“ชิน ชินวุฒ” จับแฟนสาวพูดเรื่องเซ็กส์ ไม่ได้น่าเกลียด! เชื่อเปิดอกคุยกันเป็นผลดีต่อความรัก

“ชิน ชินวุฒ” ยอมรับแปลกใจที่ “ลิลลี่” แฟนสาวกล้าพูดเปิดใจเรื่องเซ็กส์ออกสื่อ แต่บอกไม่ได้พูดในเชิงน่าเกลียด เพราะฝ่ายหญิงเป็นคนเรียบร้อย แต่สิ่งที่ต้องการจะสื่อของเทปนี้คือการสื่อสารเพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้มากขึ้น กล้าพูดกันมากขึ้น

เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะได้เห็นสาวลุคเรียบร้อยอย่าง “ลิลลี่ ภัณฑิลา ปานสิริธนาโชติ” กล้าออกมาพูดถึงเรื่องเซ็กส์พร้อมกับแฟนหนุ่ม “ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน” ในช่อง LILI PANTIRA OFFICIAL ซึ่งหนุ่มชินก็บอกว่าปกติแล้วแฟนสาวเป็นคนไม่พูดเรื่องนี้เลย เพราะเป็นคนที่เรียบร้อยมาก

“ไม่ได้ถึงกับเปลี่ยนแนวหรอก ถ้าสังเกตดูจริงๆ ลี่เขาจะไม่กล้าพูด ไม่กล้าคุย เขาเขินจริง ไม่ได้แอ็กติ้งเลย แต่ผมว่ามันก็เป็นอีกมุมนึงที่เราได้เห็นลี่เหมือนกันนะ เพราะเรารู้ว่าเขาเป็นคนค่อนข้าง conservative (อนุรักษ์นิยม) มาก ก็ดีครับ คนก็จะได้เห็นอีกมุมนึงของเขาด้วย แล้วมันก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว แต่ผมว่าแมสเซจของคลิปนั้นก็คือให้เรากล้าที่จะคุยกัน เพื่อให้ความสัมพันธ์มันดี เพื่อที่คนจะได้เห็นว่าการเปิดการคุยกันมันส่งผลดีต่อความสัมพันธ์นะ เพราะมันทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น มีอะไรก็ปรับกันได้เลย ไม่ทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่

เราปรึกษากันมาตลอดครับ ผมกับลี่มาถึงจุดนี้เพราะเราสื่อสารกันทุกเรื่อง การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยนะในความสัมพันธ์ แต่ตอนแรกเขาก็พูดเลยว่าขอไม่พูดเยอะนะ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดก็ไม่ได้เยอะ เขาก็พูดเท่าที่เขารู้สึกโอเคที่จะพูด คือเราโตมาในบ้านที่ให้อิสระทางความคิดมากกว่า เราก็จะกล้าพูดมากกว่า แต่ตรงนี้แหละผมว่ามันเป็นข้อดี เพราะเวลาเขาคุยกับเรา เขาก็กล้าที่จะเปิดกับเรา เพราะรู้ว่าเราโอเคกับการที่ทุกคนเปิด การไปสู่สาธารณะผมว่ามันก็ไม่ได้รุนแรงอะไรนะครับ

แต่คนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ครับ ขนาดศาสนายังมีคนเห็นด้วยไม่เห็นด้วยเลย จะเอาอะไรกับเรื่องแบบนี้ แล้วผมเองกับลี่ก็อยู่ในวงการมามากพอที่จะเข้าใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แม้กระทั่งเราทำดีแค่ไหน ก็มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเหมือนกัน ลี่ก็ไม่ได้เครียดอะไรครับ ผมก็ไม่ได้เครียด ผมรู้สึกว่าถ้าเจตนาเราดีก็จบ เจตนาคือเราพยายามสื่อสารให้คนเข้าใจว่าการคุยกัน การสื่อสารกันเป็นเรื่องดี เพราะฉะนั้นที่เหลือคนจะคอมเม้นต์อะไรยังไง ก็แล้วแต่คนครับ”

ยอมรับตอนแรกที่คบกันก็ยาก เพราะคนละสไตล์เลย
“นางเขินไง นางไม่กล้าพูด นางจั๊กจี้ นางไม่กล้าพูดจริงๆ แม้แต่กับเรานางยังเขินเลย จะไปเอาอะไรกับกล้อง ขนาดเวลาเราแซวนางยังบิดเลย แต่เอาจริงๆ การที่เราเป็นคนละแนว ตอนแรกที่คบกันก็ค่อนข้างยากครับ แต่เจตนาของผมคือการพูดตรงหรืออะไร มันไม่ใช่ว่าดูก้าวร้าวหรืออะไร ทุกอย่างมันอยู่ที่เจตนาจริงๆ นะ และอยู่ที่คนเข้าใจด้วย ท้ายสุดแล้วมันอยู่ที่ความคิดมนุษย์ เราแค่อธิบายให้เขาฟังว่าจริงๆ เจตนาเราเป็นอย่างนี้นะ การพูดตรงๆ ในทุกๆ เรื่องมันคือเรามีเหตุผลแบบนี้นะ ก็จะงงๆ ตอนแรก เขาก็จะไม่เคยเจอคนแบบเรา มันก็จะมีเกราะอะไรหลายๆ อย่างที่จะต้องค่อยๆ ปรับ แต่ท้ายที่สุดถ้าเราเลือกที่จะปรับและอธิบายให้เขาฟังและเข้าใจในเจตนา เข้าใจเหตุผล ลี่เป็นคนมีเหตุผลครับ ถ้าคุยกันด้วยเหตุผล ลี่จะเข้าใจ

ถามว่ากลัวลี่ไหม ลี่เป็นคนดุครับ แต่เหตุผลที่เขาดุเพราะเขาเป็นห่วง เพราะฉะนั้นเราเข้าใจเจตนาตรงนี้ของเขาว่าทำไมเขาถึงดุ ยกตัวอย่างเขาถามว่าวันนี้กินน้ำหรือยัง เราบอกยัง เขาก็จะบอกว่าทำไมไม่กิน ออกไปข้างนอกทั้งวัน ทั้งฝุ่นด้วยอะไรด้วย เดี๋ยวสุขภาพก็จะไม่ดี เหตุผลคือเขาห่วงเรา เราก็เคารพกับการที่เขาเป็นอย่างนี้ แต่อะไรที่มันมากเกินไปผมจะพูดเหมือนกัน ไม่ได้ยอมนะ แต่จะยอมในสิ่งที่ควรยอม เราก็ดุเหมือนกัน แต่ท้ายสุดแล้วต่างคนต่างรู้เจตนาของกันและกัน ว่ามันคือความรัก ความเป็นห่วง ถามว่ากลัวไหม ก็กลัวบ้าง แต่เป็นความเข้าใจมากกว่า เวลาผมไม่ยิ้ม ผมก็จะดูอึมครึมนะ ผมก็เลยจะยิ้มตลอดเวลา ผมกับลี่เป็นคนหน้าดุทั้งคู่ครับ แต่ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะเราเข้าใจกัน”