“นิกกี้ ณฉัตร” ควง “ก้อย อรัชพร” เปิดใจยุติความรักกันไปแล้วหลังลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วมันไม่เวิร์ก ลั่นเกิดจากนิสัยล้วนๆ ทำให้ไปต่อไม่ได้ ลองใช้ชีวิตด้วยกันแล้วมันเหนื่อย ฝ่ายชายยันไม่เคยนอกกาย ไม่เคยนอกใจ ไม่มีเรื่องมือที่สาม พยายามที่สุดแล้ว นิกกี้ลั่นร้องไห้กับหมา นั่งคุยกับแมลงสาบวันที่ไม่มีก้อย เป็นผู้เป็นคนขึ้นก็เพราะก้อย
หลังเรื่องรักหรือเลิก กลายเป็นดรามาบานปลาย ล่าสุด “นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์” ก็ได้ออกมาเปิดใจพร้อม “ก้อย อรัชพร โภคินภากร” ตรงๆ ผ่านทางช่องยูทิวบ์ฝ่ายชาย ซึ่งทำแฟนๆ พากันช็อกอยู่ไม่น้อย เพราะตอนแรกคิดว่าแค่งอนๆ กัน แต่ล่าสุดทั้งคู่กลับบอกตรงกันว่าตอนนี้ได้เลิกกันแล้ว โดยสาเหตุเกิดจากการลองใช้ชีวิตด้วยกันแล้วมันเหนื่อย
ก้อย : “อยากจะบอกให้ทุกคนรู้โดยทั่วกันว่าเราตกลงกันว่าเราสองคนเลิกกันแล้ว แต่เป็นการเลิกกันด้วยดี เราก็คุยในวันที่เลิกกันด้วยดีแต่มันอาจจะมีการจัดการอารมณ์กันไม่ได้ สาเหตุหลักคือการได้ลองใช้ชีวิตดูกันแล้วมันก็เหมือนกับว่าเราไม่ได้สื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมาจริงๆตั้งแต่แรก มันเลยทำให้เกิดปัญหาขึ้นเรื่อยๆมีจุดยืนมีความคิดของตัวเองที่มันค่อยๆปรับกันแล้ว มันปรับกันไม่ได้จริงๆ ก็เลยรู้สึกว่างั้นเราแยกไปอยู่กับตัวเองไปลองใช้ชีวิตในแบบของตัวเองดีกว่า”
นิกกี้ : “ก็เลิกกันด้วยดีนะครับ เรายังคุยกันดี ไม่มีการทะเลาะกันไม่มีการขึ้นเสียงใช้อารมณ์กันคุยกันด้วยความรัก ผมก็มีน้ำตานะตอนเลิกแต่ร้องไห้ด้วยความรัก เราเองก็แอบมีน้ำตาเหมือนกัน แต่ไม่ให้เขาเห็น ก็แอบไปมีน้ำตากับหมา ให้เวลาเขาอยู่กับตัวเอง ก้อยที่ผ่านมาทำงานเยอะ”
ก้อย : “จริงๆ ทำงานเยอะด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็นั่นแหละ พอมาลองใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้วมันมีความทุกข์ที่เราเหนื่อยต่อกัน งั้นก็พอก่อนดีกว่าเท่านั้นเอง”
“นิกกี้ ณฉัตร”ยันไม่เคยนอกกายนอกใจ “ก้อย อรัชพร” เลยซึ่งการเลิกกันครั้งนี้ไม่มีมือที่ 3 แต่เป็นเพราะนิสัยส่วนตัวที่ทำให้ไปต่อกันไม่ได้
นิกกี้ : “ไม่รู้ว่าควรเป็นสิ่งที่ผมควรภูมิใจหรือไม่ภูมิใจนะ ผมพูดได้ต่อหน้าน้องก้อยเลยตั้งแต่ผมคบกับก้อย ตัดสินใจเป็นแฟนกับน้องก้อยจะ 3ปีแล้ว 25 มีนาคม คือวันแรกที่เจอกันไม่เคยนอกใจแฟนแม้แต่ครั้งเดียว นอกกายไปนวดก็ไม่เคย ไปเที่ยวผับก็แทบจะไม่เคยโกหกน้องเลยขอน้องทุกครั้ง”
ก้อย : “เลิกกันด้วยดี ไม่มีมือที่ 3 เป็นเรื่องนิสัยส่วนตัวของเราที่เราปรับกันมาถึงจุดนึงแล้ว เราไปต่อกันไม่ได้ แล้วถ้าถามว่าเลิกกันเพราะอะไรตอบเหมือนดาราเลย ก็คือเข้ากันไม่ได้ค่ะ ไปต่อกันไม่ได้แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องมือที่ 3”
นิกกี้ : “เป็นคำถามจากทางบ้านที่ไม่ใช่เอฟซีผม ถ้าเอฟซีน้องเขาก็อยากให้เลิกกันอยู่แล้วแหละ (อนาคตจะมีโอกาสรีเทิร์นได้ไหม?) เป็นสิ่งที่ไม่รู้ถ้าวันนี้มันก็คือชัดเจนคือเราคุยกันชัดเจน วันนี้ก็คือแยกกันดีกว่า อนาคตไม่ใช่เรื่องที่สามารถตอบได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
ขอเวลาอยู่กับตัวเองก่อนค่อยกลับมาทำงานร่วมกัน
ก้อย : “ก้อยร่วมงานได้ แต่คนเราเวลาแยกกันมันต้องมีเวลาจัดการตัวเอง มันไม่ใช่ว่าเลิกกันแล้วทำงานได้มีความสุขกัน คนเรามันไม่ได้จัดการตัวเองได้แบบนั้น มันต้องมีเวลาได้อยู่กับตัวเองจริงๆ ได้ ใช้เวลากับตัวเองจริงๆ พอเวลาที่มันเหมาะสมที่ทั้งสองคนสามารถจัดการตัวเองได้แล้วค่อยกลับมาทำงานด้วยกันดีกว่า”
“นิกกี้ ณฉัตร” เล่าห่างกันมา 2 อาทิตย์เฮิร์ตคุยกับแมลงสาบส่วน “ก้อย อรัชพร” ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง
นิกกี้ : “ไม่มีเขาวันแรกๆ มันจะงง เคยมีเขาอยู่ที่บ้านทุกวัน แล้ววันนึงกลับมาแล้วไม่มีเขา มันก็แปลกๆ มันเหมือนหนัง เรามองว่าเขาแยกกับเราเขาสบายใจกว่า เมาครับ ยอมรับตามตรงเลยวันแรกๆ ก็เฮิร์ต”
ก้อย : “ต้องมาเล่าอะไรเยอะแยะก็แค่เล่าไปว่าเลิกกันด้วยดี”
นิกกี้ : “เลิกดีอยู่แล้ว เลิกดีไม่เคยขึ้นเสียงกับน้องก้อยเลย ไม่เคยทะเลาะเลิกกันดีมากๆ ไม่มีขึ้นเสียงหม่ามี๊สบายใจได้เลยว่าดึงแขน บีบคอ ไม่มีเลย กอดกันนะตอนเลิกกัน เรากอดกัน แต่ยอมรับว่าคิดถึงเขา เรารักเขาเขาก็รักผม ผมรู้ ทุกวันนี้เขาก็ยังรักผมอยู่ผมก็รักเขา”
ก้อย : “ก้อยว่าก้อยได้มีเวลากับตัวเองดีนะคะ ก้อยรู้สึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ทำงานหนักมากแล้วก็บวกกับพอได้อยู่กับตัวเอง ก็รู้สึกว่าสงบดีค่ะ แต่กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นห่วงเขานิดนึงในเชิงที่ว่าหลายๆ คนอาจจะเป็นห่วงก้อย แล้วรู้สึกว่าในความสัมพันธ์นี้มันจะต้องทำอะไรที่แย่มากๆ แน่เลยแล้วไปว่าเขา สำหรับก้อยขอบคุณมากๆ ที่เป็นห่วง แต่เขาก็เป็นคนๆ นึงที่ก้อยรัก ก้อยก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เขามานั่งเจออะไรที่ไม่ดี เพราะเขาก็พยายามที่สุดในความสัมพันธ์นี้ ก้อยก็พยายามในความสัมพัน์นี้มันก็แค่จบลงแค่นั้นเอง”
ผ่านอะไรมาด้วยกันที่มากกว่าความรักเลิกกันแล้วยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน “ก้อย อรัชพร” เป็นห่วงไม่มีตนแล้วอยากให้ “นิกกี้ ณฉัตร” มีสติในทุกเรื่องด้าน “นิกกี้” รับมีแต่คนเชียร์ให้กลับไปง้ออย่าปล่อยให้ก้อยจากไป
ก้อย : “เป็นมิตรภาพที่ดีต่อกันทั้งก้อยและเขามันผ่านอะไรที่มากกว่าเรื่องรักมาเยอะแล้ว มันมีเรื่องอื่นในชีวิตที่เราได้ต่อสู้ชีวิตกันมา ก้อยว่านี่มันเป็นเรื่องนึงในชีวิตที่เดี๋ยวมันก็ผ่านไปก็แค่หวังดีต่อกัน ก็แค่อยากให้เขามีความสุข ถามว่าเป็นห่วงอะไรเขา มีสติ คำเดียวในใจ มีสติกับทุกเรื่องแค่นั้นแหละตั้งแต่วันแรกที่เลือกคบเขา เขาเป็นมนุษย์ที่ดี ก้อยขอยืนยันแล้วเขาน่ารักมากคนนึง แล้วเขาก็เป็นแบบนั้นอยู่ ก้อยไม่ได้ห่วงการใช้ชีวิตของเขาแค่เป็นห่วงแค่นี้แหละ”
นิกกี้ : “การใช้ชีวิตของเขาไม่เป็นห่วงเลย เพราะว่าเขาก็เป็นคนที่ดีมากทุกคนก็จะพูดกับผมหมดเลยว่า อย่าปล่อยก้อยไปนะ ไปง้อนะ เชื่อเถอะว่าก้อยคือแม่ที่ดีที่สุดของลูกแล้ว ทุกคนพูดกับผมหมด”
“นิกกี้ ณฉัตร” ยอมรับการตัดสินใจของ “ก้อย อรัชพร” ไม่เสียดาย 3 ปีที่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันทำให้ตนเป็นผู้เป็นคนขึ้น
นิกกี้ : “จริงๆ แล้วผมก็ยอมรับในการตัดสินใจของน้องก้อย ผมก็เคารพ ถามว่ารักไหม ผมรักเขาอยู่แล้ว แต่ถามว่าห่วงอะไรไหม ไม่ห่วงเลยเพราะก้อยเป็นคนที่ดีมากตลอด 3 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องไม่ดีในตัวเขาสำหรับผมเลยไม่เคยรู้สึกไม่ดีเลย ในสิ่งที่เขาทำให้ผมแล้วแม้แต่กระทั่งเลิกกันก็ไม่เสียดายนะ 3 ปีที่ผ่านมา เขาทำให้ผมเป็นผู้เป็นคนขึ้นเพราะถ้าไม่มีเขาอาจจะกะเลวกะลาดอยู่ ทุกคนก็จะบอกผมหมดว่าโชคดีนะเนี่ยที่มีก้อยเป็นแฟนเพราะดูดีขึ้นดูมีสติมากขึ้น
เลิกกันแล้วทุกวันนี้ครอบครัวก้อยก็ยังน่ารักมาก สองสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่ายังมีเขาในครอบครัวตลอดหรือว่ามีเขาในชีวิตก็คือหนึ่งน้องหมา ต่อให้ก้อยเลิกกับผมเขาก็ยังรักไนล่าก็แบ่งกันเลี้ยงผม 4 วันน้องก้อย 3 วันแล้วอีกอย่างคือรอยสักที่แขนพี่โต้ง”
ก้อย : “(อยากให้ลบ?) แล้วแต่พี่โต้ง”
นิกกี้ : “อันนี้ไม่ต้องลบเพราะพี่โต้งก็รักน้องก้อยเปรียบเสมือนรักผมแล้วผมก็โอเคนะที่เขาก็ยังเห็นความสำคัญของครอบครัวเรา ทุกวันนี้แม่จะมานอนกับผมนึกว่าแม่จะมาปลอบเรานะ เราไปปลอบแม่แทน ร้องไห้นะแม่”
ก้อย “ทั้งแม่คุณยายโอเคค่ะคือเราจบกันแล้วแต่เราก็อาศัยเป็นเหมือนครอบครัวมากไปประมาณหนึ่งแล้วแล้วเราก็รู้สึกว่าทุกคนเคารพการตัดสินใจของเราทั้งคู่ในวันที่เราบอกแม่ว่าเลิกกันแล้วแม่ก็เข้าใจและให้กำลังใจแค่นั้นเองคือมันก็เป็นคนที่หวังดีต่อกัน”
รัก “ก้อย อรัชพร” เสมอไม่ว่าจะฐานะไหน ส่วนก้อยอยากให้ “นิกกี้ ณฉัตร” มีชีวิตที่ดี
นิกกี้ : “ก็ไม่มีอะไรอยากจะบอกน้อง มีความสุขตลอดที่ได้อยู่กับน้องเขา ผมก็ไม่รู้นะว่าอนาคตจะเป็นยังไง อาจจะห่างกันไปแล้วไม่กลับกันมาอีกแล้ว หรือวันนึงอาจจะกลับมาคบกัน ก็อยากจะบอกน้องว่ายังไงก็ตามผมก็จะรักน้องเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนแต่ก็นั่นแหละ เราทำงานของเราไปเขาก็ทำงานของเขาไปเราก็จะซัปพอร์ตของเขาทุกอย่างไม่ว่าเขาจะทำอะไร จริงแล้วๆ ก็ไม่ได้อยากจะมาเศร้า ถามว่าเศร้าไหมในใจก็เศร้าแหละ แต่ก็ไม่ได้อยากมาร้องไห้หรืออะไร เพราะว่าเลิกกันดีแล้วมันก็มีความสุขชาตินี้แฮปปี้ที่ได้คบกับเขา 3 ปีแฮปปี้อย่างน้อยผมอายุ 50 อรัชพรแฟนเก่าผมนะ”
ก้อย : “อยากให้เขามีชีวิตที่ดี ก้อยก็เชื่อว่าเขาก็อยากให้ก้อยมีชีวิตที่ดีเพราะฉะนั้นก็เลิกกันด้วยดีแค่นั้นเอง (จับมือนิกกี้)”
นิกกี้ : “มีคนสงสัยในความสัมพันธ์ของผมกับน้องก้อย ตามที่น้องก้อยบอกเลยนะครับ ตอนนี้เราก็ลดสถานะจากเมื่อก่อนเป็นแฟนกันเป็นคนรักกัน ตอนนี้ก็พี่น้องที่ยังรักกันเหมือนเดิม ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าคนเรารักกันเลิกกันได้ยังไง แต่วันนี้ผมก็รู้แล้วว่าจริงๆ รักกันมันก็เลิกกันได้ แต่ก็หวังดีต่อกันเสมอ เพื่อนน้องก้อยผมรักทุกคนเพราะทุกคนก็น่ารักกับผมไม่มีใครอันฟอลโลว์ผมสักคน”
ก้อย : “บ้าใครจะอันฟอลโลว์”
นิกกี้ : “แต่น้องไม่อันฟอลโลว์ผมนะ อนาคตจะอัลฟอลไหม”
ก้อย : “ไม่เคยอันฟอลโลว์ อยู่ที่เกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านี้มันไม่ควรต้องอันฟอลโลว์กันหรอก แต่ประเด็นคือฟอลโลว์หรืออันฟอลโลว์มันสำคัญตรงไหน (หัวเราะ)”
นิกกี้ : “ก็อยากจะบอกว่าเพื่อนเขาน่ารัก ต่อให้เลิกกันก็ไม่มีใครอันฟอลโลว์ผมเลย และจริงๆ แล้วครอบครัวน้องก้อยน่ารักมากๆ พี่โชกุนโทร.มาหาจากออสเตรเลียบอกนิกกี้มีโควต้าชีวิตของพี่อยู่หนึ่งครั้ง เอาไหม พี่ช่วยน้องพี่มีโควต้าแค่ครั้งเดียว ล่าสุดโชกุนโดนก้อยบล็อก (หัวเราะ)”
ก้อย : “(หัวเราะ) ไม่ได้บล็อก แกล้ง”
นิกกี้ : “คือรักเสมอ แม่ก้อยก็เหมือนแม่ผมญาติก้อยทุกคนคือเหมือนญาติ ผมทุกคนบ้านก้อยไม่เหมือนบ้านผมหรอก แต่ผมก็ยังมาได้ผมรู้ว่าแม่เขาก็ยังต้อนรับผม”
ก้อย : “เอางี้เราจบกันด้วยดีถ้าพูดตรงๆ ในระยะยาวเริ่มจากวันนี้วันหนึ่งเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอาจจะกลับมา หรือไม่ได้กลับมา แต่ว่าก็ใช้ชีวิตไป แต่ถ้าวันนึงถ้าเขามีคนใหม่ หรือก้อยมีคนใหม่ สุดท้ายเราก็ให้เกียรติชีวิตที่ต้องไปต่อ ณ วันนี้เราก็เป็นเพื่อนกันต่อแค่นั้นเอง”
ก้อย : “ขอบคุณเอฟซีทุกคน คือทุกคนก็เห็นเรามาตั้งแต่ต้นและวันที่เราไม่ได้ไปต่อ แล้วก็ขอบคุณ เชื่อว่าเขาก็หวังดีและเราก็หวังดีต่อกันขอบคุณค่ะ”
นิกกี้ : “ขอบคุณจากใจจริงเอฟซีทุกคน จริงๆ รู้ว่าเอฟซีบางคนเขาก็เสียใจ แต่ให้รู้ไว้ว่ายังไงเราก็มีกันในชีวิตเสมอ เป็นครอบครัวเดียวกันรักกันทุกวันนี้”
ก้อย : “เป็นเพื่อนๆ พี่น้อง”
นิกกี้ : “รักเขาอยู่แล้ว น้องเขาก็ทำงานเยอะจริงๆ ตั้งใจกับทุกอย่างที่เขาทำ”
ก้อย : “พี่นิกกี้ด้วย (ยิ้ม)”
