ถูกยกให้เป็นสาวแซ่บสองพันปีกับ “ต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล” ที่อยู่ครองวงการบันเทิงมา 47 ปี ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เปิดใจเล่าถึงชีวิตตัวเองในรายการคุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ว่าตนนั้นถือครองโสดมานานถึง 20 ปีแล้ว เพราะให้คำสัตย์กับองค์เทพไว้
อยู่ในวงการมา 47 ปี?
“เริ่มจากการประกวดนางงาม เขาเฟ้นหานางเอกหน้าใหม่เข้าวงการ ก็ได้ตำแหน่งแล้วได้เล่นหนัง ตอนเด็กอยากเป็นตำรวจ อยากเป็นทหาร ไม่ได้มองเรื่องวงการบันเทิงเลย คุณแม่เป็นคนพาเข้ามาประกวด เราก็เลยตามเลย มันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ก็สนุกดี เล่นหนังแล้วก็เริ่มถ่ายแบบ เดินแบบ เล่นละคร ก็มีคนมาชวนไปร้องเพลง เราก็ลองดู”
สวยแซ่บมีคนพร้อมเปย์?
“มีค่ะ ยุคนั้น แต่เราก็บอกเขาไปตรงๆ ว่ายังมีมือ มีเท้า มีสมองอยู่ค่ะ”
มีเจอโรคจิต?
“สมัยก่อนอยู่อพาร์ทเมนต์ ก็มีโทร.มา เราก็ด่าเลย เขาก็หายไป”
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว อายุประมาณ 50 ใส่ชุดว่ายน้ำถ่ายรูปอีกครั้งนึง?
“ช่างภาพเป็นช่างภาพที่เราสนิทกัน เราไว้ใจกันว่าต้องถ่ายออกมาดี ไม่มีภาพอะไรหลุดแน่นอน ยุคนี้มันค่อนข้างยากนิดนึง ยุคหนังสือมันหมดไปแล้ว แต่ถ้าจะลงไอจีต้องคิดให้ดีเพราะมันเป็นโซเชียลมาก”
ปีนี้ความอดทนน้อยลง?
“ด้วยวัยก็มีส่วน เราเจอทุกๆ อย่างในชีวิตมาค่อนข้างเยอะ แล้ววันนึงมาเจออะไรซ้ำๆ ที่มันไม่เคยเปลี่ยนเลยเดี๋ยวนี้ปิดหูหลับตาไม่อยู่ ก็ต้องจำกัดการรับงานของตัวเองด้วย เพื่ออารมณ์ตัวเองจะได้ไม่เหวี่ยง จะไม่เหวี่ยงในกองแต่ผู้จัดการจะเป็นที่ระบาย ตอนหลังก็ควบคุมตัวเองให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ รับงานที่เราอยากทำแล้วมีความสุข เป็นคนไม่ชอบปะทะ เรารู้ว่าเราเป็นคนอารมณ์แรง ภาพมันจะดูไม่ดีเลย”
เคยฟิวส์ขาด?
“สมัยก่อนมีค่ะ ไม่พูดจา เดินเข้าไปก็ซัดเลย เราจะไม่ชอบคนโกหกเรื่อยๆ เราเป็นคนให้อภัยแค่ 2 ครั้ง เรื่องงานต้องดูด้วยเหตุและผล ถ้าเรื่องความรัก มันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก ถ้ามีนิสัยโกหกเป็นพื้นฐานเราไปแก้เขาไม่ได้เราถอยดีกว่าดีที่สุด”
หน้าดุ จริงๆ เป็นคนยังไง?
“หน้านิ่งอยู่แล้ว แต่จริงๆ สามารถใช้ชีวิตคนเดียวได้ อยู่คนเดียวได้ มีหน้าเป็นอาวุธ ไม่ได้เป็นคนดุเป็นคนหน้านิ่ง”
เปิดใจรับหนุ่มๆ?
“ไม่เปิด เราเจอทุกรูปแบบมาแล้ว ความรักมันมาคู่กับความทุกข์ เราอยู่คนเดียวได้มาตลอด มันตกตะกอนแล้วอยู่คนเดียวแล้วมีความสุขกว่ามีอีกคนมา อาจเห็นแก่ตัวและรักตัวเองมากเกินไปก็ได้ ไม่มีใครเข้ามาจีบเลย โสดมาจะ 20 ปีแล้ว อาจเป็นเพราะเราปิด เราไม่สามารถมีใครอีกคนเข้ามาอยู่กับเราได้แล้ว”
ถือพรหมจรรย์ตลอดชีวิต?
“มันเริ่มมาจากตอนที่ไปบูชาพระแม่กาลี ไปวัดแขกแล้วเดินออกมาหางตาเห็นองค์แม่ เราก็ไปดูที่ร้านขอดูจององค์นี้ ตอนนั้นมันก็มีปัญหาอะไรบางอย่างที่เรากลั่นกรองไม่ตก เราก็บอกแม่เลยว่าถ้าเราหลุดพ้น เราจะถือพรหมจรรย์หลังจากได้มาปัญหาที่มีมันหลุดเลย จากนั้นก็มีฝัน ฝันว่าไปงานๆ นึง มีคนจะมาทำร้ายเรา แล้วก็มีตรีของแม่มา คนนั้นก็หายไปเลย”
มีคนให้ไปรับขันธ์?
“มีคนทัก แต่เราบอกยังไม่พร้อม เรายังอยู่ในโลกที่เป็นกิเลส เรายังสละไม่ได้ เลยจุดธูปบอกว่าเราไม่สะดวกรับเรายังรักโลภโกรธหลง”
มีสัมผัสที่ 6?
“ตอนแรกไม่รู้ เวลาเราไปทำงานถ่ายละครไกลๆ บ้าน โรงแรม ที่เก่าๆ ก้าวขาลงไปปุ๊บขนลุกถึงหัว ก็ไปจุดธูปบอกเขามาทำงาน บอกตอนเที่ยงจะทำสังฆทานให้ เราก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเลย แต่ตอนหลังทีมงานมาบอกมันมีเหตุการณ์แม่รู้สึกไหม เราก็บอกรู้สึกแต่ไม่ได้บอกใครเดี๋ยวทำงานกันไม่ได้ มีอีกอันที่บ้านฝันว่ากิ่งไม้อันเท่าขาร่วงใส่หลังคาบ้านข้างบ้าน 3 วันต้นไม้นั้นหักจริง”
มีเดจาวู?
“รู้สึกเหมือนเคยมาแล้วอันนี้จะบ่อยที่เมืองนอก”