวลาที่พ่อ แม่ อยู่ด้วยกัน รู้สึกกลัวมีน้อง หยดน้ำจะนอนตรงกลาง เพราะกลัว ไม่อยากมีน้อง ไปไหน หยดน้ำจะนอนตรงกลาง ถ้าจับมือ หยดน้ำก็อยู่ตรงกลาง ไม่ยอมให้เขาจับมือกัน”
ขวัญ : เพิ่งรู้นี่แหละค่ะ มิน่าล่ะถึงเป็นลูกคนเดียวถึงบัดนี้
นอกจากไม่อยากมีน้องแล้ว ยังไม่ชอบเวลาไปแล้วคนรู้จักพ่อ แม่เรา แล้วมาขอถ่ายรูปด้วย?
หยดน้ำ : “ใช่ค่ะ ตอนเด็กๆ โดนเปรียบเทียบเยอะด้วย บางทีเราตั้งใจทำ แต่กลายเป็นว่าเราได้มาเพราะพ่อกับแม่นะเพราะคนรู้จักพ่อกับแม่นะ แต่ก่อนกลับมาร้องไห้บ่อย เพราะคิดมาก แต่เขาก็ไม่รู้ตรงนี้ เพราะไม่เคยพูด เหมือนหลายๆ อย่างที่เราทำทำด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วคนจะมองว่าทำอันนี้ได้ เพราะพ่อกับแม่ ไม่มีใครมองที่เราเป็นเรา
หนักที่สุดเลยคือมีคนมาพูดกับเราตรงๆ ตอนนั้นชอบมีพันทิป มีคอมเมนต์ ตอนเด็กๆ ไปเปิดดู ตอนนั้นยังไม่สวย อ้วนๆ ก็มีคนบอกว่าพ่อกับแม่ก็หน้าตาดี ทำไมลูกหน้าตาแบบนี้ ก็เครียดมาก แต่พ่อ แม่ ไม่รู้ เราไม่ได้บอกใคร หยดน้ำเป็นคนเซ้นซิทีฟมากๆกับทุกอย่าง”
ได้รู้เรื่องที่น้องหยดน้ำไม่เคยบอกผ่านทางรายการเรารู้สึกยังไงบ้าง?
ปู : “งงๆ เหมือนกัน แต่เขาเป็นคนอย่างนี้ตั้งแต่เด็ก เวลาร้องไห้เขาจะหันหลังแล้วน้ำตาไหล จะไม่แสดงให้เห็น บางทีเราก็ไม่รู้”
ขวัญ : “ถ้าเขาจัดการอารมณ์ได้ด้วยตัวเองก็โอเค เขาจะได้เข้มแข็ง พี่ขวัญคิดว่าถ้าเขามีปัญหาที่มันไม่ไหวจริงๆ ยังไงเขาก็ต้องมาบอกเรา แสดงว่าอันนี้เขาสามารถที่จะจัดการด้วยตัวเองได้ก็โอเค เขาจะได้รู้ว่าปัญหานี้ฉันสามารถแก้ได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องแม่อย่างโน่น หนูรู้สึกอย่างนี้ทุกเรื่อง”
ปู : “เมื่อก่อนนี้กลัวพ่อดุ ดุไม่ได้”
ขวัญ : “ดุแล้วน้ำตาไหล แต่แม่นี่นะบ่นไปเถอะ ไม่รู้สึกอะไรเลย”
บ้านนี้บทบาทในบ้านสลับขั้วกันมาก?
ขวัญ : “เรื่องทำกับข้าว พี่ปูเป็นคนทำ ขวัญทำกับข้าวไม่เป็นเลย การดูแลเอาใจใส่ แม่ชอบอะไร ลูกชอบอะไร พี่ปูเขาจะมีความละเอียดเรื่องนี้มาก”
จริงไหมบ้านนี้เจ้าอารมณ์ทั้งบ้าน?
ขวัญ : “ใช่ค่ะ อารมณ์ร้อน”
ปู : “อารมณ์ขึ้น ลง เร็ว เวลาขึ้นปุ๊บเราก็หยุด อะไรที่ไม่ถูก อะไรที่ข้ามเส้น ก็ขึ้น แต่พอเรารู้ตัวเราก็รีบหยุด”
ขวัญ : “เวลาเลี้ยงลูก บางทีลูกดื้อ พูดไม่ฟังเรา เราก็แบบทำไม ทำอย่างนี้”
หยดน้ำ : “ทะเลาะกันบ่อยมาก”
ขวัญ : “สาดอารมณ์กันบ่อยมาก ส่วนใหญ่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ”
ปู : “ตอนเป็นวัยทองอะไรก็ไม่รู้ ซื้อข้าวมาให้เขา ใส่ตู้เย็น เขาเดินมาอีก 2 ขั้นถึงตู้เย็นแล้ว เขาบอกเอามาให้สิ ฉันไม่ใช่ขี้ข้านะ หย่ากันไหม”
ขวัญ : “เขาแอบไปร้องไห้ เพราะนี่แหละ”
ปู : “ของก็ซื้อมาให้ มาท้าหย่า อะไรกัน”
ขวัญ : “ตอนนั้นอยากอยู่คนเดียว รำคาญมาก”
บ้านนี้มีกฎของการทะเลาะกัน คือ?
ขวัญ : “ห้ามโกรธกันข้ามวัน พี่ปูบอกว่าถ้ามีอะไรให้เคลียร์กันวันนั้นเลย เพราะถ้าข้ามวันมันจะยิ่งไปกันใหญ่ ซึ่งจริงๆ เพราะเรา 3 คนเป็นคนอารมณ์ขึ้นปุ๊บแล้วลงเร็ว สักพักก็มากอดกันแล้ว”
มันเคยมีเหตุการณ์ที่เคลียร์กันไม่จบไหมระหว่างแม่ลูก เห็นบอกว่าแม่หายตัวไปเลย?
หยดน้ำ : “มี หยดน้ำเป็นคนที่เป็นห่วงแม่มากรู้สึกว่า เราต้องดูแลเขา หยดน้ำรักแม่มากๆ หยดน้ำรู้สึกว่าเราใช้ชีวิตทุกวันก็เพื่อเขา หยดน้ำรู้สึกว่าเป็นห่วงเขามากๆ เหมือนเขาดูแลตัวเองไม่ได้ หยดน้ำต้องดูแลเขา เราโทร.ไปแล้วเขาไม่รับโทรศัพท์ หยดน้ำก็โกรธ แล้วร้องไห้ โทร.หาคุณพ่อ คุณตา คุณยาย ทุกคนในบ้าน”
หยดน้ำ ณ ตอนนี้โสดหรือไม่โสด?
หยดน้ำ : “มีเพื่อนสนิท ไม่โสด แต่ยังไม่เรียกว่าแฟน ก็เรียนรู้กันมาสักพักเกือบๆ ปี พ่อ แม่ก็รู้ เราตกลงกันว่าจะไม่มีความลับ ถ้าหยดน้ำคบกับใครก็จะมาบอกเขาหมด มีใครเข้ามาในชีวิตเรา เราก็จะบอกเขาหมด”
ขวัญ : “เวลาเขาคบใคร เขาจะพาเข้าบ้าน ให้มารู้จักพ่อ แม่ คุณย่า แต่ว่าไม่ได้เป็นทางการ มาแนะนำแล้วสวัสดี ลูกคบใครพี่ยินดีด้วย แต่เรามาสกรีนทีหลังว่าเขาเป็นยังไง เราก็จะรู้รายละเอียดจากลูกนี่แหละ เขาเป็นยังไงก็จะมาเล่าให้ฟังพอเล่าเสร็จเราก็จะสแกนแล้ว อย่างนี้มันไม่ได้นะ อย่างนี้มันไม่ใช่นะ”
พี่ปูหวงลูกจะตาย?
ปู : “ไม่หวงนะ”
หยดน้ำ : “เขาจะหวงลึกๆ ในใจ เขาจะบอกว่ามีอะไรให้บอกเขา เหมือนเขาจะพยายามให้หยดน้ำสบายใจที่สุด อย่างน้อยอยู่ในสายตาเขา เราบอกอะไรเขา เขาก็จะโอเพ่นกับเราทุกอย่าง ถึงเรารู้ว่าเขาจะห่วงเรามากๆ”
ปู : “เขาเรียกว่าห่วงไม่ใช่หวง”
คนล่าสุดนี้ห่วงหรือหวง?
ปู : “เราก็ห่วง แต่เราเชื่อเขา เขาคงเลือกคนของเขาเอง ถามว่าคนนี้ผ่านไหม มันก็ผ่านหมดทุกคน ก็อยู่ที่เขา คนนี้โอเคเรารู้จัก”
ขวัญ : “เขาสืบประวัตินะคะ”
ปู : “พ่อไม่เคยต้องสืบเลย พ่ออยู่เฉยๆ เพื่อนๆ ก็ไลน์มา”
ขวัญ : “มีหนุ่มคนหนึ่งเพื่อนๆ พี่ปูเขารู้จัก ทางนี้ก็บอกเขาเป็นยังไงบ้าง มีกลับมาเป็นแฟ้มเลยประวัติของหนุ่มคนนั้น ว่าพ่อ แม่ เขาชื่ออะไร ทำงานอะไร”
มีไหมที่ลูกพามาแล้วไม่ถูกชะตา?
ปู : “เกือบทุกคน”
หยดน้ำทำไมรู้สึกว่าทุกคนที่เราคบต้องเอามาเจอพ่อ แม่ ก่อน?
หยดน้ำ : “เขาเป็นคนสำคัญกับเรามากๆ เราคุยกับใคร หรือใครเข้ามาในชีวิตเรา เราก็อยากให้เขามีส่วนร่วมด้วยเหมือนกัน เออ..เราคุนยกับคนนี้นะ เรายังอยู่ในสายตาเขา”
แล้วเวลาเตือนเวลาเรารู้สึกว่าคนนี้ไม่โอเค?
ปู : “ส่วนใหญ่ ช่วงแรกๆ จะบอกว่าให้ระวังๆ หน่อยนะ พ่อได้ยินมาไม่ค่อยดี แต่เราไปดูเองแล้วกัน”
หยดน้ำ : “แด๊ดดี๊จะเป็นคนที่รู้ทุกอย่างในชีวิตหยดน้ำ ทุกอย่างลูกต้องเดินเอง ลูกจะเจอปัญหาอะไร ลูกเป็นคนเลือกทางเองทุกอย่าง แต่ให้รู้ไว้ ถ้าลูกล้มจะมีแด๊ดดี๊อยู่ตรงนี้ แต่เวลาล้มหยดน้ำจะเป็นคนไม่ค่อยพูดเรื่องนี้อยู่แล้ว พอมาถึงปุ๊บก็จะมานั่งกับเขา เขาก็จะรู้แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเราแน่ๆ เขาจะถามว่าเป็นยังไง โอเคไหม อยากเล่าไหม ก็จะเป็นพ่อที่ดูเหมือนจะอารมณ์ร้อน แต่พอมีปัญหาปุ๊บเขาจะเป็นคนแรกที่หยดน้ำจะเดินเข้าไปหา”
แล้วทำไมเวลาอกหักมา ไม่มานั่งกับแม่?
หยดน้ำ : “แม่ก็จะบอกว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
พี่ปูป่วยเป็นอะไร?
ปู : “ครั้งแรกเริ่มเป็นไต อยู่โรงพยาบาล 27 วัน แล้วอีกครั้งไปผ่าหมอนรองกระดูกที่คอ ตอนนั้นถ้าไม่ผ่าเขาบอกพิการเลย เส้นประสาทมันทับ แล้วหมอนรองกระดูกมันหมดแล้ว อาทิตย์แรกตัดเล็บได้อยู่ อีกอาทิตย์ตัดไม่ได้แล้ว อีกนิดเดียว เขาบอกว่าถ้าล้มอะไรขึ้นมาเป็นซุปเปอร์แมนเลย หมอเลยให้ผ่าด่วน เลยลากองถ่ายไปผ่าเลย”
ตอนนั้นลูกรู้ไหม?
ปู : “รู้ แขนลีบชัดเจนเลย ยกแขนไม่ได้เลย อาการเริ่มแรกมันปวดคอ ปวดจนเป็นไมเกรนแล้วเรากินยาแก้ปวดกดอาการไปเรื่อยๆ ไม่ได้ดูถึงสาเหตุจนมันช้าไป”
ตอนนี้หายขาด หายดีแล้ว?
ปู : “ดีขึ้นครับ แต่ยังไม่ 100% มือยังใช้ไม่ได้เต็มที่ มันต้องกายภาพเองตลอด”
อยากเข้าวงการเต็มตัวไหม?
หยดน้ำ : “ก็อยากลอง”
ขวัญ : “พร้อมเหรอ อย่ามาเป็นภาระให้ฉัน สมมติเขาไปสาย พี่ขวัญคะ ทำไมน้องหยดน้ำยังไม่มาถึงกอง เราก็จะเสียสมาธิในการทำงานของพี่”
ถ้าเราเข้ามากลัวจะโดนเปรียบเทียบกับพ่อ แม่ไหม?
หยดน้ำ : “กลัวมากค่ะ เพราะขนาดเราไม่ได้ทำอะไร เรายังโดนเปรียบเทียบตลอดเวลา”
ขวัญ : “เราไม่ได้ห้าม ถ้าเขามีโอกาส ถ้าดวงมาทางนี้อะไรก็ห้ามเขาไม่อยู่ ขวัญก็ยินดี เพราะอาชีพการแสดงเป็นอาชีพที่เรารัก แล้วก็สร้างอะไรให้เราหลายๆ อย่าง เปิดโอกาสให้เราหลายๆ อย่างก็อยากให้เขามีดวงทางนี้เหมือนกัน แต่ถ้าจะให้ขวัญดัน ไปสิลูก ไม่เอา ทำไม่เป็น ถ้าดวงเขามาทางนี้โอเค ทำธุรกิจคู่ไปด้วยไม่เป็นไร”
ปกติบอกรักกันบ่อยไหม?
ปู : “บอกทุกวัน”
ขวัญ : “พี่ปูบอกจนเรารำคาญ”
อยากบอกอะไรพี่ปู?
ขวัญ : “ดีใจที่เราได้เป็นครอบครัวกัน ได้เขาเป็นพ่อของลูก ดีใจที่เรายังอยู่กันมาจนถึงทุกวันนี้ บางทีเราก็คิดว่าเขารักเราหรือเปล่าหรือเขาไม่รัก แต่จริงๆ แล้วเขาน่าจะรักเรามากกว่าที่เรารักเขา เขาใส่ใจรายละเอียด ซึ่งเราไม่มีเลยตรงนี้ เขาเรียกว่าหยาบ พี่ปูรายละเอียดเยอะมาก ถามว่ารักเขาไหม รักค่ะ”
ปู : “มี 2 คนนี้รักที่สุด”
หยดน้ำ : “รักพ่อกับแม่มาก มากจนหยดน้ำใช้ชีวิตทุกวันอย่างตั้งใจทำทุกอย่างในชีวิตเพราะเขา หยดน้ำคิดไม่ออกเลยถ้าไม่มีเขา หยดน้ำจะใช้ชีวิตอยู่ไปทำไม เพื่ออะไร เพราะตอนนี้ทุกอย่างของเราเพื่อเขาหมดเลย”
อยากขอบคุณอะไรเขาไหม?
หยดน้ำ : “เขารู้อยู่แล้ว ถึงไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ ทุกวันนี้หยดน้ำทำทุกอย่างให้ดี ประสบความสำเร็จในชีวิต ทุกอย่างก็อยากให้พ่อภูมิใจ”
ขวัญ : “แม่อยากจะบอกว่าลูกแม่สุดยอดแล้ว แม่ภูมิใจทุกเรื่องที่ลูกคิด ไม่ว่าจะเป็นความคิดของลูก การเรียน การทำงาน การประพฤติตน แม่ภูมิใจในตัวลูกมากๆ”
ปู : “ก็รัก”
