xs
xsm
sm
md
lg

“ดิว อริสรา” จิตใจแข็งแกร่ง แต่หวั่นอันตราย ไม่สามารถพูดอะไรได้ลึกๆ เชื่อทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ดิว อริสรา” เผยทุกอย่างได้พูดไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่รอกระบวนการยุติธรรมจัดการ บอกยังไม่สามารถพูดอะไรลึกๆ ได้มากหวั่นอันตราย ไม่ได้มีทนายมาด้วย แต่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม ลั่นบ้านเมืองมีขื่อมีแป ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว  

ภายหลังจากที่ “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” นักแสดงสาวชื่อดัง ได้เดินมายังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. (เมืองทองธานี) ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับคดีมาเก๊า 888 หลังเดินทางกลับจากไต้หวัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึง “หนุ่ม บ.” ที่อวดร่ำอวดรวยจากการเปิดเว็บไซด์เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ พร้อมวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ จากนั้นหวยก็ไปตกที่ “เบนซ์ เดม่อน" หรือ “ชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร” อดีตคนรักเก่า พร้อมพี่น้อง 4 บ. ที่มีเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ จนนำพาไปสู่การออกหมายจับ และ จับกุมเบนซ์ เดม่อน ในที่สุด จากนั้นก็กลายเป็นมหากาพย์ เพราะหลายคนอยากรู้ว่าทำไม นักแสดงสาวถึงออกมาแฉครั้งใหญ่จนสะเทือนทั้งประเทศแบบนี้ โดยเจ้าตัวได้เผยผ่านคลิปวีดีโอว่าสาเหตุที่ออกมาพูดเนื่องจากยังเห็นว่าครอบครัวนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ดี ทั้งๆ ที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย รวมไปถึงตอนที่คบกับเบนซ์ เดม่อนนั้น ตนเองถูกทำร้ายถึงขั้นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล

จากนั้นเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ขออนุญาตไม่ลงลึกในเรื่องของคดี ขอให้เป็นทางด้านของเจ้าหน้าที่เป็นคนตอบ ในส่วนของเรื่องจิตใจเหมือนตนเองได้ปลดล็อกปมในใจ  

“ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลยนะเนี่ย ไม่คิดว่าจะมากันเยอะ วันนี้ก็เข้ามาให้ปากคำในทุกเรื่องค่ะ มันเยอะมาก และภาษามันยากเนอะในเรื่องตามที่ทุกคนเข้าใจว่ามันเกิดขึ้น ถามว่ารับรู้รับทราบมาตั้งแต่เมื่อไหร่ จริงๆ ในรายละเอียดตรงนี้เป็นรายละเอียดที่ดิวพูดไปหมดแล้วในคลิปวิดีโอ และในรายละเอียดเชิงลึกทั้งหมด ดิวว่าสิ่งที่ดิวให้การกับคุณตำรวจมันก็ค่อนข้างเป็นประโยชน์ประมาณนึงแล้วแหละ ก็ให้กระบวนการทำวิถีของมันไปแล้วกัน เพราะการที่มานั่งยืดยาวพูดกันต่อไปเรื่อยๆ มันก็เท่านั้น

ถามว่าแจ้งความเพิ่มไหม ในเรื่องทั้งหมดที่ดิวได้แจ้งไป ก็ตามที่เคยให้ไปเลย และวันนี้ก็มายืนยันอย่างเป็นทางการอย่างถูกต้องที่นี่ค่ะ ถามว่ามาในฐานะพยานใช่ไหม ดิวว่าในรายละเอียดของรูปคดีและภาษาต่างๆ เพื่อความเป๊ะและไม่คลาดเคลื่อน ไว้เดี๋ยวถ้าทางนักข่าวมีโอกาสให้ถามทางพี่ตุ้ม (พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท.) เองเลยนะคะ น่าจะเป๊ะที่สุด”

เผยตอนนี้จิตใจแข็งแรงในระดับนึงแล้ว ถึงได้ออกมาพูดทุกอย่างได้
“ที่ออกมาพูดวันนี้เพราะสาเหตุจากโดนทำร้ายร่ายไหม ดิวว่าในเหตุผลของการออกมาพูดในเรื่องทั้งหมด ถ้าตอบตรงๆ ก็คือมันเป็นภาวะทางจิตใจดิวมากกว่าที่วันนี้มันอาจจะอยู่ในโหมดที่จิตใจค่อนข้างแข็งแรงพอแล้ว ที่ควรจะพูดอะไรและต้องพูดอะไร ถามว่าเรื่องการโดนทำร้ายร่างกายมันเป็นต้นเหตุไหม ใจเราบางทีมันไม่สามารถตอบมาเป็นคำพูดได้อย่างละเอียดให้ทุกคนเข้าใจได้หรอก แต่ดิวเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันมีทั้งเหตุและผล และมันมีที่มาที่ไปในแบบของมันอยู่แล้ว ส่วนในเรื่องคดีเดี๋ยวดิวรอคุยกับทนายให้เรียบร้อย แล้วค่อยอัปเดตกันอีกทีค่ะ

อะไรทำให้มั่นใจว่าคุณเบนซ์อยู่ระดับหัวๆ ของเว็บมาเก๊า888 เหรอ ก็ลองไปถามคนอื่นที่เขาอยู่ในวงนี้ เขาก็คงรู้กันหมดแหละว่าประมาณนึง ก่อนจะออกมาพูดไม่ได้มีการพูดคุยกับเบนซ์หรือคนอื่น อย่าถามคำถามอะไรที่จะทำให้เป็นอันตรายได้ไหม (หัวเราะ) พูดจริงๆ กลัวมากเลย เพราะจริงๆ ดิวก็ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะเจอนักข่าวขนาดนี้ ถ้าดิวรู้ดิวคงเอาทนายมาด้วย และบางคำถาม บางคำตอบดิวก็ต้องรบกวนพี่ๆ สื่อมวลชนทุกคนจริงๆ และดิวก็ต้องขอโทษทุกคนจริงๆ ที่ปกติถ้าคนที่ทำงานกับดิวหรือเคยถามคำถามดิว ดิวตอบทุกคำตอบอยู่แล้ว แต่พอมาอยู่ในโหมดนี้ บางอย่างดิวไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจน เพราะบางคำพูดมันสามารถทำให้ดิวเป็นเรื่องเป็นราวได้”

บอกตอนนี้เหมือนได้ปลดล็อก สบายใจขึ้น ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ
“ความรู้สึกของเราได้ปลดล็อก รู้สึกสบายใจขึ้น ในสัปดาห์นั้นหลังจากที่พูด เราก็รู้สึกแย่ไปเลยอาทิตย์นึงนะ แต่มันก็เหมือนเป็นการทลายความรู้สึกบางอย่างที่มันมีอยู่ตลอดในใจ แต่มันก็ไม่ได้โล่งหรอก แต่มันก็ดีขึ้น และดิวก็ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งพี่ๆ สื่อมวลชนทุกคน และแฟนคลับ เพื่อน ผู้ใหญ่ทุกคนที่ให้กำลังใจ ดิวว่าดิวไม่ได้รู้สึกว่าใจดีขึ้นเพราะดิวได้ออกมาทำอะไรแบบนี้หรอก แต่ใจดิวดีขึ้นเพราะพอดิวได้พูดออกไป แล้วดิวได้รับฟีดแบ็กของหลายๆ คนรอบตัว มันก็ทำให้ใจเราฟูขึ้น

ถามว่ากังวลเรื่องความปลอดภัยมากน้อยขนาดไหน ดิวว่าในส่วนตรงนี้ทางกรมตำรวจแห่งชาติก็น่าจะดูแลดิวประมาณนึง ส่วนในเรื่องความปลอดภัย ดิวก็ดูแลตัวเองและพยายามใช้ชีวิตอย่างมีสติอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้อยู่ในโหมดที่ไปในที่ที่น่ากลัวอะไรอยู่แล้ว และเราต้องยืนอยู่บนโลกความเป็นจริงบนสังคมไทยที่ว่าโลกเรามันอาจจะเป็นแบบนั้นก็จริง แต่ดิวเชื่อว่าบ้านเมืองมีกฎหมาย และมีขื่อมีแป และเวลามีมันก็มีโซเชียลมีเดียต่างๆ ตอนนี้ที่เราใช้ชีวิตอยู่ เราก็เชื่อในเรื่องเวรกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ก็หวังว่าสิ่งที่เราทำถ้ามันเป็นสิ่งที่ดี และสามารถช่วยสังคมได้บ้าง ก็ขอให้มีสิ่งดีๆ ย้อนกลับมาในชีวิตเราแล้วกัน

ยืนยันข่าวต่างๆ ไม่มีผลกระทบกับธุรกิจของสามี และร้านเสริมสวยของตนก็รายได้ดีขึ้นด้วย
“แต่ที่ออกมาพูดอะไรต่างๆ ไม่ได้ปรึกษาสามีเลยค่ะ แต่ข่าวก็ไม่ได้กระทบในส่วนธุรกิจของสามีเลยนะคะ ต้องชี้แจงผ่านตรงนี้ได้เลยว่าไม่ได้มีผลกระทบอะไรเลย เพราะเขาไม่ได้ทำธุรกิจอะไรที่ไม่ดี และเขาไม่ได้ทำอะไรที่มันจะสามารถกระทบกับเขาได้ 

มันอาจจะมีฟีดแบ็กมาบ้าง แต่มั่นใจว่าในครอบครัวของเรา เรารู้กันอยู่แล้วว่าเราเป็นยังไง และเราใช้ชีวิตอยู่บนความเป็นจริง ซึ่งในส่วนร้านเสริมสวยที่โดนค้น ก็ตามที่ทุกคนเข้าใจนั่นแหละว่ามันเกิดอะไรขึ้น บางเหตุการณ์มันอาจจะเกิดขึ้น แต่เราในยุคปัจจุบันนี้บ้านเมืองเราก็ค่อนข้างมีหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างที่ทำให้เราสามารถปกป้องตัวเองได้ แต่ถ้าถามถึงว่าผลกระทบกับร้านเสริมสวยไหม บอกได้เลยว่าไม่มี ต้องขอบคุณลูกค้าทุกคนที่น่ารักกับเราทุกคนมากๆ ยอดดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ”

บอกฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มาคุกคามหรือข่มขู่อะไร
“ไม่สามารถตอบได้เลยเรื่องนี้ แต่เรื่องของการข่มขู่ไม่มีหรอกค่ะ คือเราก็ตามไหนตามนั้น ถามว่าจะหยุดเรื่องนี้ได้ไหม คือดิวว่าเรื่องนี้มันก็มีกระบวนการและมันมีสเต็ปของมันในการที่มันจะเป็นอยู่แล้ว พอตอนนี้เป็นเรื่องของคุณตำรวจที่เขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ ก็ให้ตำรวจทำหน้าที่ของเขาอย่างดีที่สุดไป 

ส่วนตัวเราประชาชนคนไทยทุกคนเราก็ยังต้องเชื่อในความยุติธรรมอยู่ เพราะเราก็ยังอยู่ในประเทศนี้ เราก็หวังให้ออกมาดีที่สุด และดิวก็ต้องขอบคุณทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นพี่ตุ้ม, ผบ.ตร., พี่ต่อศักดิ์ หรือใครก็ตามที่มีส่วนร่วมและช่วยผลักดันให้สิ่งที่ดิวพูดออกมามันไปในทิศทางที่ถูกต้อง มันก็สร้างความหวังให้กับคนที่อยากให้ทุกอย่างมันอยู่ถูกที่ถูกทาง ไม่ได้พูดไปแล้วมันหมดกำลังใจ

ตอนนี้ดิวก็ยังทำงานอยู่ค่ะ ไม่ใช่ว่าหลักๆ อยู่ไต้หวันหรอก ก็ไปๆ มาๆ ปกติ ส่วนเรื่องคดีทำร้ายร่างกาย ยังไม่หมดอายุความค่ะ ถ้าเราจะเอาผิดมันก็ยังมีเวลาอยู่ เรายังทำได้ แต่ส่วนตรงนั้นเราก็อยากตอบให้มันถูกต้องทุกอย่างในวันที่ดิวมีทนายอยู่ข้างตัว รายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็ไปถามพี่ตุ้ม ถามตำรวจได้เลย เพราะถ้าดิวตอบมั่วๆ แล้วเดี๋ยวโดน ก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ”











กำลังโหลดความคิดเห็น