“ป๊อบ ปองกูล” ฝากแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับ “โจอี้ ภูวศิษฐ์” ลั่นถึงเวลาที่อีกฝ่ายต้องตอบแทนบุญคุณ หลังเลี้ยงมา 3-4 ปีจนเริ่มมีเงิน เผยเคยโดนจู่โจมจับนมเมื่อ 10 ปีก่อน ตอกกลับทันที อาจดูไม่น่ารัก แต่เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ เพราะต้องให้เกียรติอาชีพตนด้วย
เคยได้ยินแต่ฝากบ้านไว้กับตำรวจ แต่นักร้องเสียงดี “ป๊อบ ปองกูล สืบซึ้ง” เปิดโครงการฝากแม่ไว้กับน้องแทน โดยให้นักร้องน้องรักอย่าง “โจอี้ ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ” เป็นคนดูแลพาแม่ของตนไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าตัวเผยถึงเรื่องนี้ในงานเปิดรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง "อาตมาฟ้าผ่า" ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ บอกว่าแอบผิดหวังเล็กๆ เพราะแม่กลับมาบอกว่าโจอี้บ่นว่าปวดหลัง ปวดขาแทนแม่ๆ ซะงั้น
“กับโจอี้น่ะเหรอ ก็ฝากไว้ด้วย ไม่มีเวลาไปเที่ยวด้วย คือจริงๆ รู้จักคุ้นเคยกันอยู่แล้ว และมีแม่ไปด้วย ก็เลยฝากแม่ไปเที่ยวกับเพื่อนแม่ และเราก็เอ็นจอย จ่ายเงินอย่างเดียว ก็ฝากถึงโจอี้ ตอบแทนบุญคุณบ้าง เลี้ยงมันมา 3-4 ปี ตอนนี้มันเริ่มมีเงินแล้ว ตอบแทนบุญคุณแม่กูบ้าง แต่รู้สึกว่าทุกคนต้องไปดูแลมันนะ เกมพลิก อายุ 20 กว่าๆ ไปปวดหลังที่ญี่ปุ่นแล้ว พาแม่หลงทางด้วย เอาจริงๆ นะกลับมายังไม่ได้ถามแม่เลยว่าสนุกหรือไม่สนุก แต่สิ่งที่แม่กลับมาแล้วพูดถึงก็คือ ไอ้โจอี้มันเพิ่ง 20 กว่า มันไม่น่าปวดหลัง ปวดขาขนาดนี้เลยนะ ฝากสื่อไปบอกทีว่าใช้ชีวิตให้มันน้อยๆ หน่อย ว่างก็บินไปเชียงรายเตะบอล เสร็จก็กลับมาร้องเพลงต่อ แบบนี้เดี๋ยวมันจะอยู่ไม่ได้นานนะ”
เผยสุขภาพตอนนี้ห่วงแต่เรื่องเสียง ต้องปรับตัวเองให้วอร์มเสียงมากขึ้น
“สุขภาพตอนนี้โอเคครับ จริงๆ ต้องบอกว่าพออายุ 40 กว่าเริ่มมีปัญหาเรื่องเสียงครับ ไม่สามารถรับงานต่อๆ กันได้ ไม่สามารถรับแบบ 3-4 วันติดได้ ตอนนี้ต้องมีวันพักแล้วครับ จากเดิมไม่เคยลิมิตงานเลย แต่ตอนนี้ต้องลิมิตดูวันพักให้หน่อย เพราะไม่อย่างนัันเสียงจะเริ่มแตก สมัยก่อนไม่เป็นนะ ร้องวันละ 2-3 ที่ได้ ตัวช่วยไม่มีครับ ผมว่าพักผ่อนให้เพียงพอเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เดี๋ยวนี้ถ้าสมมติว่าถ้าต้องบินเช้า มันเริ่มมีผลเรื่องเสียง ก็ต้องเช็กร่างกายตลอด แต่ถ้าใครได้ดูรายการแคมป์ปลิ้น หรือรายการที่ผมไปออกกับโอ๊ต (ปราโมทย์ ปาทาน) จะเห็นว่าสักพักนึงเสียงจะเริ่มเหินกันหมดแล้วทั้งคู่ เพราะอายุเริ่มเยอะ เราใช้งานกลางคืน แล้วมาออกงานกลางวัน
คือเราไม่รู้ว่ามันไม่ไหว เสียงบางทีมันบอกไม่ได้ว่ามันพร้อมหรือไม่พร้อม อย่างวันนี้คือโอเค ถ้าให้ร้องเพลงก็ได้ไม่มีปัญหา แต่บางทีพอร้องไป 2-3 เพลงจะรู้สึกว่าทำไมเสียงมันหมดไว เสียงหาย แต่ก็ยังอยู่ในคุณภาพที่สามารถร้องจนจบโชว์ได้นะ เพราะตัวเราเองจะรู้สึกได้ว่าวันนี้เราเสียงแตก ผมก็ใช้วิธีวอร์มเสียงให้มากขึ้น ตอนนี้เรารู้ปัญหาแล้ว เมื่อก่อนไม่เคยวอร์มเสียง เดี๋ยวนี้วอร์มเป็นครึ่งชั่วโมงเลย เพื่อให้เสียงมันตื่น เรื่องวูบ ถ้าผมวูบมันน่าจะไปเลยนะ (หัวเราะ) ไม่เคยถึงวูบเหมือนกัน แต่มันมีสคริปต์โชว์ที่มีช่วงให้หยุดพักครับ อย่างเมื่อก่อนมีโจอี้ไปเล่นด้วย เราก็ได้พักตอนที่โจอี้ร้อง แต่ตอนนี้เราก็หาจุดพักที่เอาเพลงที่สามารถลงมาพักได้ เราก็ต้องวางแผนในโชว์ด้วย”
เผยเคยโดนคนฟังตามร้านอาหารจู่โจมถึงเนื้อถึงตัว บอกช่วยให้เกียรติอาชีพของตนด้วย
“ผมโดนมาตั้งนานแล้ว คือเป็นคนที่คนชอบมาเล่นด้วย จับนมบ้างอะไรบ้าง แต่ผมเป็นคนที่แอ็กชั่นชัดตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถ้ามีคนเข้ามาแอ็กชั่นไม่ดีกับเรา เราจะรีแอ็กไม่ดีกลับไปเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่ารัก แต่ต้องขอโทษทุกคนจริงๆ เพราะนี่เป็นอาชีพเดียวที่ให้โอกาสกับผม ตอนผมเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมหางาน ไม่มีงานไหนให้ผมเลย นี่คืออาชีพเดียวที่ให้โอกาสกับ กรุณาให้เกียรติอาชีพผมด้วย นี่คือสิ่งที่ผมเป็นมาเสมอ และในปัจจุบันก็เข้าใจมากขึ้น
คือปัจจุบันพอมีข่าวออกมา ผมเชื่อว่าเป็นคนดูที่น่ารัก 98-99% ยังเหลืออีกไม่เท่าไหร่ที่เขาบางทีเมาจริงๆ ไม่ไหวจริงๆ ก็ควบคุมยาก แต่เราก็มีทีมงานที่คุยกันไว้อยู่แล้วว่าไม่อยากให้ถึงจุดที่เดินเข้ามาแล้วโยนเงินใส่แบบที่โจอี้โดน เราไม่อยากให้ถึงขนาดนั้น มันก็จะรู้สึกไม่ดีทั้งสองฝ่าย เคยมีคน DM มานะ บอกว่าขอบคุณมากที่ดูแลโจอี้อย่างดี ดูแลโจอี้ให้เขามีรีแอ็กตอบกลับที่ดีมาก ผมก็ตอบกลับไปว่า ถ้ามันได้ผมมาสักนิดเรื่องราวจะไม่เป็นแบบนั้นเลย (หัวเราะ) อันนั้นคือพรสวรรค์ส่วนตัวของเขา คือผมเป็นคนที่พูดกับเขาตรงๆ ถ้ามีเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เราก็พูดเลยว่าเราไม่ชอบ ไม่โอเคกับเรื่องนี้ เรารู้สึกว่าเป็นสิทธิของเราที่พูดตรงๆ ได้”
