“ณวัฒน์” ลั่นแฟนนางงาม “มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023” ต้องเปลี่ยนบริบทการดูนางงามใหม่ ผู้เข้าประกวดต้องเป็นมากกว่านางงามคือเป็นแม่ค้าออนไลน์ได้ด้วย ฉะ 3 นางงาม “หนูดี-มารีม่า-ชมพู” อย่าเล่นกับตนและมิสแกรนด์ แกรนด์ สร้างได้ ก็ต้องควบคุมได้ เผยจุดเดือดไม่ใช่เรื่องโพสต์ทวิตเตอร์แต่เพราะไม่ยอมเซ็นสัญญากติกาใหม่
เปิดให้สื่อมวลชนร่วมเก็บบรรยากาศ “มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2023” เข้ากองประกวดวันแรก กับสาวงาม 77 จังหวัด ที่เปิดตัวกันได้สุดปัง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถาม “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ประธานและผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล และ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ถึงข้อสงสัยจากนางงาม และแฟนนางงาม ในเรื่องของเวที มิสแกรนด์ กับ กิจกรรมการไลฟ์ขายของ ซึ่ง ณวัฒน์เผยว่า ระหว่างเก็บตัว ยังไงก็จะต้องมีกิจกรรมไลฟ์ขายของ เพราะถือเป็นกิจกรรมที่เสริมทักษะ สร้างตัวตน สร้างแฟนคลับ และสร้างรายได้ให้กับนางงามและองค์กร
“ขายของสิขาย แฟนนางงามก็เตรียมตัวไว้ซื้อแล้วกัน คือดูแกรนด์ให้เป็นแกรนด์ อย่าให้แกรนด์ต้องเหมือนเวทีอื่น เพราะการที่เป็นแกรนด์เรามีเงินใช้ เรายืนอยู่บนลำแข้งตัวเอง ผมอยู่ถึงตรงนี้ ผมอยู่ในวงการมา 25 ปี จนผมต้องถอยออกมา ทุกวันนี้งานเยอะแค่ไหนผมยังคงต้องไลฟ์ขายของ ผมมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยวาสนา ไม่ต้องรอให้ใครมาให้ สามารถทำได้เอง นิดๆหน่อยๆ ก็ต้องทำ ทำให้ดูเป็นแบบอย่าง การขายของถือเป็นกิจกรรม ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เข้าใจได้ ถ้าเกิดคุณอยากเปิดโอกาสให้ตัวเอง ให้มีทักษะ เพิ่มรายได้ เพิ่งแฟนคลับครับ
มันมาถึงคำว่ามากกว่าการประกวดนางงาม ทุกคนต้องเปลี่ยนบริบทกับแกรนด์ ดูแกรนด์ให้เป็นแกรนด์ ทุกอย่างต้องเต็ม ต้องเยอะ ต้องมีเอกลักษณ์ มีซิกเนเจอร์ของตัวเอง มีความสามารถ มีลูกค้าที่ยอมซื้อได้ อุดหนุนน้องได้ พาไปไลฟ์ขายของ เป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายภาพนิ่งได้ พาไปรีวิวได้ อุดหนุนน้องได้ เพราะฉะนั้นสวยภาพนิ่ง ไม่มีเงิน ไม่ใช่แกรนด์ครับ”
คณะกรรมการพิจารณาแล้ว “หนูดี อรปรียา เนซ่า มามูดี้” เข้าประกวดเวทีอื่น หลังมีปัญหาไม่ยอมเซ็นสัญญาข้อตกลงใหม่
“ไลฟ์เมื่อคืนเสร็จก็ดูกระแสจนถึงตี 2 แล้วก็นอนหลับไป มาตื่นตี 4 นอนไม่หลับแล้ว มันมีเรื่องที่ค้างคาใจเยอะ ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งความยากลำบากในการทำงานครับ การที่ 3-4 คนทำแบบนั้นมันมีผลกับการพาน้องไปประกวดเวทีอื่น เรารู้สึกว่าไม่อยากให้ไป คณะกรรมการก็ไม่พิจารณาให้ไป ก็คงจะต้องมีการเปลี่ยนคนไป
สำหรับใครที่ลงทะเบียนไว้แล้วเราจะทำการแจ้งใหม่อีกทีว่าใครควรไป ถือเป็นบทเรียนให้น้องๆ ดูกันไว้ด้วยนะ แบบอย่างที่ดีคือแบบอย่าง อิงฟ้า วราหะ แบบอย่างชาล็อต ออสติน แบบอย่างบิวตี้ ไฮดี้,มาลี ส่วนแบบอย่างของ 3-4 คนนั้นอย่าไปเลียนแบบ ไม่ดีอย่าทำ ผมเป็นคนที่ตรงมากนะครับ ฉะนั้นต้องชัดเจน บทลงโทษจริงจังยังไม่มี แต่เราก็ได้ชี้แจงเหตุและผลไปหมดแล้วว่ามันเกิดจากอะไร บทบัญญัติสูงสุดคือการพักงาน น้องจะไม่ได้ขึ้นอำลาตำแหน่งครับ”
บอก 3 นางงามดัง มารีม่า สุภัทรา เกลี้ยงพร้อม , หนูดี อรปรียา เนซ่า มามูดี้ และ ชมพู อทิตา พยัคฆ์ ส่งข้อความมาหาตนแล้ว ลั่นอย่าเล่นกับตนและมิสแกรนด์ แกรนด์สร้างได้ ก็ต้องควบคุมได้
“ส่งข้อความมาแล้ว มาพร้อมๆ กัน เขาทำงานเป็นทีมครับ ข้อความเป็นไปทำนองเดียวกัน แต่มีคนนึงโทร.มาสารภาพแล้วเมื่อคืนตอนตี 2 กับโกโก้ อารยะว่าไม่ได้ทวิตฯ ถึงบุพการี แต่ทวิตฯ รับประทานบริษัท ผมบอกแล้วไง มิสแกรนด์และณวัฒน์ อย่าเล่น บอกแล้วไง แกรนด์สร้างได้ ก็ต้องควบคุมได้
จริงๆ แล้วเด็กถ้าจะดื้อผมไม่ว่านะครับ พอส่งสัญญาให้รับผิดชอบควรต้องรีบเซ็น มันมีแค่ 4 บรรทัด ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางบริษัทไม่อนุญาตให้ทวิตฯ ข้อความ รีทวิตข้อความ โพสต์ข้อความที่สอดเสียด เสียดสี หมิ่นเหม่ทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้คนเข้าใจผิด ถ้าทำในวันข้างหน้าจะพิจารณาโทษ ครั้งนี้ไม่ได้คิดอะไร ก็ผ่านไป แต่ต้องไม่เซ็น และพูดจาไม่เพราะ ก็ใช้เวลา 2 วัน แพแตก จนเหลือคนสุดท้ายก็ต้องยอมมอบตัว”
แต่งตั้ง “โกโก้ อารยะ ศุภฤกษ์” เป็นผู้จัดการกองประกวดมิสแกรนด์ฯ และ “บิวตี้ วรัญชนา ระดมเล็ก” เป็นรองผู้จัดการกอง
“โกโก้ เขาไม่รู้หรอกว่าเขาโดนนินทา เพราะเขาเป็นคนแข็งแรง นินทาจริงครับ แต่ไม่ได้ด่าทอ สาดเสียเทเสีย แต่นินทาทำนองว่าแล้วโกโก้จะมายุ่งอะไรด้วย โกโก้ไม่เคยยุ่งเกี่ยว ไม่เคยมาช่วยแล้วจะมาโพสต์ทำไม ผมไม่สนใจเรื่องอะไรเล็กน้อย ในตอนนี้โกโก้ ยังคงเป็นผู้จัดการกองประกวด บิวตี้ (วรัญชนา ระดมเล็ก) เป็นรองผู้จัดการกองประกวด เพิ่งสถาปนากันอย่างเป็นทางการ จะไม่ให้น้องต้องช้ำใจกับการออกงานกับคนเหล่านี้อีกแล้วตั้งแต่วันนี้ไป
ผมเป็นคนแฟร์ ที่ผมก็ยอมรับว่ามันไม่ค่อยแฟร์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ผมก็พยายามจะฟังแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง คอนเสิร์ตก็ไม่ได้ขึ้น ซีรีส์ก็ไม่ได้เล่น งานไหนก็ไม่ค่อยได้ไป จะเป็นอย่างนี้ ได้น้อยที่สุดแทบจะไม่ได้อยู่แล้ว จริงๆถ้าบิวตี้จะโพสต์ด่าบริษัทผมก็ยินดีนะ เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่คนที่โพสต์ได้เยอะสุดแล้วไง ในฐานะที่คุณเป็นแบบนี้คุณจะมาเทียบกับอิงฟ้า-ชาล็อตมันเป็นไปไม่ได้ อย่าเป็นคนที่คิดอย่างนั้น คนทำดีต้องได้ดีครับ”
คิดส่ง “บิวตี้ วรัญชนา” แทน “หนูดี อรปรียา”
“ตอนนี้ก็คิดอยู่ว่าจะส่งบิวตี้ไปแทนคนที่จะส่งครับ 99.99% ผมไม่ได้แรงครับ แต่ถ้าเขาไปแล้วเกิดพูดจาอะไรถึงบริษัทแล้วถูกคนตำหนิ เราจะไปรู้ใจเขาได้ยังไง ในเมื่อเราให้เขาเซ็นแล้วเขาไม่เซ็น บทสรุปมันไม่ได้อยู่ที่เซ็นหรือไม่เซ็น แต่มันอยู่ที่ ความคิด สติปัญญา ต่อมใต้สมองของความคิด คิดอะไรกันอยู่
(พอรุ่นพี่มีประเด็นแบบนี้ จะทำให้น้องๆ ปีนี้ ต้องเลือกต้องดูมากขึ้น?) อยากจะตอบว่าดูมากขึ้นแล้วมันจะได้คำตอบรึเปล่าผมตอบไม่ได้ เพราะเวลาสัมภาษณ์ทุกคนจะตอบดี มีใครตอบได้ไหมว่าจะไม่นินทาบริษัทลับหลัง จะปฎิบัติตาม มาแต่คนบอกว่าหนูเต็มที่ แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนั้น ก็อาจจะมีข้อเพิ่มเติมตรงต้องรักษาภาพลักษณ์องค์กรอย่างที่สุด และสามารถยอมรับฟังการติ รวมถึงเพิ่มข้อกำหนด เพราะนางงามที่ไม่ยอมเซ็นบอกว่าข้อกำหนดเพิ่มเติมตามกฎหมายแล้วต้องได้รับการยินยอมจากทั้งสองฝ่าย ก็เป็นสไตล์หัวหมอนิดนึง ซึ่งผมรู้สึกโอเคได้เลยครับน้อง เดี๋ยวพี่จัดให้ ก็ไม่มีปัญหาครับน้อง แต่มาเซ็นตอนสายมากแล้ว”
เผยจุดที่เดือดไม่ใช่เพราะออกมาทวิตฯ แต่เป็นเพราะไม่เซ็นสัญญากฎใหม่
“นั่นขอโทษหรือแก้ตัวครับ แก้ตัว เขาไม่ใช่เอฟซี เขาคือคนที่อยู่ด้วยกัน เอฟซีมีการนอนบนคอนโดเตียงเดียวกันได้เหรอครับ มานั่งนับเงิน นับของ นับกล่องเกือบ 2 ล้านได้เหรอในวันคอนเสิร์ต มาทำแบบนี้แต่เพียงผู้เดียว เอฟซีทำแบบนี้ได้เหรอครับ ทำไม กินอะไรเข้าไป สมองถึงได้แปลกกันขนาดนี้ แล้วผมมั่นใจว่าทั้งแก๊งรวมถึงคุณพงษ์ด้วย คิดดีแล้วถึงทวิตฯ หาผมแบบนี้ ผมมั่นใจนะครับ ฉะนั้นเป็นเด็กถ้าผิดพลาดรีบขอโทษและยอมทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ขอร้องในอนาคต
จุดที่ผมโกรธมาก และบริษัทโกรธคือไม่ยอมเซ็นเอกสาร จุดนี้คือจุดที่พังมาก จะทวิตฯ ด่าอย่างมากก็เรียกมาด่าส่วนตัว แต่ว่าตอนนี้เขาจะมาหาผมส่วนตัว เรื่องเกิดบนโซเชียล ต้องจบบนโซเชียล ผมไม่ค่อยสนเรื่องของกฎหมายครับ กฎแห่งกรรมมันตามทันเร็วกว่ามากในเคสนี้ แล้วใครจะรับไปทำงานครับ”
ให้อภัย 12%
“ขอยืมคำแม่แตงโม นิดา. ให้อภัยกี่เปอร์เซ็นต์ดี เอา 12% แล้วกัน ผมเป็นอย่างนี้แหละ เวลาที่ผมไม่ชอบใจอะไรเวลาที่ผมเสียใจ ผิดหวัง ผมเสียความรู้สึกแล้วผมกลับยากมาก นานๆ ผมจะเกิดทีนึงนะครับ ทำไมผมต้องสู้กับบริษัทหวย บริษัทเพชร เพราะมันเป็นความจริง สุดท้ายเขาต้องถูกจับ ผมสู้หัวชนฝา ถ้ามันไม่จริงผมช่วยหมด ทำไมผมต้องช่วยอิงฟ้าคดีพันกว่าล้าน ผมทำทุกอย่างนะครับ แต่ถ้าวันนึงผมผิดหวัง ความผิดหวังมันไม่ได้ทำให้ผมถอยนะครับ มันจะหายไปเหมือนกดลงหลุม ผมคิดว่าสักวันนึงความรู้สึกดีๆ ของผมจะกลับมาบ้าง แต่วันนี้บอกตรงๆ ไม่มีความรู้สึกอะไรเหลือ”