“บอย ปกรณ์” ลั่นเตรียมเอาเรื่องให้ถึงที่สุดกับคดีโดนโกงค่าโมเดล-ฟิกเกอร์ บอกตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐานร่วมกับผู้เสียหายอีกคน ยังตอบไม่ได้ว่าจะได้เงินแสนครบไหม แต่ยังไงก็ต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ แฮปปี้พาครอบครัว “เฟย์ พรปวีณ์” ไปเที่ยวญี่ปุ่น
ถือโอกาสพาน้องๆ และครอบครัวของแฟนสาว “เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์” ไปเล่นหิมะ พร้อมกันเลยสองครอบครัว ซึ่ง “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ได้เล่าถึงทริปนี้ให้ฟังว่าเกิดขึ้นเพราะตั้งใจพา “วันใหม่” ไปเที่ยวช่วงปิดเทอม
“พอดีเป็นช่วงที่วันใหม่เขาปิดเทอม และผมก็คิดไว้ตั้งนานแล้วว่าอยากจะพาวันใหม่ไปเล่นสโนว์บอร์ด ส่วนหน่อง ธนา พอเขาทราบว่าผมจะพาวันใหม่ไป เขาก็อยากไปด้วย จากนั้นผมก็เลยชวนเฟย์และก็น้องสาวเฟย์ รวมถึงคุณแม่เฟย์ ให้ไปเที่ยวด้วยกัน ก็คือทริปนี้ไปด้วยกันทั้งหมด 6 คนครับ
คุณแม่ของเฟย์ท่านบอกว่า ทั้งทริปนี้ห้ามควักเงินจ่ายค่าอาหารเลยนะ เดี๋ยวคุณแม่จะเป็นคนจัดการเอง ซึ่งผมก็บอกกับท่านไปนะครับว่า ไม่ได้ เพราะทริปนี้ผมมีน้องๆ ทั้งวันใหม่ ทั้งหน่อง แต่ด้วยความที่ทริปนี้เราไปพักกันสองที่ ซึ่งที่แรกผมจ่ายไปแล้ว แต่อีกที่ปรากฎว่าคุณแม่ท่านจ่ายไปก่อนแล้ว จ่ายไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ซึ่งผมเองก็เกรงใจ เพราะผมไม่ได้มาคนเดียว ผมมากับน้องๆ แต่คุณแม่ใจดีมากเลยครับ คุณแม่ท่านเองก็อยากจะไปที่นี่มานานแล้วเหมือนกัน เราก็เลยได้ไปด้วยกัน เป็นทริปที่แฮปปี้ครับ ผมเจอกับคุณแม่หลายรอบแล้วนะครับ และท่านเองก็เป็นคนที่ใจดี เป็นคนสบายๆ
ต้องดูแลทั้งคู่ครับ แต่ด้วยความที่ทริปนี้ที่เราไป ผมเองก็ต้องดูแลวันใหม่ ดูแลหน่อง ส่วนเฟย์เขาก็ต้องดูแลเทคแคร์คุณแม่เขา น้องสาวเขา ดังนั้นมันเลยมีบางวันที่เราต้องแยกกัน อย่างเช่น พวกผมไปสวนสัตว์ ส่วนเฟย์กับคุณแม่ก็ไปช้อปปิ้ง
แจงแคปชั่นความรักภาค 3 ไม่มีความหมายอะไรพิเศษ
“ไม่มีอะไร (หัวเราะ) คือแค่ผมเคยลงภาค 1 เป็นภาพของผมกับวันใหม่ และก็เขียนแคปชั่นว่าความรัก ส่วนภาค 2 ที่ผมลงรูปกับเฟย์ ผมก็เขียนว่าภาค 2 และรูปสุดท้ายที่ลงกับเฟย์อีกเหมือนกัน ผมก็เขียนว่าภาค 3 ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรหรอกครับ แค่เป็นกิมมิกเฉยๆ มีภาคต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีภาคจบ ไปเรื่อยๆ”
อัปเดตเรื่องคดีโดนโกงค่าโมเดล-ฟิกเกอร์กำลังอยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐานร่วมกับผู้เสียหายอีกคน
“ตอนนี้ก็รวบรวมหลักฐานร่วมกับผู้เสียหายที่เป็นคนที่สนิทกันแล้วครับ และก็มีแพลนว่าจะเข้าไปแจ้งความ น่าจะเร็วๆ นี้เลย ผู้เสียหายมีหลายคนแต่ที่เข้าไปด้วยกัน 2 คน เหมือนว่าสุดท้ายแล้วฝากกันอยู่แค่ 2 คนนี้ที่เอาไปจ่าย พอจะนึกออกไหมครับ ฉะนั้นแล้วก็คือ สุดท้ายแล้วเงินจากผมและพี่อีกคนหนึ่งที่โอนไปทางพ่อค้า ก็เลยต้องไปกันแค่ 2 คน
พี่เต๋อ (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) พี่ซันนี่ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) เขาฝากพี่อีกคนหนึ่งที่จะไปด้วยกันนี่แหละครับ แต่ว่าก็คืออยู่ในกลุ่มก้อนเดียวกัน เอาเป็นว่า พี่คนนี้ก็เหมือนกับมียอดของพี่เต๋อพี่ซันนี่อยู่ในมือ และเดี๋ยวจะไปด้วยกันนี่แหละครับ ไปแจ้งความด้วยกัน”
เอาเรื่องให้ถึงที่สุดแน่นอน ยังตอบไม่ได้ว่าจะได้เงินครบไหม แต่ยังไงก็ต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้
“ความจริงแล้วผมยังไม่ได้คุยกับทนายเลยครับ แต่จากที่ปรึกษากับคนที่พอรู้เรื่องนี้มาบ้าง ก็คือยังตอบไม่ได้เลย แต่ว่าผมจะเอาให้ถึงที่สุด เพราะเงินเราจ่ายไปแล้ว และเราไม่ได้ของ เราก็ต้องเอาให้ถึงที่สุด อย่างน้อยๆ ก็ต้องเอาผิดให้ได้ เอาเงินกลับมาให้ได้ เงินก็เกินแสนครับแต่เดี๋ยวรอผมรวบเงินให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เพราะตอนนี้ของตัวผมเอง ผมค่อยๆ ลิสต์ออกมาแล้ว เพียงแต่ผมยังไม่ได้รวบเป็นก้อนว่ามันเท่าไหร่ ซึ่งถ้าสุดท้ายแล้วได้เป็นก้อนเท่าไหร่ ผมจะออกมาแจ้งอีกที
ผมบอกแม่ไปแล้วครับ และแม่ก็เหมือนจะเอือมไปเหมือนกัน รวมถึงสั่งให้หยุดซื้อ ซึ่งผมก็ซื้อน้อยลงแล้วครับตอนนี้ และก็ระวังมากขึ้น ส่วนเรื่องดำเนินคดี คือจริงๆ ได้มีการติดต่อไปทางคุณตำรวจแล้วแหละ แต่ก็ต้องไปเจอด้วยตัวเองอีกทีเหมือนกัน เพื่อเอาหลักฐานต่างๆ ไปมอบให้ และผมเอาเรื่องถึงที่สุดแน่นอน”