“ติช่า กันติชา” เผยเกิดจากการเดินแบบ แต่กลับไม่มีงานเดินแบบเลย ฝากบอกเพื่อนๆ เดอะเฟซ ช่วยผลักดันตนด้วย ขอร้องให้มีงานเดินแบบบ้าง แต่ไม่เอางานฟรีนะคะ! ลั่นรู้ตัวดีไม่เหมาะประกวดนางงาม เพราะต้องอยู่ในโลกที่โดนเปรียบเทียบตลอดเวลา
กลายเป็นสาวนักเอ็นเตอร์เทนที่เห็นหน้าทีไรก็สร้างเสียงหัวเราะได้ตลอด สำหรับสาว “ติช่า กันติชา ชุมมะ” ความมั่นใจของเจ้าตัว ทำให้หลายคนอยากเห็นสาวติช่าไปลงประกวดนางงาม เพราะเชื่อ่วาจะตอบคำถามได้แซ่บ สู้ทุกคนได้แน่นอน แต่สาวติช่าเผยว่าตนเองนั้นไม่เหมาะกับเวทีขาอ่อน
“มี 3 อย่างแล้วตอนนี้ สิ่งที่อยากเป็น สิ่งที่คนอยากให้เป็น สิ่งที่เราได้เป็นจริงๆ แต่พูดถึงสิ่งที่อยากเป็นก่อน อยากเป็นนางแบบ เพราะไปประกวดเดอะเฟซมา ก็ทำตามความฝันได้สมใจแล้ว บินมาจากสวีเดน ก็คืออยากจะเดินแบบ ถ่ายแบบ ส่วนสิ่งที่คนอยากให้เราเป็น ติช่าคิดว่าที่คนอยากให้เราเป็นนางงาม เพราะว่าตอบคำถามแล้วดูเหมือนสู้สุดใจ แต่ช่าแอบคิดว่าตัวช่าเองอาจจะไม่เหมาะ เพราะจริงๆ แล้วเป็นคนไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น ช่ารู้สึกว่านางงามจะมีความเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า ผม หน้า ทุกอย่าง กิริยา
แล้วเราเป็นคนที่บ้าๆ บอๆ นิดนึงในวันว่างของเรา อาจจะมีบางอย่างที่เราไม่เหมาะ เราก็เหนื่อยที่จะไปสู้กับคนนะคะ เพราะนางงามบางทีเขาก็ต้องน้อมรับ ไม่ว่าคนจะคอมเมนต์ยังไง ติยังไง ขอไปปรับตัวนะคะ ในขณะที่เราสู้ สปีดกลับได้ ก็เลยรู้สึกว่าคงจะสู้กันมัน อีกอย่างก็คือเป็นตัวของตัวเอง เดินแบบก็คือเดินช่วงแรกๆ แล้ว ถ่ายแบบแล้ว พอมาทำทีวีมันติดลมไปเลย คนก็ชอบในความเป็นตัวเรา และเป็นไวรัลเร็ว เอาตรงๆ เลยคือมันได้ตังค์ (หัวเราะ) ก็ไปสายนี้เลย”
วอนของานเดินแบบบ้าง เพราะตนรักการเป็นนางแบบที่สุด
“มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ชอบมากค่ะ แต่คนเริ่มลืมความเป็นนางแบบของเรา ที่จริงเราไม่ติดงานบันเทิงนะ เพราะชอบมาก แต่คนลืมนางแบบได้ยังไง คืออยากให้เสิร์จกูเกิ้ลแล้วขึ้นเดอะเฟซไทยแลนด์ เคยนับไหมว่ามีงานเดินแบบกี่งาน ไม่นับค่ะ เศร้า (หัวเราะ) หนูพร้อมรับงานเดินแบบมาก หนูอยากได้สิ่งนี้มาก อยากให้พี่ๆ ช่วยกระจายข่าวว่าติช่าชอบเป็นนางแบบมาก อยากให้ทุกคนช่วยกันบอกว่าติช่าอยากเดินแบบ ยังเดินแบบได้อยู่ตลอด จะเดิน จะดำน้ำ จะทำอะไรพร้อมหมดเลยค่ะ
เอาจริงๆ หนูเป็นคนที่มีความสามารถเยอะนะ ความสามารถหนูมันเยอะกว่าที่คนคิดไว้ตั้งแต่แรก หนูก็เลยได้ทำงานอื่นด้วย งานเดินแบบ งานนางแบบเป็นสิ่งที่อยู่ในใจเรา ตอนที่อยู่สวีเดนหนูส่งประวัติหนูไปทั่วประเทศเลย หนูไปถ่ายแบบฟรีมาหลายปีเลย หนูมีพอร์ตงานเยอะมาก ให้หนูทำงานเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายอะไรกับสินค้าเถอะค่ะ ขอร้องก็แล้วกันค่ะ คิดว่าที่เราไม่ค่อยได้งานเดินแบบเพราะเรื่องความสูงไหม ไม่เกี่ยว เขาคิดว่าฉันเป็นคนตลก แต่ฉันไม่ตลกนะ ฉันสวย (หัวเราะ)”
บอกรักงานเดินแบบ เพราะมันมีออร่าและมีพลังบางอย่าง
“เพื่อนๆ เดอะเฟซนะคะ ด้วยความที่เราเคยอยู่บ้านเดียวกันมา ถ้าเกิดยูไปแคส ยูไปเดินแบบก็ใส่รูปติช่าเข้าไปด้วย บอกว่าติช่าสนใจ ถือว่าช่วยกัน คือนางแบบเวลาเดินมาแล้วมันดูมีออร่า มีพลังบางอย่างที่หนูชอบเกี่ยวกับการเดินแบบ แต่เราก็เอ็นเตอร์เทนเนอะ แต่เรื่องเงิน ก็ยอมรับว่าต่างกัน อันนี้คือเรื่องจริง งานที่ทำปัจจุบันที่เกี่ยวกับบันเทิงมันได้เงินเยอะกว่าเยอะเลย
แต่มันเป็นเรื่องของ passion แต่ถามว่าเดินแบบฟรีได้ไหม ไม่ค่ะ (หัวเราะ) คือหมายถึงว่างานของคุณต้องมีมูลค่า มีคุณค่า และคุณต้องสามารถมีเงินให้เราได้ด้วย ถ้าเกิดทำฟรี หนูก็เหมือนไม่ได้เคารพงานของเขา ถ้าเกิดคนรู้ว่าติช่าเดินแบบฟรีทุกครั้ง แปลว่างานนี้ไม่ได้จ้าง ไม่มีตังค์ งานเขาดูแย่นะ นี่ไงหนูคิดไกล คนเลยอยากให้หนูเป็นนางงาม เพราะหนูคิดเร็วด้วยไง หนูเลยบอกว่างานเดินแบบที่จริงควรจ้างหนู เพราะทุกครั้งที่คุณจ้างติช่าแบรนด์คุณจะมีมูลค่า”
บอกตนไม่เหมาะกับเวทีนางงามแน่ๆ
“ถ้าหนูไปประกวดนางงาม หนูจะได้เดินแบบด้วยไหม ถ้าเกิดหนูไม่ได้ทำงานนี้อยู่ และหนูไม่ยุ่งนะ หนูว่าหนูคงไปได้ แต่มันต้องไปเตรียมตัวเยอะ แล้วหนูไม่ได้เป็นสายนั้น เลยรู้สึกว่าค่อนข้างจะห่างกับตัวเองเยอะ แต่ถ้าตั้งใจทำก็ทำได้อยู่แล้ว ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนะ แต่เป็นฟีลว่ารู้สึกว่ามันไกลตัว มันต้องปรับเยอะ ตั้งแต่การคุย การพูด สาระต่างๆ ที่จะออกมา เอาจริงๆ เวลาตอบคำถามนางงาม มันคือภาษาที่สวยงาม ช่าอาจจะตอบดีก็ได้ แต่อาจจะไม่ได้เรียงภาษาสวย หรือเป็นในทางของเขา แต่เราอาจจะตอบในทางของเรา ว่าเราคิดแบบนี้ เราอยากให้เป็นแบบนี้นะ ก็คงต้องไปฝึกและต้องเปะตลอดเวลา
ช่ารู้สึกว่านางงามที่ช่าดูและเหนื่อยแทนเขา คือต้องสวยตลอดเวลา การนั่ง การยืน ทำอะไรผิดคือมีคนคอมเมนต์แล้ว ชุดไม่สวย ทำไมวันนี้ชุดไม่ปัง ช่าก็ ห๊ะ นางงามต้องเป็นสไตลิสต์ตัวเองด้วยเหรอ หน้าก็ต้องแต่งเก่งเหมือนช่าง ช่ารู้สึกว่าต้องอยู่ในโลกที่เกิดการเปรียบเทียบตลอดเวลา และตัวเราจะเหนื่อยหรือเปล่า และเรื่องคำตอบบอกได้เลยว่าถ้าหนูจะไปจริงๆ หนูจะไปเทรนด์เรื่องคำตอบตัวเอง
ช่าไม่ได้กลัวการคอมเมนต์ แต่พี่กะเทยก็น่ากลัวนะคะ แต่เราอยากทำให้มันดี เพราะเราไม่ได้รู้สึกว่าเราทำดีขนาดนั้น เหมือนกับว่าเราเรียนได้เกรด A หนูก็ไม่อยากไปถ้าไปแล้วเราได้เกรด C เราอยากทำให้ถึงมาตรฐานนางงามที่คนคิดไว้ ถ้าคนคอมเมนต์มาหนูไม่ได้มานั่งเสียใจเลย หนูไม่มานั่งร้องไห้อยู่แล้ว เรารู้ตัวว่ายังมีอีกหลายอย่างที่มันยังไม่เหมาะ ไม่ควร ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่เหนื่อยเขานะ แต่เหนื่อยเราเหมือนกัน”
เผยเวทีนางงามมักโดนการเปรียบเทียบกันเยอะเกินไป
“เท่าที่หนูดูจะมีฝั่งนึงที่คอมเมนต์แบบสร้างสรรค์ แต่บางคนก็จะไปก่อคนด้วยการคอมเมนต์ว่าตรงนี้น่าจะไปปรับอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ช่ารู้สึกว่ามันจะมีการเปรียบเทียบกันค่อนข้างเยอะ บางอย่างมันก็เกินไป คือรู้สึกว่าคนนี้ก็น่าจะสวยที่สุดในวันของเขาแล้ว แต่พอไปยืนใกล้อีกคนที่สูงกว่า แล้วคนนี้ก็ดูจมไป มันเป็นธรรมชาติของโลกอยู่แล้วที่คนจะมองคนสูงกว่า เด่นกว่า
ช่ารู้สึกว่าต่อให้ยูไฝว้ที่สุด ยูสวยที่สุดในวันนั้นแล้ว แต่ถูกเปรียบเทียบตลอดเวลามันจะเหนื่อย แต่ช่ารู้สึกว่าถ้าไม่มีคนคอมเมนต์เลยมันจะไม่เกิดกระแสด้วย ในแบบนึงก็เข้าใจเหมือนกัน ถ้าช่าไปประกวด มันก็จะมีเสียงสองฝั่ง ฝั่งนึงก็จะบอกว่ามาประกวดทำไม ฝังนึงก็บอกว่าประกวดเลย ก็เสียงแตกอีก”