“ริว อาทิตย์” ปัดมีปัญหากับ “หนุ่ม กรรชัย” โพสต์อยากเจอเพราะอยากให้พระสมเด็จฯ อุบตอบประเด็นซื้อรถมือสอง ขอเป็นเรื่องส่วนตัว ยังไม่ได้กลับไปขายของ เพราะไปถ่ายรายการท่องเที่ยวของตัวเอง พร้อมรับงานจริงจังไหม ให้ทุกคนเป็นฝ่ายตัดสิน ว่าดูมีสติและพูดรู้เรื่องหรือยัง
หลังนักแสดงยุค 90 “ริว อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์” ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” จนถูกเข้าใจผิดว่ามีปัญหากัน ล่าสุดวันนี้ (14 มี.ค.) เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจเคลียร์ถึงประเด็นนี้ พร้อมอัปเดตชีวิตหลังได้กลับเข้ามาในวงการบันเทิงอีกครั้ง ว่ามีงานติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“จริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยครับ คือประมาณว่าผมเคยไปหาพี่หนุ่ม ที่ช่อง 3 ไปหาอยู่ประมาณ 2 ครั้ง แต่ไม่มีโอกาสได้เจอ ซึ่งผมตั้งใจจะเอาพระสมเด็จฯ ไปให้ เพราะผมอยากจะเจอกับผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการบันเทิง แต่ด้วยความที่พี่หนุ่มเขายุ่งกับการทำงาน เราก็เลยยังไม่มีโอกาสได้เจอกัน และพวกเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันด้วยครับ สำหรับข้อความที่ผมโพสต์ไปแบบนั้น มันอารมณ์เหมือนเราเป็นคนรู้จักกันครับ มาเลยตัวต่อตัว กินกาแฟกันเดี๋ยวเลี้ยง ประมาณนี้ครับ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอเลย ยังไม่ได้เจอเลยครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่พี่หนุ่ม เพราะเท่าที่ทราบมาช่วงพี่เขาก็ทำงานหนัก”
ยืนยันไม่มีปัญหากัน จนต้องโพสต์ระบาย
“ไม่มีครับ ผมกับพี่หนุ่มเราไม่เคยมีปัญหากัน และเราก็ยังเคยร่วมงานกันด้วย (เจตนาเราแค่ตั้งใจจะนำพระไปมอบให้?) ใช่ครับ ตั้งแต่ผมสึกออกมา ผมก็เตรียมพระไว้ให้พี่นะครับ คิดถึง”
บอกชื่อเสียงกลับมาไม่ง่าย แต่กลับมาได้เพราะกำลังใจจากทุกคน ที่เปิดโอกาสให้มาทำงาน
“หลังจากที่ได้เปิดเผยชีวิต ที่ยังไม่มีใครเคยรู้ว่าผมทำอะไรบ้าง หลังจากที่บวช หรือเข้าไปเกี่ยวกับธรรมะ มันก็ทำให้ผมมีความรู้สึกหนึ่ง ใครๆ ก็ทราบดีว่าผมเคยเข้ารักษาไบโพลาร์ ที่โรงพยาบาลจิตเวช ปรากฎว่าธรรมะช่วยจิตใจผมได้เยอะ หนึ่งทำให้ผมไม่ต้องไปคิดวุ่นวายกับทางโลก สองผมได้เข้าใจในหลักธรรมะแล้วก็การปฏิบัติที่ทำให้เราอยู่กับธรรมชาติ เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดว่าควรจะใช้ชีวิตแบบไหน ควรจะหลีกเลี่ยงเส้นทางไหนที่เราเคยเดินกันมา แล้วทำให้ชีวิตเราแย่ลง มันเท่ากับว่าทำให้ผมมีสติมากขึ้น
เลยเป็นที่มาที่ไป ที่ผมไปมีชีวิตส่วนตัวที่ไม่ต้องการชื่อเสียง อยู่เงียบๆ อยู่แบบธรรมชาติ พอขึ้นกรุงเทพฯ มา ก็มาค้าขาย ไม่ได้จะมาทำธุรกิจอะไรใหญ่โตเหมือนเมื่อก่อน คิดว่าทำเพื่อส่วนตัว วันหนึ่ง 2-3 ร้อยก็พอแล้ว แต่คิดว่าถ้าเราเอาชื่อเสียงของเรามาใช้ให้เป็นประโยชน์ หรือถ้ามีโครงการอะไรให้ร่วม แล้วมีประโยชน์ต่อสังคม ผมก็ยินดีไปช่วยไม่ว่าจะน้ำท่วม หรือรณรงค์เพื่อคนยากลำบาก ผมยินดีอยู่แล้ว ในเรื่องการทำบุญ หรือการเป็นหัวเรือในการช่วยเหลือสัมคม ผมอยากทำ เพราะชื่อเสียงครั้งนี้ ก็ไม่ได้คิดว่ากลับมาง่าย แต่ว่าก็กลับมาได้จากกำลังใจของทุกคนที่ส่งมา และเปิดโอกาสให้ผมได้มาทำงาน ได้มาพบปะกับแฟนคลับที่เคยชมละคร”
เผยความรู้สึกหลังหวนคืนเข้าวงการ
“ถามว่าตื่นเต้นไหม ช่วงแรกอาจจะเครียดนิดหน่อย เพราะว่ามันทำให้เราไปไหนมาไหน คนก็จำได้อีก มีแต่คนขอถ่ายรูป หลายคนจำหน้าผมได้แล้ว ถึงแม้ว่าผมยังไม่ขึ้น ยังสั้นอยู่ เพราะชอบบวชตัวเอง”
มีงานติดต่อมา ทั้งละคร หนัง และงานเพลง อยู่ระหว่างการพูดคุย ว่าอยากเดินทางไหน
“ถามว่ามีติดต่อมาไหม ก็อยู่ระหว่างการพูดคุยครับว่าตัวผมอยากเดินทางไหน เล่นละคร เล่นหนัง ก็มีคนพยายามปรับบทให้เข้ากับตัวผม ณ ปัจจุบัน หมายถึงว่าให้ผมไปเล่นเป็นนักเรียนเหมือนเมื่อก่อนคงไม่ใช่แล้ว มันก็ตามวัยแล้ว ปีนี้ผมอายุ 44 ย่าง 45 แล้ว ส่วนใหญ่งานติดต่อมาเป็นละคร หนังก็มี แล้วก็เป็นงานเพลง ซึ่งผมก็มีเพลงที่ทำไว้ตั้งแต่ 9 ปีที่แล้ว เพื่อเป็นการสั่งลา คือเราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เราจะอยู่หรือเปล่า แต่เราก็อยากจะมีเพลงเพลงหนึ่ง ที่เราอยากจะฝากทุกคนไว้ มันต้องฟังครับ ชื่อเพลง แสงแห่งดวงอาทิตย์ (Sunshine)
แต่งเองครับ ทำเสร็จแล้ว ตอนนี้อยากจะหานางเอก MV แล้วก็ทำดนตรีใหม่ ร้องใหม่ ลงทุนเองครับ เมื่อ 9 ปีที่แล้วจ้างนักดนตรีของแกรมมี่มาเล่น โปรดิวเซอร์ก็แกรมมี่ครับ ทำในห้องอัดเรียบร้อยแล้ว เป็นมาสเตอร์ แต่เก็บไว้ในยูทิวบ์ อีกไม่นานน่าจะได้ดูกัน ให้เพลงของเบลล์ดังไปก่อน นางเอก MV ตอนนี้กำลังเฟ้นหา เพราะส่วนใหญ่แฟนคลับผมหน้าตาดี”
พร้อมกลับมาทำงานในวงการบันเทิงไหม ต้องให้ทุกคนตัดสิน ว่าตัวเองดูมีสติและพูดรู้เรื่องไหม
“ถามว่าพร้อมไหม ถึงตอนนี้ก็ให้ทุกคนตัดสินใจว่าผมพูดรู้เรื่องไหม หรือว่าทุกคนยังมีความคลางแคลงใจอยู่ หรือจับผิดว่าต้องดูไปเรื่อยๆ ก่อน หรือผมพูดอะไรแบบไม่มีสติสัมปชัญญะ (มันเป็นปมในใจเรา?) ที่ผ่านมามันกลายมาเป็นคนเชื่อสื่อไงครับ แต่ผมไม่โทษแล้วนะ หมายถึงว่าเราผ่านเรื่องราวเก่าๆ ไปแล้ว เราเอาตอนนี้ดีกว่าว่าเราเป็นคนใหม่แล้ว”
ตั้งรับกับคอมเมนต์ลบ แต่พลาดไปอ่านก็จิตตกเหมือนกัน
“ถามว่าตั้งรับได้ดีไหม ผมพลาดเข้าไปอ่านก็จิตตกเหมือนกัน ต้องยอมรับว่ากระแสความคิดมี 2 ทาง มีทั้งให้กำลังใจและซ้ำเติม ผมพยายามที่จะเอาตาไปมองข้างบน ไปมองดอกไม้สวยๆ มองเมฆสวยๆ มองทะเลสวยๆ มองธรรมชาติที่ไม่วุ่นวายกับกระแสความคิด แล้วก็นั่งสมาธิสวดมนต์ ทำบุญ ให้อาหารลิง ให้อาหารปลา ให้อาหารสัตว์อะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ในธรรมชาติที่เขามีความสุขของเขา เราก็เอาความสุขของเราไปแบ่งปันเขา มีเงินผมก็ไม่ได้คิดว่าเก็บไว้กับตัวเอง ผมก็คิดว่าผมได้เงินมาก็ผมอยากช่วยแบ่งปัน”
กลับมาครั้งนี้ปรับลุคให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น พร้อมกับลดน้ำหนัก
“อาจจะทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ลดน้ำหนัก แต่ว่าตัวเองยังมีความสนุกอยู่ จริงๆ แล้วความเป็นตัวผมเป็นคนที่สนุกสนาน ร่าเริง ขี้เล่น แต่แค่ว่ายังไม่ถึงเวลาที่ผมจะโชว์อะไรอย่างนั้น”
สภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว มีคุณหมอให้คำปรึกษาตลอด
“ที่ผ่านมามีคุณหมอจากโรงพยาบาลโทร.มาจะให้คำปรึกษา ถ้ามีอะไรเครียด ถ้ามีกระแสทางโซเชียลก็อย่าไปติดตามมากเพราะเดี๋ยวจะทำให้จิตตก แล้วก็มีได้พูดคุยกันถึงอาการเดิมที่มีซึมเศร้า ตอนนี้ยังเศร้าไหมหรือว่าหายแล้ว แต่จริงๆ ผมขอบอกตรงๆ ว่าไบโพลาร์หรือซึมเศร้าหรืออะไรที่เป็นอีกขั้วหนึ่งเป็นอาการสองขั้วทางสมอง หรือสารเคมีไม่ตรงกันก็แล้วแต่นั่นคือทางวิชาการ แต่ในทางธรรมชาติก็คือมนุษย์เรามีอารมณ์ดีก็อารมณ์ดี เจอเรื่องราวดีๆ ก็มีความสุข ถ้าเจอเรื่องเศร้าๆ มันก็เศร้า เพราฉะนั้นมันเป็นเรื่องปกติของธรรมชาติของมนุษย์ว่ามีทั้งดีและไม่ดี มีทั้งแฮปปี้และซึมเศร้า เจอเรื่องเศร้ามันก็เศร้าเราจะไปห้ามก็ไม่ได้ แต่แค่ว่าในทางธรรมะก็ว่าเราต้องเดินสายกลาง เศร้าก็เศร้าแป๊บ สุขก็สุขแป๊บ เดี๋ยวมันก็หาย”
สิ่งที่น่าห่วงตอนนี้ คืออาการกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทเรื้อรัง ต้องทำกายภาพบำบัด
“ถามว่ามีอะไรน่าเป็นห่วงไหม ก็มีครับ น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องสุขภาพตัวเอง เนื่องจากวัยเลยล่วงมาครึ่งคนแล้ว เหลือเวลาอีกครึ่งชีวิตที่จะทำอะไรทิ้งไว้ ที่ผ่านมาคือสู้ชีวิตมาก ลากของ ขายของมือสองก็กระเป๋าเยอะก็ต้องแบก ทีนี้ด้วยความที่เคยเกิดอุบัติเหตุนานมาแล้ว ตอนนั้นที่รถระเบิด ก็ทำให้กระดูกสันหลังทับเส้นประสาทเรื้อรัง ก็เริ่มมีอาหารมาสักระยะแล้ว หมอก็บอกว่าให้รีบรักษาซะ ต้องมีนวด แล้วก็ออกกำลังกายด้วย เพราะว่าถ้าปล่อยให้เรื้อรังนานกว่านี้ก็อาจจะเดินไม่ได้ แต่ผมก็ไม่กังวลว่าจะเกิดปัญหากับการทำงาน ก็อย่าไปแบกของหรือยกของผิดท่า ออกกำลังกายพอประมาณ ทำอะไรก็ได้ให้มันพอดีๆ”
ขอบคุณคนรอสนับสนุนให้ขายของ แต่ตอนนี้ยังไม่เจอสิ่งที่ตอบโจทย์
“ขายของยังเลยครับ เพราะเอางานตัวเองด้วย เอาชีวิตตัวเองไว้ด้วย ผมจะไปตามใจคนอื่นว่ามาไลฟ์สดขายของหน่อยหรือจะขายอะไร แต่ผมขอบคุณที่ทุกคนเปิดใจให้ รอสนับสนุนว่าจะขายอะไรสักอย่างก็ขายในช่วงที่ทุกคนกำลังให้โอกาสและเห็นใจ ผมขอบคุณนะครับ
จริงๆ ผมก็อยากจะขาย แต่ถ้ายังทำไม่เรียบร้อย ถ้าคุณภาพสินค้ายังไม่ตอบโจทย์หรือทำไปแล้วอาจจะมีปัญหา ขอเป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบว่าทำอะไรออกมาก็ต้องไม่หลอกกัน ถ้าเป็นสินค้าก็ต้องดีจริงๆ ถ้าผมชอบเที่ยวอาจจะเปิดบริษัทท่องเที่ยว ถ้ามีโอกาสว่างๆ ก็อยากจัดคอนเสิร์ต รวมตัวศิลปินหรือเพื่อนๆ ในวงการร่วมกัน เพิ่งประกาศไปว่าเมษายนจะจัด เพื่อที่จะดึงสายบุญไปให้อาหารช้างที่แถวๆ จังหวัดลำปาง และเชียงใหม่”
ของมือสองยังกลับไปขายได้ แต่ตอนนี้มีถ่ายรายการท่องเที่ยวอยู่
“จริงๆ ไปได้ แต่ที่ผ่านมาผมขึ้นเหนือ ไปอีสาน แล้วไปถ่ายทำรายการท่องเที่ยวของตัวเอง ไปถ่ายบนภูเขาที่เป็นอันซีนที่จังหวัดเชียงราย ก็ไปจริง เกือบตายมาแล้ว เกือบตกเหว ก็ถ่ายหมดแล้วรอใครมีฝีมือในการตัดต่อก็มาช่วย ผมก็พาไปดูธรรมชาติ ก็รอตัด ฝากติดตามในติ๊กต๊อก เฟซบุ๊ก และถ้ายูทิวบ์เสร็จค่อยปล่อยโปรโมตกันอีกที”
เคลียร์ประเด็นซื้อรถมือสอง หลังคนเข้าใจว่ากลับเข้าวงการไม่นาน แต่ชีวิตดีขึ้นแล้ว
“ไม่ใช่เลยครับ ผมยังไม่ได้รับงานอะไรเลย มีแค่ถ่ายมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ กับถ่ายรีวิวเต็นท์รถ รีวิวว่ารถรุ่นนี้เป็นยังไงในยุค 90's ก็คือด้วยความที่ผมผ่านรถมาเยอะในสมัยก่อน และมีความชื่นชอบในสายรถ ดังนั้นพอมีคนติดต่อมาให้ผมพูดเกี่ยวกับรถ มันก็พอดีเลยเป็นความรู้เก่าที่เราได้นำมาใช้ ส่วนเรื่องรถที่ออกมา ก็... ผมคิดว่าขอเป็นเรื่องส่วนตัวบ้างนิดหนึ่ง เพราะจริงๆ ตัวผมเองก็มีงานที่ผมทำอยู่ เพียงแต่เราไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่องเท่านั้นเอง
เวลาไปต่างจังหวัดก็นั่งเครื่องบินบ้าง ขับรถไปเองบ้าง นั่งรถทัวร์บ้าง และก็ยังอยากนั่งรถไฟเหมือนเดิม คือผมสามารถเดินทางได้ทุกรูปแบบ แม้แต่การเดิน 10 กิโลฯ 20 กิโลฯ ถ้าจังหวะที่ไม่มีเงินก็เดิน (ก็คือไม่ได้มีรถส่วนตัว?) ถ้าเรื่องรถ จริงๆ ก็มีพี่ๆ หลายคนที่เขาเสนอว่า ริวมาเลย มาเชียงราย เอารถให้ใช้ไว้หนึ่งคัน ก็คือผมไม่ต้องซื้อ ไปที่ไหนก็มีคนบอกว่า เอารถไปใช้นะ ไม่ต้องเสียเงินค่ารถ หรือบางครั้งก็จะบอกว่า ริวมานี่นะเดี๋ยวโอนค่าตั๋วเครื่องบินให้ คือบางคนเขาคิดถึงอยากเจอผม เพื่อนๆ อยากเจอหน้ากัน ซึ่งบางคนเขาพอมีฐานะ แต่ว่าตัวผมเองไม่เคยขอเงินใครนะครับ”