xs
xsm
sm
md
lg

“อ๊อฟ ปองศักดิ์” เลี้ยงหมาฮีลใจ ซึมเศร้าดีขึ้นแล้ว แต่ยังกินยาอยู่ เหมือนมีสองคนในร่างเดียว ดีที่ดึงสติตัวเองทัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อ๊อฟ ปองศักดิ์” อัปเดตป่วยซึมเศร้าดีขึ้นมาก กินยามา 2 เดือน มีการปรับตามความเหมาะสม เล่าตอนดิ่งรู้สึกอยากตาย เหมือนมีสองคนในร่างเดียว หมอแนะนำเลี้ยงหมาฮีลใจ เลยเอามาเลี้ยง 3 ตัว พาเช็กสุขภาพเพราะชาวเน็ตทัก เลยรู้ว่าดัชชุนหูหนวก ไม่โกรธและไม่ส่งคืนฟาร์มเพราะรักไปแล้ว สื่อสารกันด้วยความรัก พร้อมดูแลให้ดีที่สุด

หลังเข้ารักษาอาการซึมเศร้า จนดีขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว ก็กลับมารับงานแบบรัวๆ สำหรับนักร้องเสียงดี “อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์” ที่ล่าสุดก็ไปจัดเต็มบนเวที ด้วยการแต่งเป็นแดร็กควีนสุดเซ็กซี่ขึ้นร้องเพลง วันนี้ (2 มี.ค.) ได้เจอหนุ่มอ๊อฟ ในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต 4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก #อสรพิษมิตรร้าย เจ้าตัวก็ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของโชว์นั้นให้ฟัง พร้อมอัปเดตสภาพจิตใจตอนนี้ ว่ายังต้องมีหาหมอเพื่อเช็กอัปกันอยู่เรื่อยๆ

“ที่เห็นอันนั้นเป็นธีมครับ เป็นมินิคอนเสิร์ตที่ร้านแดร็ก เพราะฉะนั้นก็เลยแต่งตัวให้เหมือนโชว์มันก็สนุกดีนะ รวมถึงคอนเสิร์ต 7 เซียนด้วยที่เราแต่งแบบนั้น อ๊อฟว่ามันสนุก ตลกดี เป็นภาพใหม่ๆ ที่อ๊อฟรู้สึกว่าตอนนี้โลกเปิดกว้างด้วย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

ไม่ต้องดูแลรูปร่างให้เหมือนผู้หญิง เพราะแต่งเป็นแดร็กควีน ไม่จำเป็นต้องตัวเล็ก ยากที่สุดคือการแต๊บ!
“อ๊อฟไม่ได้แต่งตัวเป็นผู้หญิง แต่แต่งตัวเป็นแดร็ก มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่เราไม่จำเป็นต้องตัวเล็ก (ตอนแต่งตัวยากไหม?) ยาก ยากที่สุดคือตอนแต๊บนี่แหละ ของใหญ่ไง(หัวเราะ) แล้วเป็นไฮคัตสูงมาก เราก็ต้องเก็บให้เรียบร้อย แล้วก็ไม่ใส่ถุงน่องด้วย เราก็ใช้เทปกาวหนังไก่นี่แหละ แปะแล้วก็ย้อนหลังไปเลย ทรมานมาก แต่เราแว๊กอยู่แล้ว มีการบวชอยู่แล้ว (หัวเราะ) อ๊อฟทึ่งมากกับพวกแดร็ก เพราะว่าเขาต้องทำอย่างนั้นทุกวัน ฉี่ก็ไม่ได้ ต้องเล่นโชว์ยันจบ การเข้าห้องน้ำคือสิ่งสุดท้ายที่เราทำ คือต้องเข้าห้องน้ำให้เสร็จ แต่งหน้าทำผมแล้วก็ค่อยแต๊บ ใส่ชุด”

แอบลุ้นกลัวแต๊บหลุด แต่เซฟดีสุดๆ แล้ว ไม่มีผลต่อสุขภาพ ฉี่ได้ปกติ ยังแข็งเหมือนเดิม
“ก็มีคนลุ้นเหมือนกัน ว่าจะหลุดออกมาหรือเปล่า แต่ว่าเราเซฟดีสุดๆ (แต่งแบบนี้บ่อยๆ มันมีผลต่อสุขภาพตรงนั้นไหม?) ไม่มี ยังฉี่ได้ปกติ ก็ยังแข็งปกติ (หัวเราะ) มันทำให้เราเข้าใจนะ ว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะว่าการที่ต้องแต่งหน้า แต่งแบบนั้นทุกวัน แล้วต้องโชว์อีก เราแค่ไปยืนร้องไม่ได้ ไปโชว์ท่าพิศดารเหมือนกับนักร้องแดร็กบางท่านที่เขาทำ”

งานจ้างปกติไม่ทำขนาดนี้ แต่ถ้าพร้อมจ่ายก็ยินดีทำให้
“ถ้าเป็นโชว์งานจ้างปกติ เราไม่ทำขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นโชว์ที่เป็นคอนเสิร์ตภายใน ที่เขาต้องการธีมแบบนี้ แล้วเขาพร้อมที่จะจ่ายเพิ่ม เราก็ยินดีที่จะทำให้แบบนั้น เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นการทำอะไรที่แปลกใหม่ เพลงที่เรานำไปโชว์ ก็จะแตกต่างจากงานจ้างปกติครับ”

อัปเดตการรักษาโรคซึมเศร้า ดีขึ้นเรื่อยๆ หมอนัดตลอด ปรับงานตอนเช้าเป็นตอนกลางคืน เพราะง่วงจนทำงานไม่ได้
“ตอนนี้ก็ดีขึ้น มีการปรับยาไปเรื่อยๆ คุณหมอก็นัดเช็กอัปเรื่อยๆ ฟอลโลว์อัปกันตลอด ก็ดีขึ้น แต่ก็จะมีอาการมึนงงนึดหนึ่ง เพราะว่ายามันทำให้เราง่วง มันเป็นยาปรับสารเคมีในสมอง และกดประสาททำให้ความอยากอาหารน้อยลง เราก็ต้องฝืนกิน เพราะไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีแรงในการทำงาน ตอนแรกหมอให้อ๊อฟกินยาหลังอาหารเช้า ซึ่งทั้งวันเราก็จะง่วงมาก ทำอะไรไม่ได้เลย อ๊อฟเลยไปคุยกับคุณหมอ ว่าขอพักยาได้ไหม คุณหมอบอกว่าปรับยาได้ ให้ไปกินก่อนนอนเลย ซึ่งกว่าที่เราจะกลับถึงบ้านก็ตีหนึ่ง กินยาตอนตีสอง แล้วคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะนอนไม่ค่อยหลับ มันจะคิดเรื่องไม่ดีต่างๆ ก็ต้องใช้ยานอนหลับอีก พอมีงานเช้าเราก็จะเบลอๆ นิดหนึ่ง”

กินยามา 2 เดือน ไม่รู้หายกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่การประเมินของคุณหมอ
“ไม่รู้เลยครับ เรื่องนี้ต้องถามหมอ เพราะว่าอ๊อฟเองทำตามที่หมอบอกตลอด เราก็ถามหมอนะว่ามีโอกาสหายไหม คุณหมอบอกเราก็ฟอลโลว์อัปไปเรื่อยๆ แล้วก็มีการปรับยา แล้วก็มีการคุยกัน ถ้าเขาเห็นว่าเราหยุดยาได้แล้ว เขาก็จะบอกให้เราหยุดยา ตอนนี้อ๊อฟกินยามา 2 เดือนแล้ว”

ยังกลัวการอยู่คนเดียว ตอนนอนต้องมีคนอยู่ข้างๆ หรือเห็นคนอยู่ในสายตา คุณหมอแนะนำให้เลี้ยงหมา ตอนนี้ก็มีอยู่ 3 ตัว
“จริงๆ แล้วมีปัญหาเรื่องของการอยู่คนเดียว เพราะเวลาอยู่คนเดียวเราจะรู้สึกเคว้ง แต่ก็พยายามอยู่ครับ ตอนนอนเราจะรู้สึกว่าเหงา ต้องมีคนอยู่ข้างๆ หรือว่าให้เราเห็นเขาอยู่ในสายตา พี่น้องคนในครอบครัวเข้าใจหมดเลย เพราะว่าวันที่อ๊อฟรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหว รู้สึกว่าตัวเองอยากจะตาย อ๊อฟก็วิ่งลงไปบอกพี่สาว ว่าพาอ๊อฟไปหาหมอหน่อย อ๊อฟไม่ไหวแล้ว

เราไม่เคยเป็นอะไรแบบนี้มาก่อน เรารู้สึกเหมือนว่าเราจะเป็นบ้า เหมือนในหัวเรามันมีสองคน ปกติอ๊อฟเป็นคนร่าเริง แต่พอหลังจากที่เราเจอเรื่องใหญ่มากๆ ในชีวิต แล้วเราไม่มีเวลาที่จะรักษาใจตัวเอง ทำให้มีร่างเศร้าอยู่ แล้วก็มีร่างสุขที่คอยเถียงกันอยู่ บังเอิญว่าวันนั้น ร่างเศร้ามันทำงานหนักมาก ร่างสุขของเรารู้สึกว่ามันเหนื่อยแล้ว เราเลยต้องวิ่งไปหาพี่สาวให้พาไปหาหมอ (เราดึงสติตัวเองได้เร็วมาก?) ใช่ๆ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร ร้องไห้ นอนไม่หลับ เป็นอยู่อย่างนี้

ตอนนี้ดีขึ้น แต่มันก็มีเศร้า อารมณ์สวิง ก็มีร้องไห้บ้าง คุณหมอให้อ๊อฟให้กินยาไปก่อน แล้วคุณหมอรู้ว่าเราชอบอยู่ในห้องคนเดียว ทำงานเสร็จอยากจะกลับบ้าน อยากอยู่คนเดียว พออยู่คนเดียวมันก็มีความเศร้าอีก คุณหมอก็แนะนำให้เลี้ยงน้องหมา ซึ่งมันก็ดีขึ้น เพราะเราได้ดูแลเขา แล้วเขาก็ได้เป็นเพื่อนเรา ตอนนี้มีน้องหมา 3 ตัว ชิวาว่า 2 ตัว ดัชชุน 1 ตัว

ซึ่งดัชชุนเป็นน้องหมาที่หูหนวก อ๊อฟมารู้ทีหลังว่าน้องหูหนวก เพราะว่ามีคน DM มาหา บอกว่าลองดูดีๆ เพราะว่าการที่ได้สีนี้ คือการเอายีนส์ด้อยกับยีนส์ด้อยมาผสมกัน มันอาจจะเกิดความพิการได้ ให้ลองเอาน้องไปเช็กดูที่ที่โรงพยาบาล เราก็ก็ลองดูเพราะว่าเราพาน้องไปฉีดวัคซีนอยู่แล้ว ก็เลยให้คุณหมอเช็กระบบประสาท ปรากฎว่าน้องหูหนวกร้อยเปอร์เซ็นต์ กล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรง เราก็ได้คุยกับทางฟาร์มแล้ว ซึ่งเรายืนยันว่าเราไม่คืน อ๊อฟจะเลี้ยงเพราะเรารู้ว่าเราดูแลเขาได้ดีกว่าที่ฟาร์มเลี้ยง เราก็ไม่รู้ว่าพอเขาเอากลับไปแล้ว เขาจะอยู่ยังไง เพราะหูก็ไม่ได้ยิน”

ไม่โกรธโดนหลอกขาย มาโกรธตอนเจ้าของฟาร์มบอกจะฟ้องคนคอมเมนต์ความจริง
“แว๊บแรกอ๊อฟไม่โกรธเลย แต่มันจะมีแว๊บหนึ่งที่เขาส่งข้อความมาว่าเขาจะฟ้องคนที่เข้ามาคอมเมนต์ด่าเขา ว่าเห็นแก่ตัว หลอกขายเอาเงิน แล้วเขาก็ส่งข้อความาหาเรา แว๊บนั้นอ๊อฟโกรธนิดหนึ่ง เพราะรู้สึกว่าคุณทำฟาร์ม คุณต้องรู้สิว่าทำแบบนี้มันส่งผลให้น้องพิการได้นะ แต่ว่าอ๊อฟยืนยันว่าไม่คืน เพราะเรารักไปแล้ว เราดูแลไปแล้ว แล้วน้องก็นอนกับอ๊อฟทุกคืน แล้วน้องขี้อ้อนมาก”

สื่อสารกับน้องด้วยความรัก เตรียมเอามาเลี้ยงเพิ่มอีก 1 ตัว
“เวลากลับบ้าน ตอนที่เรากดรหัสเข้าบ้าน ชิวาว่า 2 ตัวเขาก็จะมายืนรอเราหน้าประตู แต่น้องดัชชุน เขาก็อยู่ในโลกแห่งความเงียบของเขา เราก็ต้องไปสัมผัสเขาเบาๆ เพื่อไม่ให้เขาตกใจ พอเขาเห็นเรา เขาก็ขึ้นมานอนบนตักเลยตลอดเวลา เราก็ใช้ความรักในการสื่อสารกับเขา ซึ่งเราก็ดีใจนะ ที่เขาก็อึ-ฉี่เป็นที่เป็นทาง แต่เดี๋ยวจะรับดัชชุนมาอีก 1 ตัว เพราะรู้สึกว่าชอบ มันฮีลเราจริงๆ”

เตรียมใจรับการสูญเสีย เลยอยากทำให้ดีที่สุด ถือเป็นบุญที่ได้มาเจอกัน
เตรียมใจไว้แล้ว ด้วยความที่น้องมีความไม่ปกติ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมอบความรักให้เขามากกว่าปกติ และด้วยความที่เราก็เจอการสูญเสียมาเยอะแล้ว เราก็อยากที่จะทำให้ดีที่สุด น้องอยู่กับเราก็ถือว่าเป็นบุญของน้องและของเรา ที่มีโอกาสเจอกัน”











กำลังโหลดความคิดเห็น