จากเพื่อนที่เคยรักกัน รวมตัวจากความรักดนตรี และต่างคนก็ต่างมีฝีมือที่แตกต่างเฉพาะทางของตนเอง ในนาม "ละมุนแบนด์" ที่ประกอบไปด้วย จั๊ก ชวิน จิตรสมบูรณ์, ปิงปอง ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ และ ต้าร์ สุรชัย วงษ์บัวขาว หรือ ต้าร์ มิสเตอร์ทีม จากนั้นในวงก็ได้หยุดการทำกิจกรรมเพราะหนึ่งในสมาชิก “ปิงปอง” ได้ขอยกเลิกสัญญากับทางต้นสังกัดอย่าง “เลิฟอีส”
แต่ล่าสุดก็ดันเกิดดรามาที่ร้อนเป็นไฟ เมื่อปิงปองโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ตัวเอง เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า “เมื่อคนที่เคยเกลียดเรา รวมหัวกันด่าลับหลังเรา แต่เอาผลงานเราไปหากิน...ก็ดีนะ เห็นไหม ชีวิตพวกแกมันหนีผลงานที่ฉันทำทิ้งไว้ให้ไม่ได้หรอก”
จากนั้น 2 วันถัดมา (18 มี.ค.) ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ “ต้าร์ มิสเตอร์ทีม” ก็ได้โพสต์ข้อความว่า “ไม่ได้เอาเพลงไปหากินนะครับ เอาไปร้องงานการกุศลช่วยแผ่นดินไหวตุรกี ไม่มีค่าตัว ผมเป็นคนอยากให้เล่นเพลงนั้นเองครับ เพราะเสียดายดนตรีและไลน์ประสาน แค่นั้นเองจริงๆ เพลงเราสองคนมีพอเล่นหนึ่งคอนเสิร์ตสบายครับ ผมพูดไม่บ่อยครับ ขอชี้แจงตรงนี้ทีเดียวนะครับ
ฝากมิตรสหาย cop ไปให้พี่เค้าอ่านด้วยนะ เราว่านายมีปัญหาเรื่องคนให้ข่าวว่ะ ไม่รู้ว่าเขาหวังดีหรือหวังร้ายกับนาย” ซึ่งต้าร์ได้นำเพลง “รักฉันเถิด” ไปร้องในคอนเสิร์ตการกุศล เพื่อระดมทุนช่วยเหลือตุรกีจากแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา จนต้าร์ก็ได้ออกมาโพสต์ล่าสุดตัดขาด ไม่ขอร่วมงานกับ “นายศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์” ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง พร้อมขอจบเรื่องนี้
จากนั้นดรามาก็บังเกิดทันที หลังจากที่ “จั๊ก ชวิน” เข้าไปเมนต์ใต้โพสต์ โดยเจ้าตัวก็ได้อธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมยังบอกว่าถ้าจะร้องเพลงนี้อีก คงจะมีแค่ดนตรีบรรเลง ในส่วนที่ตัวเองแต่งเท่านั้น เพราะในส่วนเนื้อร้องที่ปิงปองแต่งก็คงไม่เอามารวม ด้านปิงปองก็สวนกลับว่าเอาไปร้องไม่เป็นไร แต่ทำไมต้องไปร่วมนินทากับคนพวกนั้น
จั๊ก ชวิน : น่าจะไม่เข้าใจนะครับ อาการขนาดนั้นน่าสงสารจริงๆ
ปิงปอง : กูก็ว่าก็ยังเคยส่งงานให้มึงนะจั๊ก เพราะกูเชื่อว่ามึงไม่ใช่คนที่อยู่ในกลุ่มนั้น ตอนอยู่ด้วยกัน กูว่ากูพยายามมากในการดึงมึงกลับขึ้นมาให้เป็นผู้เป็นคน จะได้กลับมามีงานอะนะ แต่การที่มึงเลือกคนที่พร้อมเมา มันไปกับมึง (แถมด่ากูลับหลัง) แล้วมึงยังเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มนั้นเสียเอง กูก็ไม่มีอะไรจะพูดอะนะ
จั๊ก ชวิน : งานนี้การกุศลจริงๆ ครับ ผมขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน พวกผมไม่รับค่าตัวเลยสักบาท มันเป็นงานที่ไปช่วยกันจริงๆ แต่ต้องใช้เพลงที่ไม่ติดลิขสิทธิ์กับค่ายใหญ่ เพราะเขาคิดค่าลิขสิทธิ์เพลงละ 10,000 กว่าบาท ซึ่งเพลงที่เป็นลิขสิทธิ์ของค่ายใหญ่ ผมใช้เพลงเดียวครับ ส่วนเพลงอื่นเป็นเพลงที่เป็นลิขสิทธิ์ของผมเอง ส่วนเพลงที่ลุงเขียนเนื้อ 'โดยผมแต่งทำนองเองนั้น' ผมนำมาใช้ เพราะลุงอนุญาตแล้วนะครับ ส่วนงานที่เรามอบให้กัน ผมว่าเรารู้กันดีว่าเป็นยังไง ผมไม่ติดค้างอะไรใคร ส่วนใครจะอยู่กลุ่มไหนผมเชื่อว่า ผมเป็นเพื่อนได้กับทุกคนครับ รักและคิดถึงนะครับ (พร้อมแนบแชตการสนทนาของกลุ่ม ละมุนแบนด์ ซึ่งในเนื้อหา อธิบายว่าปิงปองได้ยกเลิกสัญญากับค่าย และอนุญาตให้จั๊กและต้าร์ นำเพลงไปร้องได้ตามปกติ)
ปิงปอง : จริงตามจั๊กว่า เราให้จริงๆ และเราก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ใช้อะนะ เพราะถ้าไม่ให้ ก็จะไม่ได้มาคุยกันตรงนี้หรอก อยากใช้ผลงานในส่วนของเรา ใช้ได้เลยจั๊ก แค่จำไว้ว่าทุกครั้งที่มึงเล่นเพลงที่กูเขียน มึงกำลังร้องเพลงของคนที่มึงรวมหัวกับชาวบ้านด่าลับหลังกู ทั้งที่เขาพยายามจะดึงชีวิตมึงให้กลับมาอยู่ในครรลองที่จะดี กับตัวมึงเองและครอบครัว
จั๊ก ชวิน : ขอบคุณมากเลยครับ ผมคงใช้เพลงนี้เป็นครั้งสุดท้าย หรือถ้าจะใช้อีกคงเป็นเวอร์ชั่นบรรเลงครับ และขอให้เข้าใจไว้ตรงนี้อีกครั้งนึงนะครับ ผมไม่เคยด่าลับหลังลุง และทัวร์ที่มันลงลุง ผมไม่ได้ไปปั่นนะครับ เขามากันเองเพราะอะไรผมไม่ทราบ และคนที่มาก็มีลุงเป็นเมนทั้งนั้น ไม่ใช่ fc ผมนะ ในส่วนของเรื่องครอบครัวผม ผมว่าผมอยู่แบบมีความสุขอยู่แล้วนะครับ ผมมีทุกอย่างที่ต้องการและให้ลูกกับเมียผมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ แต่บ้านผมมีความสุขอย่างไม่ขาดสายกันอยู่แล้วครับ รักและปรารถนาดีกับลุงเสมอนะครับ
ปิงปอง : แล้วแต่จั๊กเลย มึงรู้ดีอยู่กับใจอยู่แล้ว ไม่ได้ด่าลับหลัง แต่รู้ว่ามี เยี่ยมเลยจั๊ก
ด้าน “ปิงปอง ศิรศักดิ์” ก็ยังเมนต์ใต้โพสต์ของ “ต้าร์ มิสเตอร์ทีม” จนเจ้าของโพสต์ต้องยืนยันว่าไม่เคยนินทาลับหลังตามที่อีกฝ่ายกล่าว ซึ่งปิงปองก็สวนกลับ ว่าใครนินทาบ้าง รวมทั้งเก็บหลักฐาน พร้อมยืนยันว่ายังร่วมงานกับต้าร์ได้อยู่
ปิงปอง : ในที่สุดก็ยอมรับกันอะนะว่าแอบด่าผมลับหลังกัน ตอนแรกก็เห็นแค่ไอ้ส่อง จนลามมาป้ายุ้ยกับพวกแฟนเพลง…ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงแอบด่าลับหลังกัน ล่าสุดเรายังรับงานโทร.คุยกันอยู่เลย ต่อไปจะใช้เพลงผม ใช้ได้นะครับ แต่โทร.มาขอก่อนก็พอ
ต้าร์ มิสเตอร์ทีม : พี่ไม่เคยด่าใครลับหลัง บอกแค่นี้แหละ เอ็งก็น่าจะรู้นิสัยพี่นะ
ปิงปอง : แต่พี่ก็รู้ไงว่าใครบ้าง จริงๆ สังเกตจากในเมนตฺ์นี้เอาก็ได้ (จริงๆ ผมแอบเก็บหลักฐานไว้ตลอดแหละ)…แต่พี่เลือกไม่รู้ไม่ชี้ เอาจริงนะ ผมก็เสียใจแหละ ผมว่าผมเต็มที่กับพี่กับจั๊ก กับละมุนแบนด์ฉิบหายเลยตอนที่เราอยู่ด้วยกัน แต่พวกพี่เลือกที่จะทำกับผมกันแบบนี้ มันก็ไม่ไหวอะนะ จริงๆ ผมก็อยากให้มันกระจ่างไปเลย แค่นี้แหละว่ามีการรวมหัวกันด่าผมลับหลังจริงๆ สำหรับพี่ ถ้าผมมีงานอะไรที่คิดว่าพี่น่าจะเหมาะ ผมก็คงส่งพี่อย่างเดิมแหละ ผมอยากรู้แค่นี้
ต้าร์ มิสเตอร์ทีม : กูก็เสียใจ สั้นๆ แค่นี้แหละ
ส่วน “ปอ” ภรรยาของ “จั๊ก ชวิน” ก็ได้เข้ามาเมนต์ต่อว่าเพลง “รักฉันเถิด” แนะนำให้ปิงปองเลิกใช้คำว่า “เพลงผม” เป็น “เพลงที่ผมแต่งเนื้อร้อง” พร้อมท้าว่าให้เอาหลักฐานมายืนยันว่าใครเกลียด ด้าน “ปิงปอง” ก็ไม่รอช้าสวนกลับเช่นเคยว่าอย่าแถ และที่ไม่โทร.คุย เลือกที่จะเมนต์แบบนี้เพราะจะได้มีหลักฐาน
ปอ : พี่เปลี่ยนจากใช้คำว่า เพลงผม เป็น เพลงที่ผมแต่งเนื้อร้อง ดีกว่าไหมคะ มันน่าจะฟังดูถูกต้องกว่า (พร้อมแนบข้อมูลของเพลง รักฉันเถิด ว่ารายละเอียดว่าใครทำหน้าที่อะไรบ้างในเพลงนี้)
ปิงปอง : ยังไงคำตอบมันก็คำตอบเดิมแหละปอ ไม่ตลกเหรอ เอาเพลงที่เราแต่งไปใช้งาน ทั้งๆ ที่คนที่แต่งเพลงนี้คือคนที่พวกเธอร่วมกันนินทาลับหลัง…ไม่รู้สึกกระดากอะไรกันบ้างเลยจริงๆ เหรอ หรือใช้ชีวิตเอาเปรียบคนอื่นกันจนเคยตัว เราไม่ได้หวงเพลงหรอกนะ (แม้จะมีสิทธิ์) เราแค่ตลกที่คนที่บอกว่ามูฟออนแล้ว ยังตามข่าวเรา เอาเพลงเรามาร้องกัน อ้อ…แล้วการบอกให้คนที่ถูกนินทาลับหลังให้มูฟออนน่ะ มันไม่ใช่ มันต้องพูดว่า ขอโทษ ปล.จะใช้เพลงพวกนี้อีกเราก็ไม่ว่าหรอก เราก็แค่ยิ้มแหละ หรือจะเอาไปทำเป็นเพลงบรรเลงหรือจะแต่งเนื้อใหม่ไปเลยก็ได้นะ / ป.ล.2 ขอให้โชคดีนะ
ปอ : พี่เอาแต่พูดว่าคนนั้นคนนี้นินทาพี่ ด่าพี่ลับหลัง มันถึงเวลาแล้วค่ะที่พี่ต้องพูดออกมาเลยว่าใครทำที่ไหนอย่างไร เอาหลักฐานมาเลย เลิกพูดพล่อยๆ กล่าวหากันสักที เหมือนที่เราก็เคยพูดกันไปแล้วอะเนอะ อย่าทำตัวเหมือนตัวเองเป็นเหยื่อค่ะ เพราะมันเริ่มเกินไปละ และเรื่องเพลงยังยืนยันค่ะว่าพี่ควรพูดแค่ว่าเป็นคนแต่งเนื้อเพลง เป็นได้แค่นั้น
ปิงปอง : ก็เป็นแค่นั้นไง แล้วเราไม่ได้แต่งรึไง ยิ่งแถยิ่งแย่นะปอ ทั้งหมดที่ร้อนตัวกันอยู่นี้มันก็รู้แล้ว แล้วนี่ก็ไม่ได้ห้ามใช้เพลงเสียหน่อย (โคตรจะใจดีแล้วนะ) มันก็แค่ตลก แค่นั้นจริงๆ
ปอ : คนที่แถคือพี่นะ ไปกันใหญ่แล้วและไม่มีใครร้อนตัวเลย ถึงได้บอกไงคะ ว่าให้พี่พูดมาเลย เพราะที่พี่ทำมันคือกล่าวหาคนอื่นไปเรื่อย ไม่จบไม่สิ้น เรื่องเพลงใครจะเอาไปใช้หรือไม่ใช้ ไม่ขอยุ่งค่ะ แค่อยากบอกว่าเพลงนี้มันไม่ใช่ของพี่คนเดียว
ปิงปอง : 555555 ปอ…พี่ไม่ได้ว่าอะไรนะ พี่ใจดีพอกับเรื่องพวกนี้ แต่ปอน่าจะเข้าใจเรื่องความมีสิทธิ์ใดๆ ในในตัวเพลงอยู่นะ มันคือมารยาทอะปอ ยิ่งกับคนที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้าเนี่ย ยิ่งต้องแสดงความเป็นลูกผู้ชาย (จริงๆ ผู้หญิงก็ด้วย) ออกมา
ปอ : มารยาทที่พี่หมายถึงคือแบบนี้หรือเปล่าคะ (แนบแคปทวิตเตอร์ต้นทาง ที่ปิงปองโพสต์เกี่ยวกับการถูกนินทา)
ปิงปอง : มีอะไรที่เราเขียนไม่ตรงความจริงบ้างล่ะ ปล.เราพิมพ์ด้วยชื่อนามสกุลจริง แอ็กจริง มีเครื่องหมายถูกยืนยันตัวตนด้วยนะ นี่ขนาดว่าทิ้งช่วงมาพักใหญ่ยังร้อนใจกันขนาดนี้ รู้เลยใครเป็นใคร ยอมรับเถอะว่าโกรธเพราะว่ามันจริง เอาเพลงที่เราแต่งไปใช้จริงๆ ลับหลังกันนินทาเราจริง ถ้าอยากมูฟออนอย่างที่ว่าจริงๆ อันดับแรกเลยนะ วงก็แต่งเพลงใหม่บ้าง ส่วนปอ เจ้าส่องและบ่าวไพร่ ก็มูฟออนจากพี่ให้ได้จริงๆ ตามที่พูด ไม่ต้องมาขอโทษก็ได้ เอาแค่นี้ก็พอ
ปอ : ไม่มีอะไรตรงเลย อย่างแรกใครคือคนที่เกลียดพี่คะ ใครด่าลับหลังคะ เอาผลงานไปหากินตรงไหนคะ เงินก็ไม่ได้ พี่ย้อนแย้งมากนะคะ ปากบอกไม่มีอะไรกับพี่ต้าร์ จั๊กแต่ก็มาเขียนแซะเขา ทำไมยังทำแบบนี้อยู่ละคะ คนมีมารยาทเขาไม่ใช้วิธีโพสต์ลงโซเชียลหรอกค่ะ เขาโทร.คุยกัน
ปิงปอง : โทร.คุยพี่ก็ไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรสิ อายเหรอ ที่พี่เอาเรื่องพวกนี้ออกมาพูด(ถึงแม้จะไม่ได้บอกว่าคือใครก็ตาม)
ปอ : เป็นคนแบบไหนคะ แค่โทร.คุยกันแบบเพื่อนคุยกัน ต้องเก็บหลักฐานด้วยเหรอคะ
ปิงปอง : 5555 ก็พวกเธอมันอันตรายและเห็นแก่ตัวไง เอาคำว่าเพื่อนมาอ้างเพื่อเอาเปรียบคนอื่นตลอดอะ อีกนิดๆ เราไม่ได้ระบุชื่อนะ จะมาว่าเราด่าจั๊กกับพี่ต้าร์นี่ไม่ได้ไหม ดันร้อนตัวแสดงตัวกันออกมาเองว่าพวกฉันคือคนกลุ่มนั้นเองจ้าาาา 2.พี่ต้าร์ก็โพสต์ขึ้นเฟซนะ ส่องเสิ่งและอีกหลายคนด้วย ด่าแบบนี้กระทบชิ่งเพียบเลยเน้อ
ปอ : ประเด็นมันมีกันอยู่แล้วพวกเรารู้กันดี อ่านดูก็รู้ว่าพี่สื่อถึงใคร จริงๆ เรื่องมันก็จบไปแล้วด้วย แต่ทำไมพี่ยังมาเขียนแบบนี้อีก นี่แหละที่สงสัย ไม่เคยคิดที่จะขอโทษนะคะ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แค่นี้แหละค่ะ
และ “อาร์ต” ที่ทำงานเบื้องหลังและทีมงาน ได้เข้าไปเมนต์โสต์นี้เช่นกัน ยืนยันว่าต้าร์ได้ให้เครดิตคนเขียนเนื้อเพลงนี้บนเวที แต่เหมือนจะบานปลาย ขุดเรื่องส่วนตัวมาฟาดกันชนิดที่ว่าร้อนเป็นไฟ
อาร์ต : แถมพี่ยังพูดให้เครดิตคนที่เขียนเนื้อเพลงต่อทุกคนในงานอีกด้วยครับ
ปิงปอง : ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ผ่านมาทั้งหมดนะส่อง ตอนนี้น่าจะเปิดตัวกันครบละมั้งว่าใครเป็นใคร
อาร์ต : เอาง่ายๆ นะปองไม่มีใครเขาให้ร้ายนายเลย นายต้องมองความคิดตัวเองใหม่นะ เวลามีใครถามถึงนายทั้งพี่ต้าร์หรือจั๊กบอกในทางที่ดีๆ แล้วแต่นายจะคิดนะแต่เราหรือคนอื่นๆ ไม่มีใครคิดถึงอดีตที่ผ่านมาแล้วทุกๆ คนก้าวข้ามมันไปหมดแล้ว นายไม่ได้อยู่ในความทรงจำของพวกเราอีกแล้วนะ แค่นี้นะไม่ต้องต่ออะไรมาอีก ทางใครทางมันนะปองไม่ต้องระแวงว่าจะมีใครพูดถึงนายอีกทั้งทางดีและไม่ดีจบนะ ดีแล้วที่อันเฟรนด์เราไปสักที สรุปว่านาย…นะ
ปิงปอง : ทำอะไรไม่ดีกับคนอื่นไว้แล้ว บอกให้เขามูฟออน… แบบนี้เขาเรียกว่าหนีคดี ก็แค่คนที่มันไม่ใช่คนจริง แอบนินทาคนอื่นลับหลัง แล้วคิดว่าตัวเองดีอะนะ ต่อไปพยายามเมาไม่ขับนะ ค่าปรับมันแพง ปล.ใครติดต่อแก ครั้งสุดท้ายนั่นแกก็เป็นคนมาหาเรื่องฉัน ลูกกระจ๊อกขี้ยุขี้นินทา มันก็คือลูกกระจ๊อกขี้นินทาเหมือนเดิมนั่นแหละ จะมาอ้างอะไรก็เหมือนเดิม จริงๆ ทั้งหมดน่าจะเริ่มมาจากมึงด้วยซ้ำ(ลูกน้องดีเจ้านายเลยโชคดีไปด้วยอะนะ) ในส่วนพี่ต้าร์กับจั๊กอะ กูแค่เสียใจที่เขาหาทางเอาตัวรอดโดยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับปัญหา แต่ปัญหาอะ น่าจะมึงเลยส่อง ก็ขอให้พี่ต้าร์กับจั๊กโชคดีละกันที่เลี้ยงจิ้งจอกอย่างมึงไว้
อาร์ต : มึงเป็นเหี้...อะไรมากปะปอง ลูกกระจ๊อก ค.อะไรใครไปนินทามึงเจอกับกุไหม มึงไปนับดูดีๆ ใครเริ่มก่อนมึงคิดให้ดีๆ กูคบกันมาทำงานร่วมกันมา 20 กว่าปี อยู่ด้วยกันมาไม่เห็นจะมีปัญหา ใครกันแน่จิ้งจอก อะไรมึงเข้าใจอะไรผิดป่าวปอง กูจะเมาขับรถโดนจับ มันก็เรื่องของกูไหมละปอง หนักหัวมึงเหรอเดือดร้อนถึงมึงเหรอปอง แบบนี้เขาเรียกเสื_กนะปอง
เรื่องยังไม่จบ! เฟซบุ๊กของ “ปิงปอง ศิรศักดิ์” ก็ได้โพสต์ข้อความยาวเหยียดว่าถ้าคนที่เกลียดยังกับขี้ แต่เอาเพลงของเราไปร้อง และไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าจะรู้สึกยังไง รวมไปถึงประกาศว่าไม่อยากร่วมงานกับ เจ้าตัวยืนยันว่าไม่เคยระบุชื่อใคร ยืนยันว่าดีแล้ว จะได้ตัดออกจากลิสต์รายชื่อ
“ถ้าคุณมีกลุ่มคนที่คอยด่าคุณนินทาคุณลับหลัง (เอางี้ เกลียดเรายังกะขี้) เอาเพลงที่คุณแต่งไปร้อง(อะแต่งเนื้ออย่างเดียวนี่แหละ เพราะเขาบอกว่าผมมันก็แค่แต่งเนื้อ แต่แต่งเนื้อคนเดียวทั้งหมดนะ) ไม่โทร.มาขอมาบอกกันก่อนด้วย
.
คุณจะรู้สึกยังไง(ตอนหลังได้รับเหตุผลว่าเสียดายเพลง และเพราะเพลงอื่นเขาคิดค่าลิขสิทธิ์)
.
ส่วนตัวผมไม่หวงนะ ผมก็แค่ยิ้มอะ ว่าสุดท้ายก็หนีผลงานของเราไปไม่ได้ แต่ก็แค่สงสัยว่าคนร้องคนฟัง(ที่นั่งด่าเราลับหลังกันอยู่)ไม่รู้สึกตะหงิดใจอะไรกันเลยเหรอ ที่ฮาคือยังจะให้เราผิดอีกที่ไม่ให้เกียรติพวกเขา…แล้วทำไมไม่ให้เกียรติผม
.
ตามธรรมชาติคนทั่วไป ถ้าเกลียดผมขนาดนั้น นั่งรวมหัวด่าผมขนาดนั้น(รวมทั้งคนที่บอกว่าไม่ได้ด่า แต่นั่งฟังเขาด่าด้วยนะ) น่าจะมูฟออนกันไปตามที่คุณพูดกับผมไหม (อันนี้ก็ประหลาด ผมที่โดนพวกคุณรุมด่ากลับถูกบอกให้มูฟออน ถ้าไม่มูฟคือผิด …เดี๋ยวก่อน แกต้องขอโทษ ไม่ใช่ไล่คนอื่นให้มูฟออน)
.
เห็นว่าประกาศจะไม่ร่วมงานกับผมแล้ว
.
ผมไม่เคยระบุชื่อพวกคุณนะ และก็จะไม่ระบุชื่อต่อไป คนที่ไม่รู้เขาจะได้ไม่รู้ต่อไป เรื่องวีรกรรมต่างๆ ผมก็จะไม่พูดถึง ถือว่าเป็นการให้เกียรติที่สุดแล้ว ก็ขอให้นักร้องสองคนนั้นกับบ่าวเทคนิเชียนหมาจิ้งจอกคนนั้น และบ่าวไพร่รอบๆ ตัวพวกเขาโชคดีละกัน
.
ป.ล.ประกาศว่าไม่ทำงานร่วมกันก็ดีแล้วฮะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาส่งงานให้อีก จะได้ตัดออกจากลิสต์เลยเช่นกัน”