ปัจจุบันเรื่องของมนุษย์ต่างดาวมีเกิดขึ้นเป็นข่าวจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้สังคมเริ่มสนใจศึกษาเรื่องนี้กันเป็นจำนวนมาก ไม่มองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป ล่าสุดรายการโต๊ะหนูแหม่ม ได้เชิญ “ท๊อฟฟี่ สาทบาทห้าสิบ” หรือ “ท๊อฟฟี่ ศิวดล” มานั่งพูดคุยถึงเรื่องราว และหลักฐานต่างๆ ของมนุษย์ต่างดาวแบบเจาะลึก รวมไปถึงเหตุผลที่เขาออกมาให้เราเห็นเพื่ออะไร ซึ่งไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อน
เราเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวบ่อย?
“ผมเคยเห็นตั้งแต่เรียนปวช.แล้วครับ ลักษณะที่เห็นบ่อยที่สุดคือกลุ่มดาววิ่งออกไปจะเป็นลักษณะเหมือนดาวเคลื่อนไหว เหมือนดาวดวงหนึ่งวิ่งได้ไม่กระพริบ ซึ่งเครื่องบินเรารู้อยู่แล้วตัดไปได้เลย ดาวเทียมก็ตัดไปได้เพราะเรามีแอปฯ ดูดาวเทียม ซึ่งดาวเทียมที่อยู่นอกวงโคจรเราเห็นเลย แต่เราจะไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาวเขาจะเป็นลักษณะคล้ายดวงดาวดวงหนึ่งอยู่ที่เราขอให้ใหญ่ขนาดไหน จริงๆ แล้ว UFO ความหมายตรงตัวอยู่แล้วมันคือวัตถุบิน ซึ่งไม่รู้ได้ว่ามันคืออะไร เพราะฉะนั้นเราก็ยังระบุไม่ได้ ซึ่งเรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า”
ส่วนใหญ่เห็นที่ไหน?
“แล้วแต่ว่าเราอยากเห็นที่ไหน ซึ่งสามารถเลือกได้เลย และผมใช้คำนี้มาหลาย 10 ปี แล้วเราจะมีกลุ่มของเราอยู่เพื่อนของเราจะรู้อยู่แล้วว่าถ้าอยู่กับยังไงก็ได้เจอยังไงก็ได้เจอ ซึ่งผมสามารถทำให้คน 40 คนที่ไม่เชื่อเขาเห็นและจนเป็นข่าว ก็คือเป็นการเชิญของกลุ่มผม”
ทำไมเราถึงสื่อสารได้?
“ตามความรู้สึกผม ผมคิดว่าเขาน่าจะอยากให้ผมเป็นพีอาร์ หรือเป็นทูต หน้าที่ของเราจะไม่ได้ตามข้อมูลแบบพี่พีท ทองเจือ ฝ่ายข้อมูลจะยกให้เป็นเขา สิ้นเดือนข้อมูลแน่นมากวิชาการศัพท์ทางวิชาการเขาค้นหา แต่เราไม่มีอะไรเลยนอกจากอยากดูไหมถ้าอยากไปกับผมเดี๋ยวผมพาไปดู”
ขั้นตอนการที่จะไปดูต้องเป็นยังไงบ้าง?
“ก็เห็นได้ทั้งกลางวันกลางคืน เพราะว่าถ้าข้างล่างมืดข้างบนจะสว่าง ก็มีหลายครั้งที่เขาถ่ายติดตอนกลางวัน อย่างเช่น ที่เชียงใหม่ขอนแก่นก็เป็นกลางวัน ของจริงหมดเลยใหม่เราต้องแยกแยะว่าต่างดาวไหม ของจริงอาจจะเป็นบอลลูนกดอากาศของจีนที่มันโดนยิงตก แต่อย่างที่บอกว่าสี่ครั้งสามครั้งแรกมันอาจจะเป็นบอลลูน แต่ครั้งสุดท้ายเป็น UFO”
ตอนที่เห็นครั้งแรกเป็นแบบไหน?
“เห็นครั้งแรกที่บ้านลุงเชิด ซึ่งปัจจุบันตอนนี้ท่านเสียชีวิตไปแล้ว ตอนนั้นผมยังเด็กเขาบอกว่าผมเป็นคนที่สื่อสารกับต่างดาวได้ ยุคนั้นชื่อดังๆ ก็จะมี ดร.เทพพนม เมืองแมน แล้วก็มีลุงเชิดอีกท่านหนึ่ง ความโชคดีของผมคือตอนนั้นเราอยู่ชัยนาท และลุงเชิดอยู่สิงห์บุรีใกล้กัน เราก็เลยขอยืมรถน้าไปดูว่ามีจริงไหม แล้วเราก็ชอบซื้อหนังสือ UFO อ่าน เราคิดว่าตอนนั้นมันน่าค้นหาและคิดว่ามันไม่ได้แค่มนุษย์ที่อยู่บนโลกเราก็เลยลองไปหาลุง อยู่ๆ ลุงก็เอาข้อมูลให้ดูว่าเขามาจากดาวดวงไหนกินอะไรเป็นอาหาร ซึ่งเราบอกคุณลุงว่าอยากเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งตอนที่มาคุณลุงก็ชี้ให้ดูว่ามันนานแล้ว ซึ่งเขาบินไปผ่านดวงจันทร์แล้วเขาก็บินผ่านหัวเราไป
วินาทีแรกที่เห็นเป็นยังไง?
“เราขนลุกตกใจ เพราะเราไม่เคยเห็นวัตถุแบบนี้มาก่อนในชีวิต เคยเห็นแต่เครื่องบิน”
เคยสงสัยไหมว่าเป็นอะไร?
“สมัยก่อนเขาอาจจะคิดว่าเป็นผีพุ่งใต้ แต่นี่เขาบินไปช้าๆ ให้งงกันไปเลยว่าไม่เชื่อใช่ไหม เป็นยังไงล่ะ ทำให้เชื่อไปเลย ก็เห็นครั้งแรกก็รู้สึกเชื่อไปเลย แต่เราพูดกับใครไม่ได้ เพราะยังเป็นเด็กอยู่ ย้อนไป 20 กว่าปีมันคงไม่มีใครเชื่อ เพราะถ้าคุณไม่เชื่อก็ไม่เชื่ออยู่วันยังค่ำ ซึ่งไม่ต้องมาถามว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ และเราคุยกับใครไม่ได้เราก็เลิกคุยเลย ณ ตอนนี้ก็ 20 กว่าปีคิดถูกเก็บเรื่องนี้มา”
ทุกครั้งที่ไปดูต้องจุดธูปเพื่ออะไร?
“ผมเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าการจุดธูปเป็นการจุดบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็คือเราไปใช้พื้นที่ตรงนั้นอาจจะเป็นป่าหรือเขาหรือมีเจ้าที่เจ้าทาง ซึ่งเราก็ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางก่อนแล้วเราก็ผสมผสานกลมกลืนกันโดยแยกไม่ออกแล้วซึ่งเราก็เชื่อว่าผีมีจริง เพราะฉะนั้นตามหลักของเราเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เราต้องไปลามาไหว้ต้องขอเจ้าที่เจ้าทางตามความเชื่อที่เราถูกปลูกฝังมาให้เปิดทิศเปิดทางให้ อย่าให้เราทำภารกิจล้มเหลวให้ท้องฟ้าที่มืดมิดเปิดเผยหน่อย”
มนุษย์ต่างดาวมาให้เราเห็นเพราะอะไร?
“เท่าที่รับจากการสื่อสารมาก็คือเขามาเตือนภัยพิบัติที่มันจะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ หรือจากที่มันจะเกิดจากฝีมือมนุษย์จากเทคโนโลยี จากการทำลายทรัพยากรของเราด้วยมนุษย์เราเองมันจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นโลกเราก็มีดาวดวงหนึ่งที่มีทรัพยากรมหาศาลและสมบูรณ์มาก เพราะถ้ามันเกิดความเสียหายกับโลกมนุษย์เหมือนยุคไดโนเสาร์ขึ้นมามันจะส่งผลกระทบถึงพวกเขาด้วย เขาจำเป็นต้องประคับประคองให้โลกเรามันอยู่อย่างนี้ไปนานๆ”