ดุดัน ไม่เกรงใจใครสมกับบทบาท มาเฟียสายหล่อ "เจมส์ มาร์" ลีลาแอ็กชั่นในละครบู๊ปนหวาน "เพราะรัก" ผลิตโดย ชลลัมพีบราเธอร์ ช่อง 3 กด 33 ออกมาแต่ละฉากแต่ละซีน หล่อเท่สุดๆ ซึ่งเรื่องนี้ เจมส์ มาร์ ได้ร่วมดีไซน์ท่าบู๊แอ็กชั่นเป็นท่าหล่อไม้ตายใส่ในละคร โดย เจมส์ มาร์ ได้เล่าถึงเรื่องนี้ให้ฟังว่า…
"สำหรับฉากบู๊ฉากแอ็กชั่นที่เราได้เห็นในเพราะรักกัน มันมาจากความตั้งใจและการทำการบ้านร่วมกัน ผมก็เอาไอเดียมาเสนอพี่ต้องผู้จัด เรื่องท่าทางการยิงใดๆ เพราะผมเป็นคนชอบเล่นเกม เกมที่มันต่อสู้ก็จะได้เห็นท่าเท่แนวๆ จากในเกม เลยมาขายไอเดียพี่ต้อง จุลวุฒิ ที่ภูมิใจนำเสนอเลยก็น่าจะเป็นท่ายิงปืนสองมืออะไรแบบนี้ พอลงสนามจริงถ่ายทำยิงเดือด ลีลาท่าทางองค์ลงครับ อยากให้ติดตามความสนุกความเข้มข้นของเพราะรักด้วยนะ
ความบู๊ ด้วยความที่ผมชอบดูหนังแอ็กชั่นชอบเล่นเกม ก็จะเสนอพี่ต้อง อยากให้มีระเบิด ขอปืน 2 กระบอก พี่ต้องก็ซื้อเกือบหมด เป็นโปรเจกต์ที่สนุกที่เราได้เสนอเข้าไป ในเรื่องจะมีความขัดๆ หลายอย่าง ด้วยบทดรามาแต่พอมาถึงหน้ากองเขาอยากให้เล่นเป็นสีชมพู มันไม่ใช่ความขัดแย้งแต่มันคาดไม่ถึง หลายอย่างเราก็ไม่เคยแสดงแบบนั้น เช่น ฉากที่อ้อนเขา ขอให้เขามาสนใจ สิ่งที่ทุกคนจะได้เห็นคือฟีลลิ่งการแอ็กติ้งแบบใหม่ๆ จากตัวผม ที่ผ่านมาอาจจะบู๊ เท่ นิ่งเรื่องนี้อาจจะขี้เล่น กะล่อนเบาๆ จะมีทั้งกรุ้มกริ่ม อ้อน โมโหดุดัน บังคับ ก็ฝากเรื่องเพราะรักด้วยนะครับ ตอนนี้กำลังสนุก ทุกวัน พ.-พฤ. ทางช่อง3”
รีวิวชีวิตวัย 30 ใจเย็น เอ็นจอยชีวิต ทุกอย่างไม่ต้องดีที่สุด
“คิดว่าตอนนี้ใจเย็นมากขึ้นเยอะ ไม่รีบกับอะไรเลย แล้วก็เป็นคนที่สโลไลฟ์มากขึ้น ไม่มายด์ที่จะอยู่บ้าน ไม่ต้องออกไปกินข้าวนอกบ้าน ทำอะไรสโลว์ๆ เลย เอ็นจอยกับสิ่งเล็กๆ ที่ทำ สมมติถ่ายละครต้องตื่นตี 5 ก็ดีรถไม่ติด นัด 10 โมง ผมเจอรถติด ผมอาจจะบอกพี่ว่ารถมันติดนะ นัดผมเช้าไหม เป็นคนเอ็นจอยกับการใช้ชีวิตสโลไลฟ์ มีมุมมองที่ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดก็ได้ ทำทุกอย่างให้มันเอ็นจอย และอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด”
ยังไม่มีแฟนเพราะคิดเยอะเรื่องความรัก ไม่อยากผิดหวัง
“ยังไม่มีเลยครับ ถามว่ามีจีบสาวไหม ผมไม่ค่อยจีบเหมือนคนอื่น ถ้าผมชอบใครสักคน มันคงเป็นเรื่องของจังหวะ ณ ตอนนั้นที่ความรู้สึกมันเปลี่ยนแล้ว ค่อยเปลี่ยนสถานะถ้าเป็นไปได้ เป็นวิธีที่ดีที่สุด มันน่าจะนำพาความสม่ำเสมอ หมายความว่าคิดแล้ว ถามใจตัวเอง ดูหลายๆ อย่าง ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้นมาตลอด คือเป็นคนที่คิดเยอะนิดนึงเรื่องแบบนี้ เพราะไม่อยากรู้สึกผิดหวังเลยอยากทำให้มันชัวร์ที่สุด ที่ผ่านมาอาจจะใช้เวลานานไป จนมันเลยไม่มี (หัวเราะ) มาถึงทุกวันนี้”
ผู้หญิงของ “เจมส์ มาร์” เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อมาคบกัน
“เป็นตัวของเขาเองมากที่สุด ไม่ต้องทำอะไรเพื่อเข้าหาเราเลยครับ ถ้าเกิดมันใช่ แล้วอยู่ด้วยกันได้ ผมชอบแบบนั้นมากที่สุด ยิ่งคนคนนั้นเขามีความชอบของเขา มีเสน่ห์ในงานของเขาที่ชัดมาก ไม่ต้องเป็นแบบที่ผมชอบ เป็นแบบคุณนั้นล่ะดีแล้ว ส่วนตัวผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมชอบแบบไหน
ผมไม่ได้กะเกณฑ์อะไร ผมคิดว่าถ้าเราไม่มีสเปก เราก็ยิ่งได้เรียนรู้คนคนนั้น ในแบบที่เขาเป็นจริงๆ ถ้าเรามีสเปก บางทีพอมีอะไรมา มันจะทำให้เราเหมือนมีกรอบ ผมไม่อยากตีกรอบเรื่องแบบนี้เพราะว่าถ้าเกิดกรอบเราไม่ตรงกับเขา มันก็อาจที่จะมีปัญหาได้ ในอนาคต”
ที่ผ่านมามองใครไว้สุดท้ายก็แห้วตลอด
“ที่ผ่านมามันเคยมีความรู้สึกนี้บ้างอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ได้ชัดมาก อย่างที่บอกว่าคิดเยอะจนผ่านไปแล้วเลย เขาเลยไปแล้ว หรือว่ายังไม่ทันได้คิด หรือว่าคิดนานจนรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ส่วนใหญ่มันจะไม่ใช่มากกว่า เพราะว่าเรารู้สึกว่า ณ ตอนนั้นที่มันเกิดขึ้น เรายังดูแลเขาได้ไม่ดีพอ เพราะว่าเราก็ไม่ได้บอกเขาด้วย เราตัดสินใจว่าเรายังดูแลเขาได้ไม่ดีพอ
กลัวว่าจีบเขาไปแล้วจะเสียเพื่อน แต่หลักๆ ผมไม่ได้มองมุมนั้น เรามองว่าเรายังดูแลเขาไม่ได้ เวลามันยังไม่ตรง คิดว่าหลายๆ อย่างไม่ตรงกัน ให้เป็นความรู้สึกแบบนั้นดีกว่า แล้วมันก็เลยไป”
กับ “พาย รินรดา แก้วบัวสาย” ยังต้องใช้เวลาหวังว่าโมเมนต์ดีๆจะเกิดขึ้นในอนาคต
“ทุกอย่างของน้องเขาสุดยอดมาก เขาเพียบพร้อม เขาน่ารัก เราดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับเขา รู้จักกัน หวังว่าถ้าเวลามันผ่านไปสักพักหนึ่ง แล้วมันมีโมเมนต์นั้น ก็หวังว่ามันจะเกิดขึ้นครับ ถ้ามันเปลี่ยนไปจริงๆ ตอนนี้ให้มันเป็นแบบนี้ไปก่อนดีกว่าครับ
คนรอบข้างเชียร์มาตลอด ไม่ใช่ว่าเชียร์กับใครคนใดคนนึง เชียร์ให้มันเกิดขึ้นอย่างที่บอกครับว่าเมื่อไหร่ที่มันเป็นจุดนั้นได้จริงๆ ผมก็จะมาบอกครับ ตอนนี้ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า
ตอนนี้โฟกัสเรื่องงาน โฟกัสเรื่องสิ่งที่มีอยู่แล้ว เป็นพี่น้องและเป็นเพื่อนร่วมงานที่มี ให้ความสำคัญกับเรื่องงานของเขา ให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ในเรื่องของงาน ส่วนเรื่องอื่นถ้ามันเปลี่ยน ตอนนี้เรายังค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าครับ”
คนรอบข้าง แฟนคลับเชียร์ให้มีแฟนได้แล้ว
“อย่างที่บอกว่าทุกคนอยากให้มีแฟน ให้คิดได้แล้ว ให้หาได้แล้ว เขาบอกว่าอายุก็มาถึงจุดนี้แล้ว ทุกคนรอบข้างก็มีแฟนกันหมดแล้ว ทุกคนก็รู้ว่าถ้าหาให้ผมมันไม่เวิร์กเพราะเขารู้กระบวนการคิด ถามไปเขาก็ปวดหัวเลยได้แต่เชียร์ได้แต่ลุ้นช่วยกระตุ้นนอกจากนั้นเขารู้ว่าช่วยอะไรไม่ได้ แฟนคลับก็อยากให้เรามีแฟน บางท่านก็มากระซิบว่าถึงเวลาแล้วนะ เหมือนผู้ปกครองมาพูด
ตอนนี้ถ้าโมเมนต์นั้นมา ผมก็พร้อมที่จะดูแลคนนั้นเต็มที่ที่สุด เพราะตอนนี้ก็อายุเยอะขึ้นแล้ว แต่อย่างที่บอกทุกครั้งเราก็คิดว่าเราพร้อมแต่พอถึงเวลาจริง เราก็ไม่พร้อมสักที มันก็เลยวงกลมของตัวเองอยู่ คิดว่าเราก็อยากให้มีโอกาสนั้นเหมือนกันครับ ซึ่งปีนี้อายุเข้า 30 ปีแล้วครับ บางคนเขาถึงขั้นจะแต่งงานแล้ว ผมไม่ได้กำหนดแน่นอน แล้วก็สบายใจที่จะเป็นแบบนี้ ค่อยเป็นค่อยไป
ผมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผมให้ความสำคัญไม่เหมือนคนอื่น คนอื่นอาจจะให้ความสำคัญกับการอยากลอง อยากเจอ อยากเรียนรู้ ผมให้ความสำคัญกับแนวคิดมากกว่าครับ อย่างที่ผมเคยพูดไว้หลายๆครั้งว่าถ้าเกิดเป็นคนๆนั้นก็อยากให้ คนคนนั้นเป็นคนที่ใช่ไปเลย ไม่อยากลอง อยากดูแลเขาไปให้นานๆ เลยแบบนั้นคร้บ”
เลือกที่จะเป็นคนไม่ต้องเก่งไปเสียทุกอย่าง
“สำหรับผม การที่ผมจะเก่งทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้ ผมคิดว่าผมมีความสามารถที่จะเก่งอยู่ไม่กี่อย่าง เพราะฉะนั้นผมเลยเลือกว่าอะไรเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ แล้วก็ทำสิ่งนั้นหรือรู้สิ่งนั้นให้มันลึกที่สุดเท่าที่เราจะรู้ได้ เพราะเราชอบความรู้สึกเวลามีคนมาถามเรา ในสิ่งสิ่งนั้นแล้วเราทำให้เขากระจ่างได้ ยกตัวอย่าง เล่นกอล์ฟ คือถ้าเกิดมีคนมาถามผมเรื่องกอล์ฟ แล้วเขากลับไปทำตามอย่างที่ผมบอก แล้วเขาตีได้ คือความรู้สึกของเขามันฟินมาก ไอ้ความรู้สึกของเขามันทำให้เรามีความสุข นึกออกมั้ย ถ้าเกิดผมเก่งอยู่ไม่กี่อย่างแล้วผมสามารถช่วยคนได้ในสิ่งที่ผมเก่ง ผมดีใจ”
เคยฝันอยากเป็นโปรกอล์ฟแต่ล้มเลิกไป เพราะอยากเล่นกีฬาเพื่อความสนุกมากกว่า
“ยังครับ ผมไม่ได้เทิร์นโปร ไม่ได้สอบ และคิดว่าคงไม่สอบ เพราะว่าเป็นแบบนี้โอเค บางที่การเป็นโปรมันจะมีกระบวนการ เป็นตำราที่ต้องสอบแบบนั้น ผมจะบอกทุกคนที่ผมสอนว่าถ้าจริงจังให้ไปเรียนกับโปร แต่ถ้าสงสัยอะไรให้มาถาม เห็นผมเป็นเหมือนเพื่อนที่จะถามมากกว่า ผมเล่นเพราะความสนุก และความชอบส่วนตัวมาตั้งนานแล้วครับ 10 ปีในการเล่นตลอดเวลา มีการลองผิดลองถูกมาหมดแล้ว ใครที่สงสัย เราก็เลยหาคำตอบให้เขาได้เร็วขึ้น
ผมเคยอยากจะเป็นโปรเหมือนกันครับ แต่พอมาถึงจุดนี้เวลาที่เราต้องให้กับการเป็นนักกีฬาจริงๆ มันมากกว่านี้อีกเยอะเลยครับ เราให้เวลาตรงนี้ไม่ได้ เลยเลือกที่จะมาเป็นคนที่กระจายและทำให้คนมาเล่นกอล์ฟเยอะๆ ดีกว่า แล้วก็เล่นเพื่อความสนุกของตัวเองด้วย ตอนนี้ก็ยังเล่นละครด้วย เราก็เลยขยับตัวเองมาอีกช่องหนึ่งของกีฬากอล์ฟ ไปเป็นนักกีฬากอล์ฟ พอเราไม่ได้อยากเป็นนักกีฬาเราก็ไม่คิดที่จะไปแข่ง เราก็ไม่ต้องเข้าไปซ้อมบ่อย อาทิตย์เล่นครั้ง สองครั้ง”
มีความสุขที่คอยอยู่ข้างหลัง ให้ความรู้ในเรื่องที่ตนถนัดและสนใจกับคนอื่นๆ
“ผมไม่ได้อยากขึ้นไปอยู่ด้านหน้าแค่อยากเป็นแบ็ก และไม่ใช่แค่กอล์ฟ มันยังมีอย่างอื่นที่ผมชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกม หรือว่าเรื่องที่ผมชอบไปเที่ยว ชอบเรื่องรถ เราก็รู้ประมาณนึง สามารถช่วยคนอื่นได้เมื่อเขามาขอคำปรึกษา ขอความช่วยเหลือจากเรา เพราะคิดว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เก่งขนาดนั้นที่จะไปอยู่แถวหน้า แล้วบอกทุกคนได้
เอาจริงๆ ผมเองก็ไปต่อในเส้นทางนั้นๆ ได้ แต่ผมเลืออกที่จะมีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ เวลาที่มีเราต้องให้กับการแสดง เพื่อนๆ ครอบครัวและอย่างอื่นๆด้วย การที่จะกระโดดไปตรงโน้น ก็เหมือนกับผมเริ่มเล่นละครเรื่องแรก คือเราต้องให้เวลากันมันเต็มที่ ตอนนี้เราเป็นแบบนี้ เรายังช่วยขึ้นอื่นได้”