“ณวัฒน์” สุดเอือม เด็กมิสแกรนด์ ฟาดยับมาราธอน “มารีม่า-หนูดี-ชมพู” คลื่นใต้น้ำทวิตฯ ป่วน ทำเอฟซีทัวร์ลง มิสแกรนด์ฯ ปี 23 เหตุไม่ได้ขึ้นคอนฯ “ชาล็อต ออสติน” จวกผู้จัดการชาล็อตชุดใหญ่อีกคน ฟาดแรงๆ หน้านี้ไม่มีสตรอว์เบอร์รี่ ดังได้ก็ดับได้ หน้าไหนก็ไม่กลัว แม้แต่นายกฯ ยังไม่กลัวเลย ผิดหวังที่สุดคือ ชมพู น้ำใจสักนิดให้ตนก็ยังไม่มี!
กลายเป็นประเด็นอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ออกมาฟาดยับแฟนคลับ “ชาล็อต ออสติน” หลังจากเข้าไปป่วนผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ปี 2023 ที่ไลฟ์ขายของเพื่อชิงสิทธิ์ ทำยอดขายได้ 1 ล้านสามจังหวัดแรก จะได้ร่วมเป็นศิลปินรับเชิญโชว์สุดพิเศษบนเวทีคอนเสิร์ตชาล็อต ได้ร้องโชว์ 1 เพลง
ซึ่งหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทำน้องๆ มิสแกรนด์ปีล่าสุดตกอกตกใจ เพราะทัวร์ไปลงกันกระหน่ำ ทำให้ต้องปิดไลฟ์กะทันหัน งานนี้ บอสณวัฒน์ ไม่ทน จัดการไลฟ์ฟาดยับๆ ไม่เข้าใจตรรกะคนบ้า ถ้าคิดไม่ได้ไม่ต้องมาเป็นแฟนคลับชาล็อต เหมือนรั้งการเติบโตของชาล็อต หวงศิลปินไม่ให้คนนอกมาดู แล้วศิลปินจะเติบโตได้ยังไง ทำไมเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ งานชาล็อตก็ต้องมีแขกรับเชิญสิ จะให้ชาล็อตเปลี่ยนชุดยังไง ร้องตั้ง 25 เพลง จะให้แก้ผ้าบนเวทีเหรอ
ต่อมา ณวัฒน์ ได้ไลฟ์สดด่ามาราธอนอีกครั้ง ในคืนที่ผ่านมา (2 เม.ย.66) โดยรอบนี้ ได้ออกมาฉะ 3 นางงามดัง มารีม่า สุภัทรา เกลี้ยงพร้อม, หนูดี อรปรียา เนซ่า มามูดี้ และ ชมพู อทิตา พยัคฆ์ รวมทั้ง “พงษ์” ผู้จัดการชาล็อต แต่อ้างตัวเป็นแค่แฟนคลับ ซัดทั้ง 4 คนเป็นคลื่นใต้น้ำ ที่โพสต์ทวิตเตอร์ปั่นป่วน จนทำให้แฟนนางงามไปทัวร์ลงนางงามน้องใหม่ปี 2023
“เป็นเรื่องน่าเบื่อ น่ารำคาญ ผมเป็นคนไม่กลัวใคร และไม่ให้ใครลบหลู่ดูหมิ่น ใช้ชีวิตในวงการ 25 ปี ประคองหน้าอยู่ในวงการได้นานมาก ถ้าไม่เลิกคงอยู่ได้อีก 10 ปี ผ่านมาหมดทั้งคนจริงใจและจิงโจ้ หน้าไหว้หลังหลอก ผมรู้ทันหมด เด็กประเภทไหนก็รู้ทันหมด การทำงานของผมค่อนข้างเอาจริงเอาจัง ผมเป็นคนง่ายๆ เฟรนด์ลี่
คุณพงษ์ถ้าบอกว่าตัวเองไม่ใช่คนส่งนางงาม ไม่ใช่ทีมงาน ผมว่าไม่ใช่ ตลอดเวลา มารีม่า ชาล็อตเรียกว่าแม่ คนนี้ถามว่าอยู่ในทีมไหม การันตีว่าอยู่ในทีม แต่อาจไม่ใช่คนที่ส่งตัวใหญ่ จะมาบอกว่าเป็นเอฟซีแล้วพลุ่งพล่านไม่ใช่ คุณใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไปมาหาสู่กัน ขึ้นไปอยู่คอนโดเดียวกัน ไปขลุกอยู่ที่นอนเดียวกันกับนางงาม คุณว่าเอฟซีทำแบบนี้ได้ไหม
คุณไม่แน่จริง คนชื่อพงษ์เข้ามาหลังเวทีในอีเวนต์ต่างๆ เปรียบเสมือนคนติดตาม วันคอนเสิร์ตชาล็อต คนชื่อพงษ์เป็นคนเดียวได้นั่งอยู่ในห้องชาล็อตส่วนตัว นับแบงก์ทุกใบที่แฟนคลับส่งให้ชาล็อต ชาล็อตไว้ใจพงษ์คนเดียว ผมเข้าไปกี่ครั้ง พงษ์ก็อยู่กับสารพัดสมบัติที่แฟนคลับมอบให้เป็นล้าน สองแสนสามแสน แฟนคลับที่นั่งอยู่ข้างนอกเข้ามาทำได้ไหม คุณเป็นคนนับเงินหนึ่งล้าน ดอกไม้แสนสองแสนทั้งหมด ใช่คุณไหม ตอนนี้จะมาบอกว่าเป็นเอฟซี เอากล้องวงจรปิดดูไหม เอฟซีมีสิทธิ์มานั่งนับเงินให้ศิลปินเหรอ เอาให้ชัดๆ คนเรา จะเอาคำว่าส่งหรือไม่ส่ง ผมไม่รู้ แต่คุณอยู่ในทีมแน่ ถ้าไม่อยู่ในทีมจะไม่ได้สิทธิ์เข้ามาอยู่หลังเวทีกับศิลปิน เราไม่อนุญาตคุณหรอก แล้วคุณเฝ้าเงินชาล็อตทุกบาทในคอนเสิร์ต แฟนคลับให้ทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล คุณพงษ์ดูแลเพียงผู้เดียว
คุณพงษ์ออกมาขอโทษแต่คุณพงษ์โกหกไง คุณบอกว่าเป็นแฟนคลับ คุณไม่ใช่แฟนคลับ คุณอยู่กับมารีม่า ไปไหนมาไหนด้วยกัน ผมไม่โทษชาล็อต อิงฟ้า (อิงฟ้า วราหะ) ไม่เกี่ยวงานนี้ คุณจะมาตีหน้าเศร้าเรื่องเท็จว่าเป็นแฟนคลับคนหนึ่ง โธ่เอ้ย ให้แน่สักรายสิ
นิสัยโกหก โกหกกันทั้งแก๊ง คุณต้องรู้ว่าทำอะไร เอฟซีไม่อนุญาตให้เพ่นพ่านหลังเวทีหรอก ไม่ให้ขึ้นคอนโดศิลปินหรอก ไม่ให้นั่งนับเงินศิลปินหรอก ไม่ให้นั่งแกะเงินหรอก อยู่คนเดียวตามลำพังกับเงินไม่รู้กี่ล้าน ต้องเป็นคนพิเศษจริงๆ นะ ถ้านิสัยแบบนี้ ผมว่าแฟนคลับชาล็อตต้องพิจารณานะ ถ้าผมพูดผิดสักนิดเดียวมาตัดหัวผม
มีแต่ผู้จัดการเท่านั้นถึงทำได้แบบนี้ ต่อให้คุณบอกว่าไม่ใช่ แต่พฤติกรรมคุณมันใช่ เปิดกล้องดูไหมล่ะ มีกล้องนะ เออาร์ก็เห็นทุกคน เออาร์ยังไม่มีสิทธิ์จับเงินชาล็อตเลย เลวไม่เลวผมไม่รู้ แต่โกหกผมไม่คุยด้วย ต่อไปนี้ไม่ต้องเข้ามา ถ้าบอกว่าเป็นแค่แฟนคลับ ต่อไปนี้คุณอยู่ข้างนอก ห้ามเข้าข้างในเด็ดขาด
เล่นกับใครไม่เล่น อย่ามาเล่นกับผม เด็กเมื่อวานซืน ถ้าออกมาพูด พูดให้ดีกว่านี้ยังน่ารัก ตราบใดที่ยังติดนิสัยโกหก ยังไงก็เป็นคนไม่น่ารัก เอาสมองแค่ติ่งมดคิดก็ได้ ไม่ต้องสมองหมาหรอก หมามีสมองมากกว่า พูดจาให้ยอมรับสิวะ ว่าอยู่ในฐานะอะไร จุ้นจ้านอะไร ระดมความคิดแบบไหน เอาให้ชัดๆ
ผมไม่ได้บอกว่าน้องชาผิด น้องชาอาจไว้ใจคนไม่ดี เอฟซีต้องไปจัดการ คนของน้องชาโกหก แต่เคสนี้ไม่เกี่ยวกับชาล็อต ไม่เกี่ยวกับอิงฟ้าเลย
เกี่ยวกับคนทวิตฯ อยู่ 3 คน มารีม่า หนูดี ชมพู ซึ่งคนเหล่านี้สนิทกับคนนี้ และผมประจักษ์ได้ว่าการทวิตฯ เกี่ยวข้องกับบริษัท ต่อให้เขาบอกว่าเกี่ยวกับพ่อ แม่ แฟน ผมถามคุณคิดนึง คุณอ่านทวิตแต่ละคน ตรงไหนเกี่ยวกับแม่ ตรงไหนเกี่ยวกับแฟน ต่อให้เขียนวางไว้หน้าบ้าน คุณไม่บอกต้นสายปลายเหตุ ไม่บอกบุคคล ใครจะรู้ ถามนิดนึง พ่อแม่คุณเล่นทวิตเตอร์อยู่หรือเปล่า ทำไมต้องไปประชดพ่อแม่อยู่บนทวิตเตอร์ล่ะ พ่อแม่อาจเล่นทวิตก็ได้ ทำไมไม่บอกล่ะ หม่ามี๊อย่ามองข้ามหนูนะ พูดไปสิ พูดแบบนี้บริษัทก็โดนเต็มๆ ใช่หรือไม่ใช่ คุณดูคนใกล้ชิดเขาโพสต์เวลาใกล้ๆ กันหมด ทั้งพงษ์ มาริม่า หนูดี ชมพู แล้วจะไม่ใช่ได้ไงคะ สวยไม่กลัว กลัวขี้โกหก
ถามว่าผลกระทบมียังไง ทันทีที่ทวิตฯ แฟนคลับที่หลงซัปพอร์ต หลงตาม ลุกฮือมาด่าบริษัท ด่านางงามปี 23 ขายให้ได้ 1 ล้านเพื่อมาคอนเสิร์ตชาล็อต หนึ่งเป็นนโยบายบริษัท สองเราต้องการอัดที่นั่งชาล็อตให้เต็ม สามต้องการได้ประโยชน์เพิ่มจากการขายของ จะได้มีโปรดักชั่นสวยๆ ให้ชาล็อต สี่เป็นการส่งเสริมปี 23 ไปในตัว ให้เขาสนุกสนาน มีโอกาส ปรากฏเด็กที่ขึ้นไลฟ์อยู่ 8-9 คน รู้สึกอยากเจอชาล็อตมาก ต้องปิดไลฟ์หนีเพราะอิทธิพลของคนทวิตฯ ไปผลักดันแฟนคลับให้ตกหลุม ไปด่าผู้เข้าประกวด ด่าสแน๊ก (สแน๊ก อัจฉรีย์ มิสแกรนด์เลย) ด่าลพบุรี ด่าว่าไม่ต้องขายเลย ไม่ได้อยากดู อย่ามานะ ถ้ามาจะโห่จะไล่ นี่คือผลผลิตจากการทวิตฯ ของสามคนนี้ บวกกับพงษ์
ส่วนแชมป์กำลังจะช่วยชาล็อตขายบัตรเพิ่ม คนเข้าไปด่าพี่แชมป์ ด่าใหญ่เลย ด่าจนพี่แชมป์ต้องปิดไลฟ์ ทุกคนที่อยู่ในการแข่งขัน ปิดไลฟ์ทุกคน เสียสติ ตกใจ ไม่ได้มาจากพวกคุณเหรอ ผมอยู่ตรงนั้น สถานการณ์แย่มาก น้องๆ เสียขวัญ ต้องเข้าไปปลอบว่าใจเย็น เดี๋ยวเคลียร์ให้ เด็กบอกว่าไม่เอาแล้ว ทำไมเขาด่ากันรุนแรงแบบนี้ ก็แรงผลักดันจากพวกคุณนั่นแหละ แล้วก็ไปด่าพี่แชมป์ พี่แชมป์เลือกขายบัตร บริษัทสูญเสีย วุ่นวายเพราะพวกคุณ
ผมทนดูไม่ได้ไง ผมเปิดไลฟ์กะทันหัน เพราะทุกคนปิดไลฟ์หมด กลัวหมดเลย ไปด่าเขาหมดเลย ด่าน่าเกลียดมาก ผมขึ้นไลฟ์เพื่อยุติหยุดด่าคนอื่น ผมยังถูกด่า ด่าซะเละ ด่าผมไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าด่าพนักงาน ผู้เข้าประกวดผม จนในที่สุดโปรเจกต์นี้เละ รายรับก็ไม่ได้ ต้องไปอ้อนวอนผู้เข้าประกวดซื้อบัตร ได้ร้อยกว่าใบ บริษัทขายของไม่ได้ เพราะให้กลับไปขายทุกคนก็กลัว มีสแน๊ก แสตมป์ใจกล้าจะไลฟ์แต่ไม่ทันแล้ว มันดึก
ผมจะรู้สึกแย่ น้อยใจ เสียใจขนาดไหน ผมถามมาริม่า ทำไมทำแบบนี้ เขาบอกว่าไม่เกี่ยวนะบอส พูดถึงแม่ ชมพู ทำไมทำแบบนี้ ไม่เกี่ยวหนูพูดถึงพ่อ หนูดีทำไมทำแบบนี้ ไม่เกี่ยว หนูพูดถึงผู้ชายของหนู คนอย่างพี่กินข้าว ถ้าวันไหนกินหญ้าค่อยมาพูดแบบนี้ แล้วมันก็จริง คนข้างตัวคุณมาโป๊ะเฉลยนี่ไง พงษ์สตอรี่สามสี่อัน โป๊ะเฉลย ทำไมเหรอ ทุกคอนเสิร์ตต้องมีพวกคุณครบ ต้องเป็นตัวเด่นตัวดังเหรอ ถึงจะถูกใจพวกคุณ ผมพูดได้นะว่าทำไมให้คนนี้ขึ้น
ผมถามทุกคนในที่นี้ บริษัทเราหาเงินทำงาน อิงฟ้า ชาล็อต งานเยอะ ไม่ไลฟ์ไม่เป็นไร ที่เหลือ 3-4 คนงานเยอะนักเหรอ ผมบอกให้คุณไลฟ์ติ๊กต๊อกได้ 15 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่อยากไลฟ์ มารีม่า ได้ยอดขาย 9,900 บาท คุณเคยเห็นหนูดี มารีม่า จีน่าไลฟ์บ้างไหม แทบไม่เคยเห็น คุณเป็นแบบอย่างรุ่นพี่ยังไง หมิ่นเงินน้อย คอยวาสนา อยากได้ซีน หนักไม่เอา เบาๆ ชอบ อย่างนี้เหรอ
อยากได้อะไรต้องดูความอดทนด้วย อยากไลฟ์ติ๊กต๊อก อยากได้ปลาฉลาม สิงโต สร้อย มันง่าย ใครจ่าย ใครเปย์ ให้ถือน้ำพริก ฉันไม่เอาหรอก จำไว้นะ มันจะจนคนแบบนี้ อย่ากลัวพูดความจริง ดูผลงานมีไหม ไม่มี”
ฟาดพฤติกรรมสุดเอือมระอาของ “หนูดี”
“พูดถึงหนูดี หลังๆ ไม่พัฒนาเลยในการออกมาโชว์ เอาแต่ตลกโปกฮา ออกนอกสคริปต์ เละเทะ เล่นลิเก หนูดีทำเงินหายไป 3 หมื่นบาท ไม่เคยขอโทษ และไม่เคยส่งแมสเซสมาเลย เล่นลิเกทุกคนต้องร้องเพลง หนูดีมีเพลงใครไม่เกี่ยวให้ถอยไป ซื้อลิขสิทธิ์ 3 หมื่น ซ้อมเสร็จ ถึงเวลาเล่นลิเก นางไม่ร้อง จริงไหม ออกมาพูดสิ ถ้ามีความรู้สึกพิมพ์ขอโทษสิ เขาบอกหน้าจอให้คุณเข้าเพลง คุณก็ไม่ยอมเข้า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่เข้า ทีมงานบอกเหมือนคุณลืมบท คุณก็เล่นตลกไปเรื่อยเปื่อย แฟนคลับก็ไม่ได้ฟังเพลง แล้วผมจะให้ขึ้นมาร้องเพลงทำไมครั้งนี้ ถามหน่อยสิ
ไม่รับผิดชอบงาน ซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้แล้ว ไม่ร้อง และไม่เคยมาขอโทษเลย อย่างนี้ก็ได้เหรอ สิ่งที่คุณทำก็ส่งผลกับคุณ ผมไม่สปอยคุณหรอก ในเมื่อคุณไม่ร้อง เที่ยวนี้คุณก็ไม่ต้องร้อง
วันปิดกล้องโชว์มีเลิฟ ขับรถไปบางแสนว่าจะเจอซะหน่อย เพราะมีหนูดีด้วย รีบไปเลย ผมไปถึงบ่ายสองครึ่ง หนูดีกลับไปแล้ว อ้าว ไปไหน หนูดีมีซีนจบไม่กี่ซีนจะได้คุยงาน บอกจะรีบขึ้นเครื่องไปหาชมพูที่ฟิลิปปินส์ เฮ้ย ใครรู้บ้าง ให้ไลฟ์ติ๊กต๊อกขายของไม่ว่าง ไม่สะดวก ไม่ถนัด เงียบ มีแผนกผู้ช่วยทักไลน์ไป อ่านแต่ไม่ตอบ เอือมระอาไหม ไม่เป็นไร ไปเที่ยวไปเล่นอยู่ฟิลิปปินส์ นี่คือเหตุผลที่หนูดีไม่ควรร้องเพลงในคอนเสิร์ตชาล็อต”
อัดยับ “มารีม่า” เอาแต่ใจ
“มาริม่า จะทำอะไรก็เอาแต่ใจ ทุกคนรู้ไหม ผมส่งนางงามไปประกวดเมืองนอกทุกปี ทุกเวที ส่งเฉพาะนางงามไปคนเดียว พรุ่งนี้เช้า ชมพู จะไปขึ้นเครื่องเพื่อไปฟิลิปปินส์ คืนนี้ดูคิวคนขับรถพรุ่งนี้เช้า เห็นว่าไปรับมารีม่า ตกใจว่าไปทำไม ไปรับมารีม่าตีสี่ตีห้า มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเอารถตู้ไปรับมารีม่า ทำไมไม่รับชมพูที่สัมภาระคนเดียวแล้วส่งแอร์พอร์ต เพิ่งถึงบางอ้อว่ามารีม่าจะไปฟิลิปปินส์กับชมพูตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย บอกบอสไหม ไม่บอกเลย บอกเออาร์ไหม ไม่บอกเลย ทั้งที่มีคิวโชว์มีเลิฟเพิ่ม แล้วไปได้อย่างไร ใครให้คุณไป ใครออกค่าใช้จ่าย คุณบอกเฟสออฟบิวตี้หรือยังว่าจะไป คุณบอกเราแล้วหรือยัง คุณไม่มีสิทธิ์บอกเองด้วย มันเป็นเรื่องระหว่างบริษัทกับบริษัท คุณจะแทรกหน้าไปทำไม ต้องเป็นชมพูคนเดียวที่แอร์พอร์ต ต้องไปรับคุณเป็นภาระวุ่นวาย วันนั้นผู้ช่วยผมไม่อนุญาตให้ไป
ถามว่าใครออกตั๋วเครื่องบิน ไม่ถูกนะ ต้องนั่งไฟลต์เดียวกับชมพู ใครออกตั๋ว ให้ทาย ชมพูเป็นคนออกตั๋ว ไม่รู้ไปเจรจากันอีท่าไหน ถึงได้ตั๋วจากชมพู แล้วชมพูชอบมาพูดกับผมว่าบอสจะทำยังไง จะได้จับเงินเยอะๆ ได้จับเงินล้าน ถ้ามึงบ้าเปย์เพื่อนบ้าๆ บอๆ แบบนี้ก็ไม่มีวันเหลือหรอก ที่สำคัญ การประกวดต้องไปคนเดียว มึงจะหนีบไปด้วย แล้วที่แอร์พอร์ตลั้ลลา โบกมือลากันสองคนเพื่ออะไรครับ แล้วคุณบอกบริษัทหรือยัง บริษัททำเรื่องบอกที่โน่นหรือยัง ทำอะไรเอาแต่ใจตัวเอง เลยไม่พอใจบริษัท เป็นคลื่นใต้น้ำมาตลอด สุดท้ายก็ไป จีน่าไป มารีม่าตามไป หนูดีไปก่อน อีรุงตุงนังไปกันหมด
ฟาดชมพู ใจร้าย ขนมสักชิ้นไม่เคยซื้อให้
“วันนั้นบอกชมพูเลย ถ้าไปคนเดียวไม่ได้ ก็ไม่ต้องไป ซื้อตั๋วเครื่องบินให้เพื่อนได้ ไม่เคยรายงานบริษัท ชมพูก็ใจร้ายเกิน ปีใหม่ขนมสักชิ้นไม่เคยซื้อให้พี่เลย ไม่เคยอยากกินของใคร แต่น้ำใจคืออะไร มิสเตอร์โดนัทสักชิ้นยังไม่เคยซื้อให้พี่เลย มันเป็นคลื่นใต้น้ำมาตลอด รู้ว่าไม่พอใจ รู้ว่าห้ามไม่ให้ไป ไม่แฮปปี้ รู้ว่าอยากขึ้นคอนเสิร์ตชาล็อต แล้วมีความสามารถไหมล่ะ
จีน่า ไม่ไลฟ์เลยเป็นเดือนๆ ก็ไม่ได้แตะ ไม่อยากยุ่ง ในเมื่อหนักไม่เอา เบาไม่สู้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่ทำ พูดง่ายๆ แก๊งนี้ที่ไปฟิลิปปินส์ กลับมาเพี้ยนทุกคน พอมีผลกระทบวงกว้างต่อชื่อเสียงบริษัท คนไม่ทราบก็ด่าบริษัท ด่าผม ลามปามด่าผู้เข้าประกวด วันนั้นผมต้องดูรันทูชาล็อต ไม่ต้องรันทู กลับออฟฟิศไปนั่งเคลียร์ปัญหานี้กับผู้ใหญ่ทางกฎหมายหลายๆ คน คุณเป็นศิลปินในสังกัด อยากทำอะไรก็ทำเหรอ พอมีผลประทบต่อคนอื่น
คุณบอกว่าเปล่า หมายถึงแม่ พ่อ ผู้ชาย คุณพูดแค่นี้ เคยบอกให้แฟนคลับเข้าใจไหมว่ามันไม่เกี่ยว ไม่ ทำตัวเหนือลม ฉันไม่ผิด โอเค ไม่ผิดก็ไม่เป็นไร”
ออกกฎห้ามทวิตฯ ก็ไม่ยอมรับ
“มติกรรมการบริษัทออกมาว่า ครั้งนี้ทำแบบนี้จริงๆ แล้วผิด แต่ไม่อยากลงโทษ ให้ออกจดหมายหนึ่งฉบับ ขอแจ้งให้ทราบว่าไม่อนุญาตให้ทวิตฯ ข้อความในพื้นที่ส่วนตัวหรือสาธารณะ ที่ส่อเสียด ประชดประชันไม่เห็นด้วยกับแผนงานการตลาดของมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลอีกในอนาคต ถ้ามีอีกจะมีการพิจารณาลงโทษ
ส่งไปในกรุ๊ปปั๊บ ไม่มีใครยอมเซ็น คนที่ยอมเซ็นคือบิวตี้ และมารี เพราะเขาไม่เคยคิดอะไรกับบริษัทเลย ผมรู้สึกสงสารบิวตี้ หลายครั้งบิวตี้ร้องไห้กับผม บางทีบิวตี้เหมือนเป็นแกะ ผมยังไม่ค่อยได้หางานให้บิวตี้ ไม่ค่อยได้ดูแลบิวตี้เท่าดูแลพวกเขา ใครมีงานจ้างบิวตี้หน่อย เขาแทบไม่ได้อะไรเลย แต่ไม่เคยให้ร้ายบริษัทเลย และไม่มาเป็นคลื่นใต้น้ำแบบนี้
วันที่ 30 ตอนเย็น ได้ผลตอบรับมา 2 คน วันที่ 31 ปริ้นต์เป็นเอกสาร ให้ผู้ช่วยเดินไปให้เซ็นในห้องแต่งตัว ความซวยเกิดจากสามคนแต่ต้องใช้กันทุกคน เนื่องจากบริษัทเราเป็นมหาชน เราต้องทำกฎแล้วระบุคนไม่ได้ จริงๆ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับอิงฟ้า ชาล็อต ให้ไปทำงานของตัวเองก่อน พูดง่ายๆ เพื่อนหาเรื่องก็ต้องโดนไปด้วย ปรากฏวันที่ผู้ช่วยเอาไปให้มารีม่าเซ็น มารีม่าบอกว่าไม่เซ็น จะเซ็นทำไม เซ็นไปเพื่ออะไร น้ำเสียงโอ้โห สุด! หนูดีก็เพิกเฉย ชมพูก็ไม่เซ็น ผิดหวังกับชมพูมาก คิดว่าชมพูบ้านๆ ดอกบัวสีชมพู ไม่เซ็น ไม่มีใครเซ็น วันรุ่งขึ้นคอนเสิร์ตเสร็จ คุณแวน เชอรี่ หลายคนที่เป็นผู้บริหาร ตามเรื่องนี้ สอบถามไปทุกคนยืนยันว่าไม่เซ็น มีหนึ่งคนพิมพ์มาในกรุ๊ป แรงมาก จะไม่เซ็นก็ได้ ไม่ได้อยู่ในสัญญา ไม่ถูกใจก็จะไม่เซ็นค่ะ แคปไว้แล้ว
ส่วนมาลัยไม่รู้เรื่องเลย แต่ตอบว่าไม่เซ็น อันนี้เซอร์ไพรส์นะ ผู้ช่วยบอกว่าแปลกมาก ทุกคนพูดประโยคเดียวกันหมดเลย โทร.ถามมาลัย ทำไมไม่เซ็น อึกๆ อักๆ ไม่เซ็นก็ได้นะ แต่ไม่ขายงานต่อให้ ถ้าเราควบคุมไม่ได้ ผลเสียจะเกิดกับบริษัท ค่ะๆ ขอโทษค่ะ เดี๋ยวมาลัยเซ็นเลย จบ
ให้คุณแวนโทรหาชมพู ชมพูยืนยันว่าไม่เซ็น ส่งในกรุ๊ปไม่เซ็น ไปยื่นไม่เซ็น พูดจาไม่เข้าหู โทร.ไปพูดไม่เซ็น เลยต้องใช้ไม้สุดท้าย ว่าแน่ใจนะว่าจะไม่เซ็น ถ้ามองว่าเราเอาเปรียบคุณ เราต้องการกรองปัญหาออก ถ้าคิดว่าการทวิตฯ ครั้งนั้นไม่เกี่ยวกับบริษัท คุณจะกลัวอะไร ก็เซ็นไปสิ ถ้ามั่นใจว่าอนาคตไม่ทำอะไรให้บริษัทเสื่อมเสีย เดือดร้อน ก็ทำไปสิ แต่คุณเป็นวัวสันหลังหวะกันหมดไง สรุปต้องลงอีกรอบนึง ชมพูถึงยอมเซ็น แพแตก เรื่องนี้ไฮดี้ไม่เกี่ยวนะ เซ็นตั้งแต่แรก
ก็เหลือสามสาวทรงพลัง สักพักนึงหนูดียอม หายไปอีกพักใหญ่ๆ ยังไม่ได้คุณมารีม่า กับจีน่า แต่ตอนหลังได้จีน่าแล้ว เราเก็บข้างนอกก่อน จนเหลือหัวหน้าพรรค ไม่เซ็นก็ไม่เป็นไร ในที่สุดมารีม่าคนสุดท้ายก็เซ็นให้แล้ว แปลกไหม สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยรับผิดชอบ ผลกระทบต่อรุ่นน้องไม่เคยรับผิดชอบ ผลกระทบต่อเจ้านายไม่เคยรับผิดชอบ เจ้านายชีวิตย่ำแย่ไม่เคยรับผิดชอบ ชื่อเสียงบริษัทไม่รับผิดชอบ ฉันจุดไฟไปไหม้ที่ไหนก็ช่างมัน ฉันโลกสวยเขียนไดอะล็อกซะสวย อย่าอยู่เหนือลมขนาดนั้น”
ลั่นดังแค่ไหนก็ดับได้
“ผิดคนแล้วนี่ณวัฒน์ จะดังหรือไม่ดังแค่ไหน ถ้าผมปิดสวิตซ์ก็ดับ ทุกวันนี้อยู่ที่คอนเนกชั่นและความขยัน ผมทำงานทุกวัน ผมขายของเองไม่อาย พวกคุณขายของมันสาหัสขนาดนั้นเลยเหรอ อิงฟ้าเขางานหนักมากยังขายเลย ชาล็อตวางตารางขาย คุณมันโคตรดังเลย อะไรก็ไม่เอา อยากขึ้นเวทีอย่างเดียว อยากสวย
ที่มากไปกว่านั้น ห้องแต่งตัวอิงฟ้าเป็นห้องแต่งตัวส่วนตัว วันคอนเสิร์ตมารีม่าเข้าไปขลุกกับอิงฟ้าตลอด พูดตรงๆ ไม่เหมาะสม เราไม่ใช่ซุปตาร์ชื่อดังตรงไหน อยู่ตรงไหนก็ต้องอยู่ได้ จะต้องมาอยู่กับอิงฟ้า เล่าเรื่องกับอิงฟ้าให้ปวดหัว บีบน้ำตาจนอิงฟ้าต้องขึ้นไปพูดบนเวทีให้ แน่จริงคุณขึ้นเวทีไปพูด ไปอาศัยแสงอิงฟ้าทำไม เวลาอยู่ในห้องคุณนินทาใคร คุณนินทาโกโก้ อารยะ ผมเอาเครื่องอัดฝากไปด้วย ดีไหม จะไปว่าโกโก้ได้ไง ว่าการงานก็ไม่ทำ มาโพสต์สตอรี่บลาๆ หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง วุ่นวายเป็น คุณก้าวร้าวออกมาแข็งแรงมาก คุณจะไม่ยอม ที่ผ่านมาไม่ได้ลงโทษ คุณยังไม่ยอมเซ็นเลย คุณเก่งมาก
ส่วนพงษ์ก็ไม่ได้ออกมาขอโทษ ออกมาแก้ตัว หลอกลวง คุณเป็นเหมือนผู้จัดการดูแลเขาอยู่หลังเวที นับเงินนับทอง เก็บทรัพย์สมบัติเขาหมดแต่เพียงผู้เดียวอยู่ในห้อง คุณไม่ใช่เอฟซี ผมเกลียดคนโกหกมาก ต่อให้หมายถึงพ่อแม่แฟน แต่มีผลกระทบถึงคนอื่นคุณก็ต้องรับผิดชอบ แม้ให้รับผิดชอบในอนาคต คุณยังไม่ยอมเลย”
ลั่นฤดูนี้ไม่มีสตรอว์เบอร์รี่!
“ฤดูนี้ไม่มีสตรอว์เบอร์รี่ขาย ไม่ต้องมาแต่งเรื่อง จีน่าฯ ไม่ได้ทวิต แต่เป็นกลุ่มเดียวกันที่ไม่ยอมเซ็น แต่ยอมเซ็นคนรองสุดท้าย คนสุดท้ายคือมารีม่า เรื่องก็มีแค่นี้ ถ้าเซ็นก็จบไปตั้งแต่วันแรกๆ แล้ว ไม่แคร์ผม ไม่แคร์บริษัทก็ได้
ตั้งแต่มีเรื่อง มีใครส่งแมสเซสมาขอโทษผมไหม เสี้ยวเดียวที่ผมพูดไปคุณก็ทำไม่ได้ ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับลิซ่า (ลลิษา มโนบาล) หรอก แกรมมี่ อาร์เอสไม่มีใครมีสิทธิ์ทวิตฯ กระแนะกระแหนบริษัท ที่ตรงนี้ต้องมีระเบียบบางอย่างกำหนด ถ้าอยากอิสระบ้าๆ บอๆ ไปทำงานเสริมสวย ภัตตาคาร”
ผิดหวังที่สุดคือชมพู
“ชมพูผมเอ็นดูมากนะ จัดงานวันเกิดให้ ผมขาดทุนเท่าไหร่คุณมีแต่ได้กับได้ เอฟซีเอาเงิน ทอง กระเป๋าไปให้ คุณมีแต่ได้ ผมได้อะไร ผมจัดให้เพราะรู้ว่าคุณจะได้ของเยอะ แต่ก็ซึ้งใจ ไม่เซ็นหรอก จ้า เก่งทวิตฯ แต่ไม่เก่งรับผิดชอบ เราเกิดมาเป็นทาสคุณเหรอ ทุกคนไปช่วยบิวตี้ บิวตี้น่าสงสารมาก พูดแล้วอยากร้องไห้ ชุดเสื้อผ้าเวลาไปงานก็ได้ทีหลัง ได้สวยไม่เท่าเขา ช่างก็ไม่ค่อยมี ไปก็อยู่คนเดียว คนศีลเสมอกันเขาก็อยู่ด้วยกัน ศีลไม่เสมอก็ถูกดีดมาไว้ข้างนอก”
ลั่นไม่เคยกลัวใคร แม้แต่นายกฯ ก็ไม่กลัว!
“ผมเป็นคนทำงาน รักความยุติธรรม ไม่ชอบให้ใครทำอะไรที่มีนัยยะแอบแฝง ผลลัพธ์เป็นยังไงไม่เกี่ยวกับผม ช่วยสุดความสามารถแล้ว ไม่ให้บริษัทออกใบพักงาน แต่อะไรจะเกิดก็ให้เกิดไป ไม่ว่าใคร หน้าไหนแม้แต่นายกฯ ก็ไม่ยอม จะบอกว่าไม่ตั้งใจ แล้วทำยังไงต่อ เคยออกมารับผิดชอบอะไร เคยบอกแฟนคลับตัวเองไหมให้ยุติ อย่าไปว่ารุ่นน้อง หยุดด่าบอส ไม่ ทำตัวเหนือ ให้เซ็น ก็เซ็นเพื่ออะไร โอ้โห ใหญ่นัก
และต้องหยุดแล้วนะ ไม่ตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องเท็จ พงษ์ก็หยุดนะ รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เอฟซี คุณคือหัวเดียวกัน ความคิดเดียวกัน อยู่ด้วยกัน หรือไม่จริง ถ้าไม่จริงเดี๋ยวเอาวงจรปิดมาให้ดู เอาไหม อย่าทำอย่างนั้น มันจะซวยยกแก๊ง บอกก่อนผมไม่เหมือนคนอื่น อย่าเล่นกับผม ผมติดดิน ง่าย ทำมาหากิน แต่ถ้าเล่นกับผม หัวหน้ารัฐบาลผมก็ไม่เคยนึกกลัว ถ้าจะเล่นกับผมก่อน ก็อย่าเล่น ผมไม่ได้จน ไม่ได้โง่ ไม่ได้เป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอก มีทั้งคอนเน็กชั่น มีอำนาจ มีฐานะที่ดีพอ ไม่ได้ง้อใคร ไม่ได้ง้อใครกิน พวกคุณหาเงินได้ ทั้งปีก็แค่เศษเสี้ยว ผมจะทำอะไรแป๊บเดียวผมก็ได้ ดังแค่ไหนก็ดับได้ ยิ่งไม่ดังดับเร็วมาก บอกเลย อย่าทำตัวแบบนี้ ฝากชายไปอบรมด้วย ได้ข่าวว่าเคยปิดห้องอบรมร้องไห้ ก็ไปด่าอีก อย่าหลงระเริง อย่ามั่นจนเกินเหตุ และอย่าข้ามหัวผู้ใหญ่ เป็นสมบัติผู้ดีเขาใช้กัน”
