“โอ๊ต ปราโมทย์” ปัดข่าวลือเรื่องแต่งงาน บอกตอนนี้ทำแต่งานล้วนๆ เพราะบริษัทกำลังขยายตัว และตนก็มีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตลูกน้องกว่าครึ่งร้อย ฉะนั้นคนที่คบด้วยต้องเข้าใจ วันนึงเมื่อถึงเวลาแต่งงานแล้วมีลูก คนที่เป็นภรรยาก็จะได้สบายไปด้วย
เพิ่งเปิดเผยว่ากำลังคบหาดูใจกับสาวนอกวงการได้ไม่นาน ก็เริ่มมีข่าวลือว่านักร้องหนุ่มเสียงดี “โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน” เตรียมลั่นระฆังวิวาห์แล้ว ซึ่งงานนี้เจ้าตัวรีบปฎิเสธทันที เพราะบอกว่าช่วงนี้ยุ่งแต่กับการทำงาน แทบจะไม่ได้มีเวลาเจอกันด้วยซ้ำ แต่ที่ตนทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพื่อสร้างรากฐานให้อนาคตที่มั่นคง
“เดี๋ยวๆ ยังไม่แต่งอะไรทั้งนั้น ข่าวลือเว่อร์ ไม่มี ยังไม่ได้แต่งงาน ทำงานทุกวันเลย ยังไม่มีแพลนครับ งานผมหนักมากเลย แต่ที่บอกว่าไม่มี ไม่ใช่ไม่อยากแต่ง อยากแต่งงานเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะว่าต้องทำงานก่อน ตอนนี้ออฟฟิศกำลังย้าย เราเติบโตขึ้น ตอนนี้วุ่นวายกับออฟฟิศมาก ต้องไปตรวจออฟฟิศทุกวัน ซื้อของเข้าออฟฟิศทุกวัน
ไม่ค่อยมีเวลาเลย เอาจริงๆ เจอกันน้อย ผมต้องทำงาน หลายคนเห็นตารางงาน จะบอกว่างานเยอะจังเลย มีงานทุกวัน แต่จริงๆ แล้วในวันหนึ่ง ผมยังมีงานอย่างอื่นอีก ที่เป็นงานบริหาร ต้องเซ็นเอกสาร ตรวจรายการ ดูแลบริษัทอีก 3-4 บริษัท งานร้องเพลงตอนกลางคืนก็ต้องร้อง คอนเสิร์ตก็ต้องทำ ซิงเกิลใหม่ก็ต้องเขียน โอ้ย.. ผมเดินเข้าบ้าน มีพนักงานรอผมไม่ต่ำกว่า 8 คน เห็นเราปุ๊บก็บอกว่าพี่คะ เซ็นเอกสารนี้หน่อยค่ะ รายการนี้เอาไงดีคะ พี่คะสคริปต์รายการนี้ดูหรือยัง พี่คะสตูนี้ได้หรือยังคะ พี่คะไฟตรงนี้ดับอีกแล้ว คือมันวุ่นวายสุดๆ จะไปถึงตรงนั้นได้ ต้องพร้อมจริงๆ เราไม่อยากเอาคนอื่นมาอยู่กับเรา แล้วทำให้เขาเดือดร้อน ต้องค่อยๆ ปรับกันไป”
บอกถ้าเข้าใจกันตอนนี้ พอถึงวันที่แต่งงาน มีลูก คนที่มาเป็นภรรยาก็สบายแน่นอน
“เราบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าชีวิตเราเป็นแบบนี้ ตอนที่เราเริ่มคุย เริ่มรู้จักเราก็เป็นแบบนี้ เราไม่เคยเปลี่ยน เวลาว่างเรามีแค่ไหน เราจะเว้นไว้ให้บ้าง และไม่เคยมีช่วงโปรโมชั่น ว่าต้องตื่น 6 โมงเช้าไปกิน เราตื่นปกติ ถ้าเข้าใจแล้วไปแบบนี้เรื่อยๆ มันโอเค ถามว่าเขาเรียกร้องเวลาไหม เขาเรียกร้องได้ แต่ผมไม่มีให้ (หัวเราะ) จะให้ผมทำยังไง มาเรียกร้องอยากได้เวลา ผมให้ไม่ได้เพราะว่าผมต้องทำงาน ผมไม่สามารถทิ้งคน 50-60 คนไปได้ เพราะผมไปสัญญากับเขาไว้แล้วว่าผมจะดูแลชีวิตเขาในฐานะลูกน้อง เพราะฉะนั้นผมจะละทิ้งความรับผิดชอบตรงนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมอาจจะมีเวลากับคนที่รักหรือคนที่คบมากขึ้น แต่ผมต้องเสียพนักงานที่ศรัทธาในตัวเรา เพราะฉะนั้นผมรู้สึกว่าหน้าที่รับผิดชอบผมสำคัญ เป็นหน้าที่หลักก่อน คนที่อยู่ด้วยถ้าเขาเข้าใจก็ถือว่าโชคดี
ตอนนี้เรียกร้องเรื่องความรักยังไม่ได้ครับ ผมทำงานเยอะ เราเป็นหัวหน้าคน แล้วถ้าเรายังไม่รู้จักรับผิดชอบเลย ลูกน้องจะคิดยังไง ผมอยากที่จะสร้างรากฐานตัวเองให้มั่นคงก่อน เพราะว่าบริษัทก็โตขึ้นเยอะ จนเราไม่คิดว่ามันจะโตขึ้นขนาดนี้ แผนของเราอีก 3-5 ปีข้างหน้าเรามองภาพใหญ่ ถ้ามันถึงจุดนั้นแล้วเขายังอยู่ด้วย ก็แสดงว่าเขาไปกับเราได้ตลอดรอดฝั่ง ผมทำงานเยอะมากจริงๆ ผมอยากให้ทุกคนเห็นว่าชีวิตผมทำงานหนักมาก แต่ผมไม่เคยไปเรียกร้องเขา ผมก็ทำของผมไป
แล้วถ้ามันอยู่ด้วยกันแบบนี้ไป พอถึงเวลาที่มันโอเค เราโอเคอยู่แล้ว เพราะว่าทุกอย่างที่เราสร้าง วันนึงเขามาแต่งงานกับเรา เขาคือคนที่จะได้ส่วนแบ่งทั้งหมดจากสิ่งที่เราสร้างมา เขาควรที่จะภูมิใจด้วซ้ำว่าเราสร้างสิ่งเหล่านี้มา แล้วเราก็ดูแลครอบครัวได้ โดยที่เขาก็อยู่สบาย ลูกเราก็อยู่สบายมันก็โอเค ณ ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ยื่นคำขาดให้เราเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง คือทุกคนมันเปลี่ยนไปไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนเราจะบอกว่าคนเราเปลี่ยนทุกไตรมาส ทุกวันนี้คนเปลี่ยนทุกวัน ผมรู้สึกว่าถ้าวันนี้เป็นแบบนี้แล้วแฮปปี้ ผมโอเคแล้ว สบายใจกับการที่ใช้ชีวิตแบบนี้ครับ”