xs
xsm
sm
md
lg

“นิวเคลียร์” หลอน ปราสาทเจ้าหญิงพัง ชีวิตแต่งงานล่ม บั้นปลายอาจอยู่คนเดียว ไม่ต้องการผู้ชายขนาดนั้น!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นิวเคลียร์” เผยเพิ่งไปทริปญี่ปุ่นกับ “เพชรจ้า” แต่แยกโรงแรม แยกกันเที่ยวชัดเจน บอกตอนนี้ยังอยู่บ้านเดียวกัน เพราะบ้านที่ตนกำลังสร้างยังไม่เสร็จ และตกลงกันไว้ว่าลูกคือจุดศูนย์กลางที่ต้องช่วยกันดูแลให้ดีที่สุด ยอมรับประสบการณ์ความรักยังน้อย ไม่พร้อมเปิดใจ ยังหลอนกับความรัก เผยกอดลูกชายร้องไห้ เจอคำถามจุกอก

เรียกว่ายังคงสถานะความเป็นพ่อและแม่ให้กับลูกชายคนเดียวอย่าง “น้องไทก้า” ได้อย่างดีมาก สำหรับคู่ของ “นิวเคลียร์ หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์” กับอดีตสามี “เพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย” ที่ล่าสุดยกครอบครัวพากันไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งได้พูดคุยเปิดใจกับสาวนิวเคลียร์ระหว่างเข้ากองซีรีส์ THE OUTING ณ มิราเซียรา เขาใหญ่ เจ้าตัวเผยว่าไปพร้อมกัน แต่แยกอยู่คนละโรงแรม แยกกันเที่ยวชัดเจน

“ก็ไปทริปกับไทก้าและพี่เพชรค่ะ มีเพื่อนๆ ไปด้วยค่ะ ไปถึงเราก็แบ่งชัดเจน นั่งเครื่องไปพร้อมกัน ไปถึงนิวพาก้าไปนอนดิสนีย์แลนด์ 3 วัน พึ่เพชรไปปาร์ตี้แฮงค์เอาต์ 3 วัน พอวันที่ 4 นิวก็เอาไทก้าไปส่งพี่เพชร พ่อเขาก็พาลูกไปเที่ยว นิวก็ไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่นิว แล้วก็กลับพร้อมกัน ถามว่าเลิกกันไปแล้ว พอมาเจอกันจะมองหน้ากันลำบากหรือเปล่า คือเรายังอยู่บ้านเดียวกันค่ะ ยังเจอกันทุกวันอยู่ ยังไม่ได้หายไปเลย แต่ถ้าหายไปเลยอันนั้นอาจจะทำตัวไม่ถูก

แต่นี่เรายังเจอกัน คุยกันเรื่องลูก ยังไปรับส่งลูกด้วยกันทุกวัน ก็เลยไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร และที่ไปทริปครั้งนี้ก็แยกกันนอนค่ะ แยกโรงแรม แยกวัน แยกไปกับครอบครัวเราชัดเจน พี่เพชรก็ไม่ได้เจอครอบครัวหนู (หัวเราะ) แค่บินพร้อมกัน บินไปบินกลับ พ่อแม่ก็บินอีกไฟลต์ด้วย ไม่ได้เจอกัน เวลามีคนเข้าไปถามในไอจี เราก็ไม่ได้พูดอะไร แต่พี่เพชรเขาเพิ่งถ่ายรายการไปในยูทิวบ์ของเขา ซึ่งมันก็มีบางวันที่เรามากินข้าวด้วยกัน 3 คน แฮงค์เอาต์ เล่นเกม กินเหล้ากันนิวกับพี่เพชร ไทก้าก็อยู่ด้วย ก็โอเคค่ะ ไม่ได้มีอะไร”

ยอมรับประสบการณ์เรื่องความรักยังน้อย
มันไม่ได้ยากที่จะยังคุยกับแฟนเก่า เพราะว่าเรามีไทก้าเป็นจุดศูนย์กลาง แต่นิวไม่เคยเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าเลยสักคนเดียว เลิกก็คือเลิกหมด ถ้าไม่มีไทก้า นิวก็ไม่ยุ่งเหมือนกัน แต่นี่มีไทก้าแล้ว เราก็ต้องจับมือกัน เป็นทีมเดียวกัน เพื่อเติมเต็มไทก้าให้ได้มากที่สุด เป้าหมายของเราคือลูก ตอนที่เราอยากมีลูกเราก็พูดแล้วว่าต้องช่วยกันเลี้ยงนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องทำให้ดีที่สุดตั้งแต่ยังไม่ท้อง จนวันนี้เราก็ทำให้ดีที่สุด เป้าหมายเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้บ้านนิวก็กำลังสร้างอยู่ค่ะ ก็คือสร้างในที่พ่อแม่นิว แต่ก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับพี่เพชรแหละ เพราะโรงเรียนลูกอยู่หน้าบ้าน อย่างที่บอกนึกถึงลูกเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้นเราก็ต้องอยู่พื้นที่ใกล้เคียงโรงเรียนลูกมากที่สุด

ไทก้าก็ไม่ได้สงสัยอะไรเลย เพราะเขาแฮปปี้กับทุกวัน มีความสุขทุกวัน ตอนอยู่กับแม่เขาก็มีความสุข อยู่กับพ่อเขาก็มีความสุข ไม่ได้รู้สึกขาดหรือมีคำถามอะไรเลย ตอนแรกก็กังวลเหมือนกัน แต่ทุกอย่างมันดำเนินไปแบบสมูท และบรรยากาศโดยรวมมันดีขึ้น ก็สบายใจ สำหรับครอบครัวเรามันอาจไม่เหมือนครอบครัวอื่น บางอย่างมันก็พูดยากนะ บางคนเขาก็มีเหตุให้ต้องเลิกกันที่มันไม่มีเหตุให้ต้องดี หรือบางคนมีบุคคลที่สาม หรือบางคนทำร้ายร่างกาย ก็แล้วแต่เคสไป แต่ของนิวเราตกลงกันด้วยดี เรามีเป้าหมายเดียวกันคือจะจับมือเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด ก็เลยอยู่ด้วยกันได้อย่างแฮปปี้”

เผยมีคนคุย แต่ไม่กล้าสานสัมพันธ์ต่อ
“คนที่จะเข้ามาทุกคนเขารู้อยู่แล้วว่าเป็นแบบนี้ และเราอยู่ในจุดที่เคยแต่งงานมาแล้ว มีลูกมาแล้ว หย่ามาแล้ว เราไม่ต้องขอให้ใครมาเข้าใจอยู่แล้ว ซึ่งบั้นปลายเราอาจจะไม่มีใครเลยก็ได้ ถ้าเกิดเขาไม่เข้าใจเราก็ไม่เป็นไร เราก็อยู่กับลูกไป เราไม่ได้ต้องการผู้ชายขนาดนั้น (หัวเราะ)​ ตอนนี้ก็มีคนคุยบ้าง แต่เราก็ยังไม่อยากที่จะมีความสัมพันธ์แบบคนรักแบบนััน  
คือเราโตมากับดิสนีย์เนอะ ก็มีภาพเจ้าหญิงเจ้าชายแต่งงานมีลูก ทุกอย่างเราเคยคิดแบบนั้น แต่พอชีวิตจริงมันเป็นแบบนี้ มันก็เหมือนพังทลาย ปราสาทเจ้าหญิงก็พังเหมือนกันนะ เราก็มองโลกความเป็นจริงมากขึ้น อะไรจะเกิดก็เกิด เราจะไม่คาดหวัง เราจะไม่วาดฝันแล้ว เรียกว่าปลง (หัวเราะ) คือเราก็เปิดรับตลอด ไม่ได้ปิดเลย มันก็ต้องมีเหงาบ้าง กับคนที่เปิดไปเมื่อปีที่แล้วก็เป็นรุ่นน้องที่คุยกัน เราก็บอกเขาแบบนี้แหละ ถ้าเขารับได้ก็โอเค ถ้ารับไม่ได้ก็คือไม่ได้ เขาก็ไปทริปญี่ปุ่นด้วย (หัวเราะ) เขาเข้ากับไทก้าได้ แต่ก็ยังไม่ได้พัฒนาอะไร”

ยอมรับยังหลอนกับความรัก
เอาจริงๆ ก็ไม่กล้ารักใครแล้ว มันหลอนนะ อนาคตอาจจะได้ แต่ตอนนี้พอเราเริ่มรู้สึกดีกับใคร เราก็อยากถอย เริ่มกลัวความสัมพันธ์ เรายังไม่พร้อม ภูมิคุ้มกันเรื่องความรักเราอาจจะน้อย เพราะที่ผ่านมาก็มีพี่เพชรมาคนเดียว คือก่อนหน้าพี่เพชรก็คือเพิ่งม.6 ใสๆ ก็มีพี่เพชรนี่แหละที่จริงจังทุกอย่าง ประสบการณ์น้อย (หัวเราะ) ก็เลยกลัวเราจะคลั่งรักเหมือนเดิม เพราะเป็นคนที่ถ้ารักใครแล้วจะเต็มแม็กซ์มากๆ กลัวตัวเองจะไปอยู่ในจุดนั้นอีกครั้ง ฉะนั้นถ้าเริ่มรู้สึกก็ขอถอยหลังออกมาหน่อย

แต่ก็มีคนเข้ามาบ้างค่ะ ถามว่าสแกนยากไหม มันก็ไม่ยาก เพราะเราพูดออกสื่อตลอดว่าเราเป็นยังไง นิวค่อนข้างชัดเจน คนที่เข้ามาเราก็ไม่ต้องมานั่งอธิบายอะไร เพราะฉะนั้นคนที่จะเข้ามาก็ไปเสิร์จกูเกิ้ลก่อนได้ แต่เราก็รู้แหละว่าคนไหนเข้ามาแบบไหน แต่เราก็ไม่ได้อยากจะอะไรอยู่แล้ว พอเราไม่ได้ไปโฟกัสกับมัน เราก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ถ้าเหงาก็หาเพื่อน ช่วงนี้ก็มีไนท์ไลฟ์กับเพื่อนบ้าง ก็จะรวมแก๊งสาวๆ เลดี้ไนท์ ส่วนที่เคยสัมภาษณ์ว่านนกุลเป็นสเปก  หมายถึงเราชอบพระเอกซีรีส์เรื่องนึง แล้วหน้าเขาเหมือน (หัวเราะ) เหมือนพระรองในเรื่องที่เราดู ซึ่งเขาก็รู้แหละ”

แอบตกใจ “ไทก้า” เริ่มโต ยิ่งมีคำถามอะไรที่แปลกๆ
“เขารู้เยอะมากเลยนะ วันก่อนอยู่ๆ เขาก็ถามว่าหม่ามี๊คนเราตายแล้วไปไหน มันเป็นคำถามที่ตอบยากนะ แล้วก็ถามว่าทำไมก้าถึงเกิดมาเป็นลูกหม่ามี๊ แล้วถ้าวันนึงหม่ามี๊ไม่อยู่แล้วก้าจะอยู่ยังไง แล้วเขาก็พูดตอนจบว่าถึงหม่ามี๊จะตายไป แต่ก็จะอยู่ในใจก้าตลอดนะ โอ้โห นี่ก็นั่งร้องไห้ นางก็เบะ แล้วก็กอดกัน คือ 4 ขวบคิดอะไรแบบนี้ได้ยังไง บางอันเราก็ตอบได้ บางอันเราก็ไม่อยากจะตอบ เราขอไปหาคำตอบก่อน เพราะเรารู้ว่าถ้าเราพูดไป คำพูดของแม่เขาก็จะจำ

แล้วเขาก็ถามเยอะมาก คำถามเขายากกว่าตอบนักข่าวอีก (หัวเราะ) อย่างที่เขาถามว่าตายแล้วไปไหน เราก็ตอบเขาว่าหม่ามี๊ก็จะอยู่กับไทก้านี่แหละ ไม่ได้หายไปไหน จะดูก้าอยู่เสมอ แล้วมีถามว่าคนเราเกิดมาทำไมด้วย อันนี้เราตอบไม่ได้ พอมีวันนึงได้ไปเจอแพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ก็เลยถามเขา นางก็บอกว่าคนเราเกิดมาเพื่อสร้างความงดงามให้กับโลกใบนี้ โอ้โหเฉียบมาก ก็เลยเอาคำตอบไปบอกลูก”

บอกไม่เคยคาดหวังกับลูก ขอแค่เป็นคนดีก็พอ
“สิ่งที่ห้ามลูกก็เรื่องทำร้ายร่างกายนี่แหละ คือมันก็มีเคสในโรงเรียนที่ทำร้ายร่างกายกัน เราก็กลัวว่าลูกเราจะโดนทำร้ายไหม หรือจะไปทำร้ายใครไหมมากกว่า แต่พ่อเขาจะสอนอีกแบบนึง คือพ่อเขาเติบโตมาในโรงเรียนชายล้วน ก็จะบอกว่าให้ปกป้องตัวเอง บางทีถ้าเราทำตัวไม่สู้คนก็จะเป็นฝ่ายโดนรังแก

แต่นิวก็จะสอนอีกแบบว่าถ้าเขามาทำ เราถึงจะป้องกันตัว แต่ไม่ใช่ว่าเราไปทำร้ายเขาก่อน พอเขาทำปุ๊บเราไปบอกครู แต่ถ้ามันยังทำอีก อันนั้นแหละค่อยสู้เลย แม่ไม่ห้ามและอย่าแพ้นะ (หัวเราะ) ไม่คาดหวังอะไรกับลูกเลย ให้เขาเป็นคนดี ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการและมีความสุข ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแค่นั้นพอ ไม่ต้องเป็นหมอ ไม่ต้องเรียนเก่ง แค่ให้เขามีความสุขก็พอ”



















กำลังโหลดความคิดเห็น