xs
xsm
sm
md
lg

“หนูนา หนึ่งธิดา” 2 ปีหายหน้าค้นหาตัวตน วันนี้กลับมาเพราะมี “หนี้”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หนูนา หนึ่งธิดา” คัมแบ็กในรอบ 2 ปี หลังหมดแพชชั่นละคร หันไปทำคอนเทนต์ครีเอเตอร์ท่องเที่ยว พ่วงเรียนต่อปริญญาโท 2 ใบ ลั่นยังไม่อิ่มตัว มีหนี้ ทำให้มีแรงใจทำงาน เตรียมจัดคอนเสิร์ตเล็กๆ ไม่คิดว่าจะขายบัตรได้

หายไปจากงานละครนานถึง 2 ปี ล่าสุด “หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ” คัมแบ็กแล้ว โดยเจ้าตัวเผยในงานเปิดตัวคอลเลคชันเสื้อยืด UT 23SS ยอมรับที่ผ่านมาเลือกงาน ไม่อิ่มตัว เพราะยังมีหนี้ ทำให้มีแรงใจทำงาน

“หายหน้าไป ตอนนี้ก็เป็นละคร ทำคอนเทนต์ ร้องเพลงทั่วไปเลยค่ะ ละครตอนนี้ถ่ายมาปีกว่าแล้ว หนังก็จะได้เห็นกันปลายปี คือที่ผ่านมายอมรับว่าเลือกรับงานพอสมควร ด้วยอายุที่เริ่มแก่แล้วก็รับทีละเรื่อง เพราะเราต้องทำอะไรอีกหลายอย่าง ต้องทำ ยูทิวบ์ โซเชียลด้วย และอื่นๆ ด้วยยุคสมัยที่มันเปลี่ยนไปเราก็ต้องทำหลายอย่างควบคู่กันไป ก็ยังทำงานเบื้องหน้าอยู่ แต่ว่าไม่ได้ออกทางช่องฟรีทีวี

ไม่ได้รับละครมา 2 ปี ปีนี้ก็กลับมารับละครแล้ว ก็จะได้เห็นผลงานหลายๆ อย่างให้ได้ชมกันเยอะเลย แต่ก็ยังทำทีละเรื่องเหมือนเดิม เราจะไม่อิ่มตัวหรอกค่ะถ้าเรามีหนี้สิน เราต้องมีเพิ่มเรื่อยๆ ค่ะ เป็นแรงใจให้เราทำงาน ส่วนเรื่องเที่ยวมันคือการทำคอนเทนต์ไง เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในหมวดของการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ ช่วง 2 ปีที่หยุด นอกจากจะหมดแพชชั่นแล้วเราก็ไปเรียนต่อ หลังจากนั้นร้อนเงินก็กลับมารับงานเต็มที่เลย”

หายไปหาตัวตน
จริงๆ แล้วต้องบอกว่าช่วงที่เราหายไปมันเป็นช่วงหาตัวตน จากการที่เรารับแต่งานละคร เราก็ไม่ได้เที่ยวเลย สุดท้ายเรามาทำคอนเทนต์ครีเอเตอร์การท่องเที่ยว แต่กลายเป็นว่ามันเหนื่อยมากนะ เพราะเหมือนเราไปเที่ยวแต่มันไม่ได้เที่ยวจริงๆ มันต้องทำงานไปด้วย มันต้องคิดคอนเทนต์ อันนี้ลูกค้าเข้าเราก็ต้องทำให้เต็มที่ มันก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่ด้วยยุคสมัยที่มันเปลี่ยนไป กลายเป็นว่าแพลตฟอร์มงานนอกจากจะฟรีทีวี มันมีหลายๆ ช่องทางให้เราได้เลือกเสพมากขึ้น รวมไปถึงโซเชียลก็ต้องพยายามทำทุกอย่างให้มันได้เยอะๆ มากขึ้นมากๆ เลย”

ช่วงหมดแพชชั่นคือช่วงไม่มีหนี้สิน
บอกตามตรงเลยเป็นช่วงไม่มีหนี้สินค่ะ (หัวเราะ) เราทำงานมาเยอะๆ พอเราปลดหนี้เราก็เลยไม่ทำอะไรเลย อยู่บ้าน เล่นเกม อ่านหนังสือการ์ตูน สุดท้ายนึกขึ้นมาได้ว่าเงินจะหมดแล้วนี่ ทำงานดีกว่า แซวเล่นค่ะ ช่วงนั้นไปเรียนต่อ ป.โทด้วย เรียนด้านบริหารธุรกิจ พอจบแล้ว ก็ต่อ ป.โทอีกใบ เป็นการแพทย์ชะลอวัย ก็กระเสือกกระสนอยู่ 2 ใบค่ะ ใบนึงน่าจะรับปริญญาเร็วๆ นี้ มันบังเอิญเข้ามาพร้อมกัน ก่อนหน้านี้เรารับแต่ละคร มันเลยอยากทำให้เราไปทำอย่างอื่น ก็เลยไม่รับละครเลยมา 2 ปี แล้วก็ไปลองทำอย่างอื่น ไปเรียน ไปทำคอนเทนต์ครีเอเตอร์ดูสิว่ามันจะดีไหม ก็ถือว่าเติบโตได้ดีเลย

เรียนไว้เป็นพื้นฐานให้ตัวเอง มีช่วงโควิดเข้ามาด้วย เลยทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะลองไปทำอะไรอย่างอื่น สุดท้ายก็ทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งที่เราชอบมากจริงๆ ก็คือการร้องเพลง เลยกลับมา ปีนี้ตั้งใจว่าจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการร้องเพลง”

คัมแบ็กแล้วรับทุกอย่าง ทำให้บาลานซ์กัน
“ก่อนหน้านี้จะมีสองแบบคือผ่านโซเชียล เขาจะเห็นเราบ่อยเพราะเราจะรับงานทางโซเชียลเยอะ แต่ว่าทางฟรีทีวีหรือทางช่องทางที่แมสจะไม่ค่อยเห็นเรา เพราะเราไม่ได้รับละคร ตอนนี้เรารับหมด ทำมองอย่างบาลานซ์ให้มันควบคู่กันไปด้วย ไม่เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะค่อยๆ เห็นภาพมากขึ้น ปีนี้กลับมาขยัน อยากทำงานค่ะ

ตอนที่หายไปคนก็ถามเยอะเลยว่าทำไมไม่เล่นละคร ทำไมไม่ร้องเพลง คนอยากให้กลับมาร้องเพลง ตอนนี้เรากลับมาร้องเพลงบ้าง เล่นละครบ้างให้คนหายคิดถึง แล้วก็พัฒนาตัวเองในด้านโซเชียลไปพร้อมๆ กันให้มันทันยุคทันสมัย ถามว่าต้องสู้กว่าเดิมไหม ทางการร้องเพลงกับการแสดงเรารู้สึกว่าไม่เท่าไหร่ แต่ที่ต้องสู้จริงๆ หนักมากคือทางโซเชียล ขอเป็นตัวแทนของคอนเทนต์ครีเอเตอร์หลายคนเลยว่าการที่จะครีเอตงาน ทำคอนเทนต์มันเหนื่อย เวลาเราเป็นนักร้อง นักแสดง เราเอาตัวเองไปสวมในบทบาท แต่คอนเทนต์ครีเอเตอร์เราต้องคิดมันขึ้นมาเองจากตัวเรา มันต้องใหม่ตลอด อันนี้คือเหนื่อยมากจริงๆ”

เตรียมมีคอนเสิร์ตเล็กๆ ไม่เชื่อตัวเองว่าจะขายบัตรได้
“เป็นคอนเสิร์ตของตัวเอง เป็นเพลงเกี่ยวกับละครเวที เพลงดิสนีย์ที่หลายๆ คนอยากจะให้เราร้อง เป็นคอนเสิร์ตเล็กๆ 100 ที่ เรายังบอกกับทีมว่าโชว์เราจะขายบัตรได้เหรอ คนไม่ได้เห็นเราร้องเพลงนาน จะจำได้เหรอ คนจะเชื่อเราไหมว่าเราร้องเพลงพวกนั้นได้ ทางทีมเขาก็บอกว่าขายได้ เชื่อพี่ ก็ฝากด้วย ตอนนี้เพิ่มรอบแล้ว อย่างไม่น่าเชื่อเลย ขอบคุณนะคะที่ยังจำกันได้อยู่ว่าเราชอบการร้องเพลง ยังคอยติดตามและให้กำลังใจเรา เป็นการกลับมาในรอบ 2 ปีกว่าเลย”





กำลังโหลดความคิดเห็น