“นารา เครปกะเทย” ใช้หนี้ได้แล้ว 3 เปอร์เซ็นต์ รับเอาเงินไปหมุน แต่คนซื้อก็รู้อยู่แล้ว ลั่นติดคุกได้แต่ไม่อยากเข้าคุก จะทำทุกทาง พ้ออยากกลับไปมีเพื่อน เขาเอือมเราแล้ว จากนี้ไม่อยากเป็นนารา เครปกะเทย อีกแล้ว อยากเป็นตัวแม่ เจ้าของแบรนด์ นักธุรกิจ วอนคิดในสิ่งดีๆ ที่เคยสร้างบ้าง ก่อนเผยจุดเริ่มต้นกล่องสุ่มจนพลาด เพราะไม่มีงานจ้าง หลังโดนไป 7 คดี ยกมือไหว้ขอโอกาส อย่าเพิ่งแจ้งความ อุดหนุนหนูหน่อย
หลังจากที่ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์”ประธานเครือข่าย ทนายคลายทุกข์ พา “นายอนิวัต ประทุมถิ่น” หรือ “นารา เครปกะเทย”เน็ตไอดอลชื่อดัง ยื่นหนังสือขอให้ช่วยไกล่เกลี่ยเจ้าหนี้กว่า 100 ราย ที่กระทรวงยุติธรรม จากการทำกล่องสุ่ม และเปิดบิลหลายล้าน โดยนารา ก็ได้เผยว่าตนเอาเงินไปหมุน แต่คนซื้อต้องรู้อยู่แล้ว ถ้าบอกว่าไม่รู้เป็นไปไม่ได้ ไม่ได้คิดจะโกง เรื่องเกิดขึ้นเพราะมีคนนึงที่ได้ไป 7-8 หมื่นแล้ว แต่ครั้งนี้กลับไม่ได้ กลับรอไม่ได้ ก็เลยเกิดเรื่องราว ทุกอย่างชะงัก คนกรูมาขอเงินทีเดียว 500 กว่าคน ก็ทำให้ล้ม
"ตอนนี้ก็ท้อ แต่ท้อไม่ได้ อยากจะหลับไปเลย อยากจะนอนไปเลย มันทำอะไรไม่ได้เลย สภาพจิตใจตอนนี้แย่ไปหมด แต่ว่าต้องสู้ ต่อให้ข้างในมันแย่แค่ไหน แต่ข้างนอกต้องสู้ ต้องทำ แล้วต้องแข็งแกร่งกว่าเดิม ถามว่าหนักเกินกว่าเด็กอายุ 23 ปีไหม โอ้ย หนักที่สุด พลาดที่สุด ไม่โทษใคร โทษตัวเอง ทำไปได้ยังไงวะ มันพลาดไปได้ยังไงวะ หนูถึงอยากเตือนน้องๆ ทุกคนว่าก่อนทำอะไรคิดดีๆ ดูพี่เป็นประสบการณ์เลย สุดท้ายไม่เหลือใคร
ไม่ต้องโทษใครนะ โทษตัวเราเองนี่แหละ ว่าเราไม่เหลือใคร ไม่เหลือทุกสิ่งทุกอย่าง มันพลาดไปแล้ว แต่น้องอย่าลืมว่าอีกอย่างที่เราเหลือคือครอบครัวของเรา ยังเหลือตัวเรา เราพลาดเราแก้ไข แต่อย่าทำเหมือนพี่เลย มันเหนื่อยมาก มันท้อมากในสิ่งที่เราต้องหาเงินคืนทุกวัน ในสิ่งที่เราต้องโดนคนอื่นด่า เจ้าหนี้ด่า เราต้องยอมรับในสิ่งที่เราทำแค่นั้นเอง
แต่มีใครบ้างล่ะ ที่อยากเกิดมาแล้วโดนด่า มีใครบ้างล่ะเกิดมาแล้วต้องลำบาก ต้องหาเงินหลักแสนทุกวัน ต้องมานั่งทุกข์ใจ ไม่มีใครอยากทำ ทุกคนเลือกอยากมีความสุขอยู่แล้ว ฉะนั้นจะทำอะไรให้คิดดีๆ ให้เอาบทเรียนของพี่เป็นตัวอย่างในครั้งนี้"
เอาเงินไปหมุนจริง คนซื้อต้องรู้อยู่แล้ว
"ถามว่าเอาเงินไปทำอะไร ก็เอาไปหมุนๆ แหละ เราขายอยู่แล้ว ทุกคนอ่านโพสต์อยู่แล้ว รู้อยู่แล้วว่ามึงเอาไปหมุน คนซื้อต้องรู้อยู่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนซื้อไม่รู้ ถามว่าเอาไปไหนเหรอแม่ ก็เอาจากตรงนี้ไปจ่ายตรงโน้น เขาได้กำไร จนมันเป็นงูกินหาง เขารู้อยู่แล้ว ฉะนั้นวันที่เกิดเรื่องเขาเอ็นดูเรา เพราะลูกค้ารู้อยู่แล้วว่ามันคือเงินหมุน ถ้าพูดว่าไม่รู้เป็นไปไม่ได้ เขาให้โอกาสเรา เอ็นดูเรา เขาให้เวลาเราแล้วสำหรับลูกค้ากล่องสุ่ม เขายอมให้เราเอาไปหมุน เขายอมเราได้ เขาให้โอกาสเรา เขาเอ็นดูเรา ทำไมเราเอาเงินเขาที่เอาไปหมุนคืนเขาไม่ได้ เราต้องคืนเขาได้สิ เขายอมเรามาแล้ว เขาให้โอกาสเราแล้ว"
จุดเริ่มต้นทำกล่องสุ่ม เพราะโดน 7 คดี ไม่มีงาน
"การไม่มีงาน โดนคดีทั้งหมด 7 คดี สิ่งที่ต้องประกันตัวเอง หนูตัวคนเดียว ใช้เงินประกันตัวเอง ใช้เงินค่าทนาย หลายสิ่ง ทั้งภาระหลายอย่างที่เราเริ่มทำกล่องสุ่มขึ้นมา แต่เดิมเราขายของของเราอยู่แล้ว พอเกิดเรื่องก็เกิดภาวะที่เราต้องใช้เงิน แต่ครั้งที่โดนคดีมากๆ คนเห็นคดีหนูอยู่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพราะบางคดีทนายไม่กล้ารับ หรือบางคดีเราต้องใช้เงินประกันตัวสูง เราจะหายังไงได้ เราก็ขายกล่องสุ่มขึ้นมา ลูกค้าก็สนใจ เราก็ไม่ได้คิดว่าเราจะโกง เราก็คิดว่าเราต้องหามาคืนได้ เพราะเวลาเปิดบิลขายของเราก็เอาเงินไปลงทุน ได้กำไรมา บางครั้งหาเงินคืน 10 คนได้ แต่เป็นเงินที่ได้จากการเอาเงินขายของ เอาเงินมาคืนให้เขาได้ เราทำเรื่อยๆ โดยตลอด จนไม่มีปัญหาอะไร
แต่มีคนนึงที่เขาได้จากเราไปแล้ว ได้ไป 7-8 หมื่นแล้ว แต่พอครั้งนี้เขาไม่ได้ แต่เขาได้เงินทุนไปแล้ว เท่ากับเขาไม่เสียหายอะไรเลย แค่ครั้งนี้คุณไม่ได้ แต่คุณได้เงินทุนคืนไปนี่ คุณกลับรอไม่ได้ ก็เลยเกิดเรื่องเกิดราว ทุกอย่างชะงัก หยุด ทำให้คนกรูมาขอเงินหนูทีเดียว 500 กว่าคน ก็เลยเกิดการล้มจากที่เราทำอยู่ดีๆ เพราะเขาขาดความเชื่อใจแล้วว่ากูจะได้หรือไม่ได้
เราก็นั่งจับมือคุยกันว่าแม่หนูขอเวลานะ หนูขอโอกาสนะ รอบแรกก็คืนได้จาก 500 กว่าคน เหลือ 98 คน และ 98 คนก็ให้เวลาอยู่ หนูก็เชื่อว่าหลังจากนี้หนูได้ประสบการณ์แล้วได้ทีมหลังบ้านมาใหม่ ได้โอกาสใหม่ 52 ล้าน หรือหนี้ 12 ล้าน แป๊บเดียวเราก็หาได้ แค่เราไม่สร้างหน้าเพิ่ม หยุดในสิ่งไม่ควรทำ
ใช้สติมากขึ้น มีทีมหลังบ้านที่แข็งแรง ทำแบรนด์อะไรก็ได้ เจ้าของแบรนด์รวยกี่คน เขารวยได้ หนูก็ต้องทำได้เหมือนกัน
ไม่ใช่หนูคนเดียวที่มีหนี้ 50 ล้าน จมแล้วก็จมเลย บางคนมีหนี้พันล้านร้อยล้านเขายังกลับมายืนได้อยู่เลย ฉะนั้นขอแค่เวลา ถ้าวันนี้หนูติดคุกไปแล้วจบ ถามว่าอยู่คุกได้ไหมอยู่ได้แต่ไม่อยากอยู่ ไม่มีใครอยากติดคุก เพราะครอบครัวหนูก็ยังมีอยู่ หนูขอแค่เวลาเท่านั้นเอง จอโอกาสเจ้าหนี้ให้ได้ทำมาหากิน ไม่ได้ขอโอกาสไปเป็นนารา เครปกะเทย เป็นไปไม่ได้แล้ว มันหยุดแล้ว แต่ขอโอกาสจากเจ้าหนี้หนูให้หนูได้ทำมาหากินหน่อยให้หนูวางแผนใหม่หน่อย แป๊บเดียวเท่านั้นแหละหนูจะกลับมายืนได้
รับคนไม่กล้าซื้อของเพราะขาดความเชื่อใจ
"ไม่ต้องกลัวเลย มันเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน อย่างในระบบติ๊กต๊อกของขายไม่ได้ จากขายได้ 6 พันออเดอร์ 2-3 พันออเดอร์ขึ้ ตอนนี้เหลือแค่หลักร้อย สื่อต้องช่วยแล้ว การขายของในติ๊กต๊อก เราไม่ได้เอาเงินไปหมุน ถ้าในติ๊กต๊อกเราขายจะได้เงินมาจนกว่าของถึงมือลูกค้า ถ้าของไม่ถึงมือลูกค้าเราไม่ได้เลย ลูกค้าได้ของไปในสิ่งที่สั่ง ตอนนั้นเงินถึงจะเข้ามาหาหนูภายใน 14 วัน ยิ่งหนูขายของได้เยอะหนูใช้หนี้ได้เยอะ ของหนูทุกอย่างมีคุณภาพ มีอย. ถูกต้องทุกอย่าง หนูถึงบอกว่าลูกค้าไม่ต้องกลัวนะ สั่งของไปต้องได้สิ มันไม่ใช่กล่องนั้น ซึ่งกล่องนั้นเราพูดตลอดเวลาว่าถ้า 30 วันคุณรอได้ก็โอเค แต่อันนี้เราพร้อมส่งเลย เป็นระบบของติ๊กต๊อกเลย ถ้าเราไม่ส่ง เราไลฟ์ขายไม่ได้เลยนะถ้าไม่ส่งติ๊กต๊อกปิดช่องหนูเลยนะ อันนี้ซื้อหนูเถอะ ไหว้ลูกค้าเลยนะ (ยกมือไหว้) ให้หนูได้ไปต่อ ถ้าหนูขายของดีหรืออะไรก็ตาม นารา เครปกะเทย อาจกลับมาอีกครั้งนึง แม่ลองคิดในสิ่งที่หนูเคยทำบ้างสิ ลองคิดในสิ่งที่หนูเคยสร้างบ้างสิ หนูทำประโยชน์ได้หลายอย่าง ตอนนี้หนูรู้แล้วอะไรควรทำไม่ควรทำ ครั้งนี้จะกลับมาเป็นนารา เครปกะเทยที่ไม่ได้มีชื่อเสียงแล้ว แต่จะเป็นนาราที่มีความคิดที่ดีมากขึ้นและช่วยคนเหลือใครได้หลายๆ คนในสิ่งที่เขาผิดพลาด"
แผนสำรอง ใช้ความคิดสร้างคนใหม่ขึ้นมา
"(หัวเราะ) คิดไว้แล้ว หนูจะทำทุกอย่างที่ให้ได้เงิน ไม่รู้ (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ หนูได้ถามผู้ใหญ่คนนึง เขาบอกว่าถ้าหนูขายของไม่ได้ เราก็อย่าออกหน้า อยู่หลังบ้าน ใช้ความคิดของเราสร้างคนใหม่ขึ้นมา นี่เป็นแผนสองของหนู ติ๊กต๊อกสร้างได้หลายช่องก็ให้เด็กไปขายสิ สัก 7 ช่อง ทุกวันนี้หนูยังขายได้ 200 ออเดอร์เลย 200 ออเดอร์คือ 6 หมื่น ลองเอา 6 หมื่นคูณ 7 สิ ได้กี่แสนโดยเราไม่ต้องออกหน้าก็เป็นไปได้ เพราะเราสร้างความน่าเชื่อถือให้คนอื่นได้ อย่างหนูคิดว่าจะไปขายป้ายทะเบียน หรือเป็นนายหน้าหาที่ขายอย่างนี้ได้เงินก้อนมา
ทำทุกทางไม่ยอมติดคุก ไม่อยากติดคุก ไม่อยากเข้าไปในคุก ไม่อยากฆ่าตัวตาย อยากสู้ให้ถึงที่สุด แผนสำรองแผนสองคือทำโดยเราไม่ได้ใช้ชื่อเสียงในโลกโซเชียล ยังมีหลายธุรกิจที่สามารถได้เงินก้อนใหญ่มาโดยไม่ใช้ชื่อเสียงในโซเชียลก็ได้ เป็นงานสุจริตนะ ก็ขอโอกาสจากผู้ใหญ่ด้วย เผื่อมีแนวทาง เอาของ เอาเครดิตมาขายของก่อน หนูก็ทักไปหาพี่พิมรี่พาย แต่เขาไม่ได้ตอบนะ แม่หนูขอรับของมาขายได้ไหม เราหาทุกช่องทาง เอาของมาขายก่อนนะ เผื่อได้ราคาส่ง หรือผู้ใหญ่เอ็นดู ก็เอามาสร้างเครดิตก่อน หรือโรงงานขนม ก็ทำขนมมาให้หนูก่อนเลย แล้ว 14 วันก็เอามาใช้ ใครช่วยหนูได้ก็ช่วยหนูหน่อยนะ ไม่ต้องช่วยเรื่องเงิน ช่วยในเรื่องความคิด ประสบการณ์ โอกาสที่อยากจ้างงาน ให้ไปทำงานอะไรก็ได้ คิดคอนเทนต์ให้ก็ได้ หนูก็ทำ หนูก็สู้"
เผยสิ่งที่อยากกลับไปแก้ไข
"สิ่งที่อยากกลับไปแก้ไขคือคำพูด อารมณ์ สุดท้ายไม่เหลือใคร เราไม่โทษใคร เราโทษตัวเอง เราต้องแก้ ต้องทำ สองความอยากมีอยากเป็นเหมือนคนอื่นที่ต้องแก้ สุดท้ายอันไหนควรมีหรือไม่ควรมี ควรแก้ตรงนี้ และสิ่งที่อยากทำมากที่สุดนั่นก็คืออยากกลับไปมีเพื่อนเหมือนเดิม ทุกวันนี้ไม่มีใคร เขาเอือมเราแล้ว ผิดที่เราเองแหละ แต่ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ ดูอยู่ หนูอยากบอกว่าหนูคิดถึงนะ เชื่อว่ากลับไปแก้ไข หมดหนี้หมดสิน เขาก็พร้อมให้เรากลับมา เพราะเราพิสูจน์แล้วว่าเราแก้ไข คนเราไม่เกลียดกันตลอดหรอก หนูเข้าใจเลย ดูสิ ใครจะอยากมาคบ เรารู้ตัว แต่พอเราแก้ไขได้ เขาก็ทักมานะ จากคนที่เขาบอกว่าทะเลาะกัน เขาให้เรายืมเงิน 5 แสน คือพี่มิกซ์ เฉลิมศรี แต่อีกคนพูดไม่ได้ อีกคนให้มา 5 แสน ก็ได้ใช้หนี้คน เราขอเลย เขาก็โอนเลยแป๊บเดียว ตั้งแต่เกิดเรื่องยืมได้ 5 คน พี่มิกซ์ คนรู้จักพี่มิกซ์ พี่มีน พี่บูม และแม่ตัวเอง 5 คนเท่านั้น นอกนั้นหาเองหมดเลย เขาไม่พูดไม่ถาม เขาเข้าใจว่าคืออะไร เขาให้โดยไม่พูดอะไร เอาเลขบัญชีมาก็จบ ซึ้งใจที่สุดแล้ว ไม่กล้ากลับไปเจอหน้าเขาแล้ว จะกลับไปอีกทีวันที่เราคืนเงิน และเราพร้อมทุกอย่าง เรื่องเพื่อนเราเคยเสียใจครั้งนึงแล้ว เราทบทวนตัวเองมันเกิดจากเรา เสียใจว่าทำไมเราทำตัวเองเป็นแบบนี้ จากมีความสุขดีๆ อยู่แล้ว ก็โทษโทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเอง ก็เริ่มใหม่ เชื่อว่าวันที่หมดหนี้สิน หนูสามารถทำให้หลายคนรู้เลยว่าอันไหนควรทำ ไม่ควรทำ
ใช้หนี้ได้แล้ว 3 เปอร์เซ็นต์
"ตอนนี้ผู้เสียหายเยอะ เพราะเปิดบิล 500 บาท ใครๆ ก็อยากเปิดบิล 1,500 บาท ก็ร้อยกว่าคนแล้ว เราพยายามปิดยอดเล็กๆ แต่ก็เฉลี่ยๆ ยอดหลักแสนก็มี แต่ไม่เหมือนกล่องสุ่ม 2 ล้านบ้าง 3 ล้านบ้าง เพราะเห็นกำไรเยอะไงแม่ ก็เลยอัดๆ กันมา แต่เปิดบิล 200 300 500 มันก็เลยดูเยอะ เปิดบิลเริ่มเคลียร์ เพราะปัญหาคนจำนวนมากจะคืนเงินยังไง ตอนนี้ใช้หนี้ไปหลายคน เราต้องผ่อนแบ่งงวดให้ได้ถัวๆ เท่ากัน ตอนนี้ถ้าเป็นหนี้ 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้หนี้ได้แล้ว 3 เปอร์เซ็นต์"
เป็นนาราคนใหม่ ไม่ใช้ชีวิตวนลูปแล้ว
"ตอนนี้เป็นนาราคนใหม่ คิดดี คิดใหม่ ทำใหม่ ไม่ทำอะไรอันเดิม ตอนนี้โซเชียลบอกว่าวนลูปเป็นแบบเดิม ใช่ เมื่อก่อนเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้เจอปัญหาครั้งที่ใหญ่ที่สุด เจอปัญหาหลายคนมาก มันไม่ได้แล้ว ด่าอะไรเราก็ยอมรับหมดแล้ว เห็นหน้าตัวเองในติ๊กต๊อกก็เลื่อนเลย ไม่ดู ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ออกเลย แล้วก็ฮีลใจ พยายามไม่อ่านคำด่า คนด่าพอวันนึงได้ดีเขาก็ชมเรา ก็เป็นธรรมดาโลกโซเชียล ฉะนั้นพิสูจน์ให้เขาเห็นพอ วันนี้ล้มโดนด่า ล้มก็วนลูปโดนด่าเหมือนเดิม หนูคิดได้ตั้งแต่โดนคดีครั้งแรกอยู่แล้ว แต่เรายังแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด ปัญหาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหาที่หนักเกินกว่าเด็กคนนี้จะรับได้ คิดได้เมื่อสายไปแล้ว แต่ก็สามารถแก้ได้ ไม่เป็นไร เราก็ทำให้เขาเห็นก็พอ
ส่วนที่บอกว่าเราติดการพนัน พูดตรงๆ ไม่แอ๊บ เราเคยโดนข้อหารีวิวเว็บพนัน เรารู้อยู่แล้วว่าเว็บพนันเล่นแล้วได้ไหม จะโง่ไปเล่นทำไม นึกออกไหม ไม่มีแน่นอน บัญชีม้า คริปโตร้อยล้าน ถ้ามีร้อยล้านหนูใช้ไปหมดแล้วไม่ให้คนมานั่งด่าเรา เหนื่อยไลฟ์สด ไม่เอาหรอก วันนี้หนูก็นั่งใช้หนี้ เริ่มชีวิตใหม่
เราเคยมาจากศูนย์ เรายังมาได้ วันนี้ก็กลับไปเป็นนารา เครปกะเทยได้อีกครั้ง อาจจะไม่ดีเท่าเดิม อาจจะแย่กว่าเดิม หรือสูงกว่าเดิม เราไม่รู้ ขอให้เริ่มใหม่ ขอเวลาให้ได้ใช้หนี้ให้หมด"
อยากเป็นนาราตัวแม่ ไม่เป็นนาราคนเดิม
"ไม่อยากเป็นนาราคนเดิม อยากเป็นตัวแม่ใช้หนี้หมดแล้วสง่าเป็นนักธุรกิจ เป็นเจ้าของแบรนด์ที่ฉันเคยล้ม ติดหนี้เพราะอะไร เราก็อยากออกเบื้องหน้า แต่คิดว่าสุดท้ายเราอยากเป็นเจ้าของแบรนด์ นักธุรกิจที่เคยล้ม เคยผิดพลาด วันนี้หนูมีข้างหลังบ้านแข็งแรงแล้ว คอยดูสิว่าหนูจะทำได้ไหม”
ย้ำล้มเพราะไม่มีใครจ้างงาน พลาดแจกเงินเอาแต่คอนเทนต์ชื่อเสียง
"ตอนที่เรามีเงินไปแจกคนอื่น ตอนนั้นเรามีสปอนเซอร์ค่าตัวก็เรียกได้ แต่มาล้มทำกล่องสุ่มเพราะเราไม่มีใครจ้างงาน ตอนจ้างงานตอนนั้นไม่ได้เก็บเงินเลย เราให้แต่คอนเทนต์ชื่อเสียง แต่ไม่มีหลังบ้านที่ดี ถ้ามีหลังบ้านที่ดี คลิปนึงจ้างเธอแสนนึง เธอก็ต้องเก็บสิ อีนี่ใช้อย่างเดียวเลย เหมาค่ะ หนูเหมา ก็โอเค พังเพราะไม่มีระบบการวางแผนแค่นั้นเองเอาได้กลับมาแค่ชื่อเสียง คนรักเรา แต่เราไม่ได้กลับมาเลยคือเงินเก็บ แค่นั้น
(ตอนแจกเงินคนชมเยอะ ตอนนี้คนด่าแทนแล้ว เสียใจ?) ในใจเสียใจอยู่แล้ว แต่เราพูดอะไรได้ เราต้องลุกขึ้นสู้ แก้ไข ทำใหม่ เริ่มใหม่สินารา ใครช่วยมึงไม่ได้แล้ว มึงทำตัวมึงเอง มึงไปขอโอกาสใครเขาไม่ให้แล้ว 4-5 ครั้งแล้ว ก็แก้เอาเองนะลูกนะ แต่ก็ยังมีคนให้กำลังใจเราอยู่ แค่พิสูจน์ให้เขาเห็น หนูขายความจริงใจ หนูติดหนี้ เหลือเงินก้อนสุดท้าย จะบินไปต่างประเทศก็ได้ ไม่ต้องพุดอังกฤษเก่งก็ได้ เรามีคอนแท็กไปอยู่ต่างประเทศสบายใจก็ได้ แต่เราเลือกไม่ทำ เราเลือกใช้ความจริงใจอยู่ที่นี่ ใช้หนี้ใช้สินขอใช้ความรู้สึกความซื่อสัตย์ต่อเจ้าหนี้ของเรา ใช้หนี้สินให้หมด ตัวนี้จะพิสูจน์ว่าความจริงใจที่นารามี ที่อีนาราผิดพลาด จะเริ่มต้นใหม่อย่างสวยงาม และเป็นประสบการณ์ให้เด็กๆ ได้"
โซเชียลสร้างได้ ก็ทำลายได้
"โซเชียลทำให้เรามีได้ ก็ทำให้เราดับได้เหมือนกัน เหมือนคำที่ว่าแม่สร้างขวัญได้ ก็ทำลายขวัญได้เหมือนกัน (หัวเราะ) ธรรมดาค่ะ จริงๆ ไม่ต้องสนใจมากมาย เราทำตัวเราให้ดีก็พอ วันนึงที่เราได้ดีเขาก็ชมเรา วันนึงเราโดนด่าเขาก็เหยียบเราให้ล้ม เพราะสังคมตอนนี้พูดตรงๆ จากตัวหนูเลย ใครล้ม 70 เปอร์เซ็นต์ เขาพร้อมเหยียบย่ำกับความรู้สึกเรา เราได้ดี 90 เปอร์เซ็นต์คือการอวยยศ การชม อีก 10 เปอร์เซ็นต์คือการหาข้อผิดพลาดของเราเพื่อทำให้เราล้ม นี่คือโลกโซเชียล อยู่ที่ว่าเราแข็งแกร่งแค่ไหน จะสู้ได้แค่ไหน สุดท้ายโซเชียลเสพมันดีๆ เราก็ได้ดี แต่อย่าพลาดแค่นั้นเอง อย่ามีจุดบอด ทำดีๆ คิดก่อนทำก็จบแล้ว
วันนี้ขอโอกาสจากโซเชียล ไม่ได้ขอกลับไปเป็นนารา ขอเถอะ ขอเวลา ขออย่าไปแจ้งความนะแม่นะ กลัวมากไม่รู้มารวบตึงวันไหน อยู่ในคุกอยู่ได้แต่มันละอายใจ เพราะสมบัติข้างนอกไม่มีแล้ว เข้าไปในคุกเราอาจลำบาก แต่เราไม่อยากไปอยู่ไง เราอยากขอโอกาส ขอเวลาให่ได้คิด ได้ทำหน่อย ให้สุดตัวจริงๆ ค่อยยอม แผนหนึ่ง แผนสองทำไม่ได้แล้วก็ค่อยยอม ก็ซื้อหนูหน่อยนะติ๊กต๊อก 3 ช่อง อย่าคิดว่าไม่ได้ ต้องได้ อย่าฟังจากคนอื่น ฟังจากปากหนูนะ ของหนูดี อร่อย คุณภาพดี มาอุดหนุหนูหน่อยนะ อย่าคิดว่าไม่ได้ ของได้แน่ๆ อยู่แล้ว ช่วยหนูหน่อย ไหว้ล่ะ (ยกมือไหว้)"