xs
xsm
sm
md
lg

“เวียร์ ศุกลวัฒน์” อวย “วิกกี้” ยกเป็นภรรยาดีเด่น ดูแลดีทั้งลูก ทั้งผัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เวียร์ ศุกลวัฒน์” เผยช่วงนี้ยังไม่ได้ทำงานจริงจัง ขอใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด เพราะถ้าตนกลับมาทำงานก็ห่วงว่า “วิกกี้” จะเหนื่อย ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่ยกตำแหน่งภรรยาดีเด่นให้ไปเลย เพราะดูแลทั้งลูกทั้งผัวดีเยี่ยม โอดตอนนี้บ้านที่กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยเครื่องกรองอากาศ เตรียมยกครอบครัวไปอยู่บ้านต่างจังหวัด 

ช่วงนี้จะได้เห็นพ่อลูกอ่อน “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” ในลุคเข้มๆ ไว้หนวดอยู่ตลอด เพราะเจ้าตัวบอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มกลับมาทำงานเต็มตัว ปล่อยให้เป็นลุคนี้ไปก่อน และแฮปปี้มากที่ได้ใช้เวลาเลี้ยงลูกได้เต็มที่ เพราะจะได้เห็นพัฒนาการของลูกที่เปลี่ยนไปทุกวัน

“ลุคนี้ใช่ไหม ก็ยังไม่ได้รับงานแบบยาวๆ เนอะ ตอนนี้อยากลุคไหนก็ได้เลย เพราะหลักๆ ตอนนี้ก็เลี้ยงลูกครับ ก็เริ่มคุ้นกับลุคนี้แล้ว เพราะว่าลูกก็ 4 เดือนแล้ว ก็เลี้ยงกันสนุกสนาน ก็รู้สึกว่าเราเป็นพ่อได้ และการเลี้ยงลูกก็สนุกมีความสุขครับ ภรรยาก็เรียกผมว่าพ่อบ้าง เรียกป่ะป๊า คือเรียกแทนลูก 

ที่พาน้องทำคอนเทนต์สวมบทนักพากย์ ก็อยากให้มีส่วนร่วมเป็นครอบครัว นี่ก็คิดกับภรรยาอยู่ว่า ด้วยความที่ภรรยาผมเขาพูดภาษาจีนได้ เขาบอกอยากจะสอนลูกเป็นภาษาจีน ทำคลิปได้ไหม ผมก็บอกว่าได้สิ ดีเลยพราะเธอพูดจีนได้ ก็หาอะไรทำ เราอยู่บ้านจะได้ไม่เบื่อ”

ยกตำแหน่งภรรยาดีเด่นให้ เพราะดูแลทั้งลูก ทั้งตนดีมาก
“(หัวเราะ) ผมว่าเขาเป็นเด็กอารมณ์ดี ไม่ค่อยงอแง เรื่องพัฒนาการดี เราก็รู้สึกว่าได้เห็นเขาเติมโตขึ้นทุกๆ วัน ก็มีความสุข ให้ความร่วมมือดีครับ เก่งอยู่นะ (คุณแม่ให้ความร่วมมือ?) ต้องบอกว่าผมให้ความร่วมมือ เพราะผมเป็นลูกมือ คุณแม่เขาผู้นำ มือซ้ายเขาดูแลลูก มือขวาเขาดูแลผม ประมาณนั้นเลย ภรรยาดีเด่นครับ ดูแลทั้งลูกดูแลทั้งผัวเลย (หัวเราะ)

ก็พยายามช่วยกัน ถามเขาตลอดว่าอยากไปไหนไหม เพราะช่วงนี้เรายังไม่ต้องทำงาน ก็หาเวลาพักผ่อน ไปต่างจังหวัดกันเรื่อยๆ จะได้ไม่จำเจ แต่ถ้ากลับไปทำงานต้องคิดถึงลูกชัวร์ ขนาดตอนนี้ออกจากบ้านเวลามีงานนิดหน่อยก็รู้สึกว่าคิดถึง จริงๆ แล้วเราห่วง ถ้าเราทำงาน ภรรยาก็จะอยู่กับลูกแค่สองคน ก็ห่วงว่าเขาจะเหนื่อยไหม

ส่วนเวลาที่ภรรยาทำงาน เขาก็จะห่วงว่า สต๊อกนมพอไหม ถ้าเขาไม่อยู่ผมจะต้องคอยป้อน เขาก็บอกว่าฝึกไว้เวลาเราสลับมาทำงานกัน ค่อยๆ ฝึก ถ้าวันหนึ่งเราจะกลับมาทำงาน ก็ใช้วิธีสลับกัน คุยกันตลอดครับถ้าใครมีงาน กี่โมงถึงกี่โมง ก็ต้องปรึกษากัน (ถึงเวลาจริงก็ทำใจยาก?) เนอะ ก็กระเตงๆ กันไปได้นะ ถ้าลูกโตอีกนิดหนึ่ง ผมว่าจะเริ่มถ่ายหนังอีกทีหนึ่งช่วงเดือน 7 ลูกผมก็ 8-9 เดือน ก็น่าจะโตขึ้น ได้วัคซีนมากขึ้น ก็อาจจะออกนอกบ้านได้บ้าง กระเตงกันไป”

บอกดีที่ลูกไม่ติดมือ ก็เลยอยู่กับใครก็ได้
“จริงๆ อยากพาเขาไปกองถ่ายด้วย เพราะเราเลี้ยงกันเอง ไม่มีพี่เลี้ยง ก็เห็นหลายครอบครัวที่เขาพาลูกไปทำงาน ทุกที่คือโรงเรียนเนอะ สามารถสอนเขาได้ อยู่ที่เราจัดการยังไงมากกว่า ถามว่าให้ซึมซับงานในวงการด้วยไหม จริงๆ เฉยๆ อยู่ที่เขาชอบ แค่อยากให้เขาเลือก แต่ถามว่าเขาติดใครมากกว่ากัน ที่บ้านไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย เราเลี้ยงลูกให้อยู่ได้ทั้งกับพ่อและแม่ เราจะรู้สึกถ้าคนใดคนหนึ่งไม่อยู่บ้าน ลูกอาจจะงอแงหาอีกคนหนึ่งว่าไปไหน เพราะเขาเห็นสองคนอยู่ตลอด

กับคนอื่นๆ น้องก็อยู่ได้นะ ตอนนี้มีฝั่งครอบครัวของวิกกี้ มีอาม่า มีอาๆ อย่างวันนี้เขาก็อยู่ ผมมาที่นี่ วิกกี้ก็มา เดี๋ยวดูหนังด้วยกัน ตอนนี้น้องก็อยู่กับอาม่า กับอาๆ 2 คน อยู่ได้ เพราะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องติดมือ เพราะอาม่าเลี้ยงตั้งแต่เด็กเลย เคยมาเลี้ยงอยู่ 2-3 ครั้ง เขาจำได้ เขามีวิธีจัดการ มีนม มีของเล่น มีหนังสือให้อ่านให้ เดี๋ยวก็วิดีโอคอล”

เผยตอนนี้เครื่องฟอกอากาศเต็มบ้านไปหมดแล้ว
“ใช่ครับ ถ้าร้อนมากๆ ผมก็จะไม่พยายามพาลูกออกมา แต่ผมไม่ค่อยอยากให้ลูกอยู่ในห้องแอร์ตลอด ผมโชคดีที่มีบ้านอยู่เขาใหญ่ มีบ้านที่ต่างจังหวัดที่อากาศค่อนข้างถ่ายเท ก็จะไปอยู่ต่างจังหวัดเยอะ อากาศดีมาก เดี๋ยวจบงานอีเวนต์ถึงวันที่ 8 เม.ย.นี้ ช่วงสงกรานต์ผมก็ไปยาวเลย เข้าเขาใหญ่ไปอีสาน ไปอยู่ที่อากาศดีๆ

ก็เครียดกับเรื่องอากาศที่ไม่ดีนิดนึง แต่เราก็ต้องอยู่กับมันนะ เรามีบ้านอยู่ที่นี่ มีงานที่เราต้องทำที่กรุงเทพฯ เราก็ต้องอยู่ให้ได้ อะไรที่เป็นพวกอุปกรณ์กรองอากาศก็มีเต็มบ้าน ในรถเข็น มีแบบหนีบ แบบดันเชื้อโรคลงพื้น มีตัวกรองอากาศใส่คาร์ซีท คือผมทำทุกอย่างนะ ต้องพยายามเซฟเขา มีเต็มบ้าน หันไปตรงไหนมีแต่เครื่องกรองอากาศ วางทุกมุม ดีกับเราดีกับลูกด้วยครับ









กำลังโหลดความคิดเห็น