“นิว นภัสสร” พึ่งหมดทุกศาสตร์ต้องได้ลูกปีนี้ ไม่มาอาจคิดเรื่องลูกอุปถัมภ์ ห่วงครอบครัว ฝุ่นเชียงใหม่รุนแรงกว่าเดิม

“นิว นภัสสร” เผย ปีนี้เชียงใหม่ ฝุ่น PM2.5 รุนแรงกว่าเดิม ห่วงครอบครัว เตือนไม่ให้ไปเที่ยวไกลพยายามอย่าออกนอกบ้าน ลั่นเคยอยากให้ย้ายบ้านแต่ผู้ใหญ่รักถิ่นที่อยู่ของตัวเอง ลั่นไม่ท้อ ไม่หมดหวัง ปีนี้พยายามเรื่องลูกให้มากกว่าเดิม พึ่งหมดทุกศาสตร์ แต่ถ้าไม่มา อาจคิดเรื่องลูกอุปถัมภ์

เป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิง ที่มีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับ “นิว นภัสสร ภูธรใจ” ซึ่งปีนี้เผชิญปัญหาฝุ่น PM2.5 รุนแรงกว่าเดิม ทำเอานิวเผยในงานประชาสัมพันธ์โครงการครอบครัวอุปถัมภ์ของประเทศไทย รับห่วงครอบครัว แต่ครอบครัวไม่อยากย้ายถิ่นฐานไปไหน

“ฝุ่นปีนี้รุนแรงกว่าปีก่อนๆ มาก 2 ปีที่แล้วนิวกับเป๊กเองก็เคยไปช่วยไฟป่าที่เชียงใหม่ หลายคนหันมาสนใจ และตระหนักขึ้นมาเยอะมาก แต่พอมาปีนี้มันไม่ใช่แค่สถานการณ์ของเชียงใหม่แล้ว มีมาจากเชียงราย แต่ทำไมเชียงรายถึงมีฝุ่น อ๋อ มาจากเพื่อนบ้านบ้าง อันนี้คือตามข่าวนะ ต่างประเทศก็มีภาวะโลกร้อน พอร้อนปุ๊บก็เกิดไฟไหม้

ก็เป็นห่วงคนที่บ้าน จะคอยบอกคุณแม่ตลอดว่าอย่าออกไปเที่ยวที่ไหนไกล ที่บ้านมีเครื่องฟอกอากาศหลายเครื่อง การออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ถ้าเกิดเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เราสามารถจะคุยกับเขาได้เราก็จะบอกจะเตือนว่าพยายามอย่าออกไปนอกบ้าน แต่ด้วยความที่หลายๆ บ้านหรือประชาชนธรรมดาก็ต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ก็ต้องมีการใส่หน้ากากกันมากขึ้น พ่อแม่นิวอยู่นอกเมือง แถวสันป่าตอง พี่ชายที่อยู่ที่ร้านแบรนด์นิว ฟีลด์ กู๊ด จะอยู่ติดป่าเขา อำเภอหางดง บริเวณนั้นจะมีการเผา”

รับหนักมาก จนหลายบ้านไม่ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง
“ในปีนี้มันหนักมาก เราเช็กดูคือที่ 1 ตลอดเลย ก็รู้สึกว่าหลายบ้านปรับตัวที่จะไม่ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งกันเยอะ อากาศร้อนด้วย ฝุ่นด้วย ผู้ใหญ่จะมีสภาวะของโรคอะไรที่มันแทรกแซงได้ง่าย มันจะทวีความป่วยไปอีก เด็กๆ จะอยู่กันแต่ในโรงเรียน ก็จะมีการเพิ่มเครื่องฟอกอากาศกัน”

เคยอยากให้ครอบครัวย้าย แต่ผู้ใหญ่รักในถิ่นที่อยู่
“มีค่ะ เคยถาม แต่ผู้ใหญ่เขาก็จะรักในถิ่นที่เขาเคยอยู่ เขาจะบอกว่ากรุงเทพฯ วุ่นวาย มีแต่รถ มีแต่ฝุ่นควัน ก็เหมือนเชียงใหม่ที่มีแต่ฝุ่น อยู่ที่ไหนก็ฝุ่น เดี๋ยวพรุ่งนี้นิวจะไปเชียงใหม่ พอเพื่อนๆ ทราบว่าจะไปเชียงใหม่ก็ตกใจ เอ้า เธอไม่รู้เหรอว่าที่นั่นมีฝุ่น เราก็บอกว่าแต่ที่นั้นมันบ้านของฉัน ครอบครัวฉัน คนที่รักฉันอยู่ที่นั่น เขายังอยู่กันได้ เราไปไม่นาน เราอยากไปดูให้รู้ว่าสถานการณ์ที่นั่นจริงๆ มันเป็นยังไง ไปดูให้รู้ มันจริงเหมือนข่าวที่นำเสนอไหม ไปดูด้วยตาตัวเองเลย แล้วจะได้มาบอกกับทุกคนได้ว่าคนเชียงใหม่เรามีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร รู้สึกยังไง นิวไม่ได้ไปเชียงใหม่นานมาก น่าจะ 4 เดือนได้”

การเมืองสำคัญ รับฟังข้อมูลทุกพรรค
“เรื่องเลือกตั้งครั้งนี้ก็เป็นอะไรที่เผ็ดมาก นิวติดตามข่าวทุกวันเรื่องนี้ทุกวัน ตื่นมาปุ๊บก็ไถข่าวในมือถือเลย อยากจะให้โอกาสผู้สมัครหรือว่าพรรคการเมืองทุกพรรค บอกนโยบาย ถ้าเราปิดหูปิดตาไม่ฟังข่าวสาร เรื่องการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว ไม่จริงนะคะ เราให้โอกาสเขาดีกว่า เขาอยากจะนำเสนออะไรเราก็ฟังและวิเคราะห์ นิวว่าการเมืองครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนที่มีโอกาสในการเลือกตั้ง เป็นครั้งสำคัญที่ยิ่งใหญ่มากๆ ลองให้โอกาสในการรับฟังข้อมูลของพรรคนักการเมืองทุกพรรคดู

สิ่งที่อยากให้แก้เป็นเรื่องเกี่ยวกับถนนหนทาง เพราะนิวรู้สึกว่าการก่อสร้างถนนทำให้เกิดมลภาวะ หรือฝุ่น รวมไปถึงการจราจรที่ติดขัด กลางวันทำ กลางคืนก็ยังทำ ก็ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่กลางคืนเขาก็ทำนะคะ แต่ความรู้สึกเราคือทำอีกแล้ว คือฝุ่น มีรถติดทั้งกลางวัน กลางคืน คนที่อาศัยอยู่ในเมือง กลางวันก็รถติด กลางคืนก็รถติดมันเครียด”

ไม่หมดหวัง ลุยปั๊มลูกมากกว่าปีก่อนๆ แต่ถ้าไม่มา อาจมองเรื่องลูกอุปถัมภ์
“ปีนี้สู้ๆ ค่ะ จริงๆ วางแผนไว้ตั้งแต่ก่อนโควิด แต่พอโควิดปุ๊บทุกอย่างเปลี่ยนเราก็ลองใช้วิธีธรรมชาติดู ก็ยังไม่มา เราปรึกษาทุกหมอ หมอสูติ หมอดู ไหว้พระ ทำบุญ คือเราทำทุกทางจริงๆ ในช่วงที่ผ่านมาแต่ก็ยังไม่สำเร็จ ปีนี้นิวก็ตั้งใจว่าจะลุยให้เต็มที่เช่นกัน ลุยมากกว่าปีก่อนๆ ตอนนี้นิวดูแลร่างกายแบบจริงจังเลย มีหลายครั้งที่เรารู้สึกไม่มาก็ไม่เอาก็ได้นะ อยู่กันแบบนี้ก็ได้ พอเราก็ดูคลิปของคุณแม่ที่พยายามอยากจะตั้งครรภ์หลายๆ คน เขาฝ่าฟันอะไรมาเยอะมาก เขาทำมาหลายทีมาก รวมไปถึงเพื่อนๆ ในวงการที่คอยให้กำลังใจเรา อย่างลีเดีย (ศรัณย์รัชต์ ดีน) จุ๋ย (วรัทยา นิลคูหา) ดา - อีฟ เพื่อนมีกันหมดแล้ว แล้วเมื่อไหร่เราจะมี เห็นถึงความตั้งใจที่ทุกคนส่งมาให้เรา เราจะไม่ท้อ วางแพลนภายในปีนี้ ตอนนี้ปรึกษาทุกหมอ หมอจีน หมอปัจจุบัน รวมไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปไหว้ที่ไหนก็จะบอกขอให้โชคดี ขอให้มีบุตร

เรื่องอายุก็กังวล นิวแต่งงานตอน 36 มันผ่านมา 4-5 ปีแล้วจนตอนนี้หลัก 4 แล้ว แต่คุณแม่หลัก 4 สาวๆ หลัก4 เดี๋ยวนี้ก็ยังสวยอยู่ในทุกๆวัน เรารู้สึกว่าเราไม่ใช่คน 40 ที่เรียกว่าคุณป้า ไม่ใช่ เรายังรู้สึกเฟรชอยู่ เรายังทำงานได้ เราสามารถเป็นคุณแม่ได้ คิดว่ามันก็คงยังไม่หมดหวัง เพราะคุณหมอเดี๋ยวนี้เก่งมากๆ พี่ๆ ในวงการเขาก็ถามว่าเราศึกษาอะไรมาบ้าง เราก็บอกน้อยมากเลยค่ะ เขาก็ถามอีกว่าการนอนเป็นยังไง การกินเป็นยังไง พอเราตอบไม่ได้เขาก็บอกว่ายังไม่ผ่านเกณฑ์ นิวต้องรีบดื่มน้ำให้เยอะ นอนให้เยอะ ทุกวันนี้นิวนอนเร็วมาก กินน้ำ กินโปรตีน กินปลา กินไข่ ทำทุกอย่าง อารมณ์ก็ต้องดี สิ่งสำคัญคือภาวะจิตใจเราต้องเข้มแข็ง ก็ไม่หมดหวังคะ ถ้าปีนี้ไม่ได้ก็อาจจะมองถึงเรื่องรับอุปถัมภ์ ปีนี้ต้องทำให้ได้ค่ะ ต้องมาค่ะ”