“ปราง กัญญ์ณรัณ” เคลียร์ชัด “กึ้ง เฉลิมชัย” ไม่ได้จีบ ได้ดอกไม้ทุกคนหลังเวที ไม่มีอะไรในกอไผ่ ตอนนี้โสดร้อยเปอร์เซ็นต์ คนคุยเท่ากับศูนย์ รอเจอเดสตินี่แกล้งๆ มาเดินชนได้ ไม่เสียเซลฟ์โดนติเสียง-ชุดขึ้นคอนเสิร์ตยังไม่ผ่าน ตั้งใจพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว เสียใจที่สุดคือคนคอมเมนต์เพราะทะเลาะกันเรื่องตัวเอง
แม้จะผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ดรามาของนางเอกสาว “ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” หลังไปขึ้นคอนเสิร์ตการกุศล “รวมมิตร เฟส” ที่อิมแพคฯ ก็ยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะล่าสุดก็โดนชาวเน็ตวิจารณ์อีก ว่าเสียงกับชุดยังไม่ผ่าน แต่นอกเหนือจากประเด็นดรามา ก็มีเรื่องหวานๆ เหมือนกัน กับรูปคู่ที่ “กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ” มอบช่อดอกไม้ให้หลังเวที วันนี้ (1 มี.ค.) ได้เจอสาวปรางในงาน “Supersports Summer Fashion Show 2023” เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
“จริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นข่าวแบบนั้น เพราะว่าจริงๆ ทุกคนได้รับดอกไม้หมดเลยค่ะวันนั้น เหมือนพี่กึ้งเป็นคนจัดงานนั้นด้วย แล้วโพสต์นั้นที่ปรางโพสต์ เหมือนจะเป็นรวมทุกๆ อย่าง คนที่ไปเชียร์ พี่กึ้งเป็นเจ้าของงาน มีน้องไทแทน ที่เราไปร่วมฟีเจอริ่งด้วย แล้วน้องก็อยู่ 411 Music ค่ายพี่กึ้งด้วย ก็ได้ดอกไม้กันทุกคนค่ะ พี่ตูน บอดี้สแลม (อาทิวราห์ คงมาลัย) ก็ได้ดอกไม้ค่ะ ไม่มีอะไรเลยค่ะ จริงๆ ไม่อยากให้พี่เขามาอยู่ในข่าวเลย เพราะหนูยังโสดเหมือนเดิม พอลงไปก็อ้าว เป็นข่าวเฉยเลย ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นเลยค่ะ แต่พี่เขาก็ลงแล้ว ว่าพี่เขาให้ดอกไม้หมดทุกคน ก็สบายใจได้ค่ะ”
หลังจากเป็นข่าวไม่ได้ทักหา ไม่มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์
“ไม่ได้ทักเลย ก็เห็นพี่เขาลงรูปแล้ว ก็เข้าใจได้ว่าพี่เขาเคลียร์ชัดทุกประเด็น ก็คงไม่ต้องไปพูดอะไร ส่วนดอกไม้ในชีวิตจริงก็ไม่มีเลยค่ะ กับพี่กึ้งก็คือมารู้จักงานนี้แหละ ที่เราร่วมงานกับน้องไทแทน ไม่มีอะไรเลยค่ะ ไม่ได้จีบเลย ดอกไม้ช่อนั้นเป็นดอกไม้ที่ทุกคนได้เท่าๆ กันหมดค่ะ พี่กึ้งน่ารัก ดูแลดี ให้โอกาส หนูก็อยากจะขอบคุณด้วย ถามว่าเป็นสเปกเลยไหม (หัวเราะ) ก็ไม่มีสเปกค่ะ จีบได้หมด แบบไหนก็ได้ ทุกคนก็ชอบหมดแหละ คนที่เทคแคร์ดี น่ารัก ก็ได้หมดค่ะ เอาอย่างนี้ว่าโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ คนคุยเท่ากับศูนย์ โสดเหมือนเดิม ไม่ได้คุยกับใครเลย”
คนมาจีบเรื่อยๆ แต่ไม่ได้คุยกับใครเลย เพราะไม่มีเวลา
“มีคนมาจีบเรื่อยๆ ค่ะ แต่ก็ไม่คุยกับใครเลยไง คือตอนนี้ยุ่งมากๆ เลยค่ะ ยุ่งมากๆ ไม่มีเวลาไปเริ่มต้นคุยกับใคร ก็รู้สึกว่ายังไม่เริ่มคุยดีกว่า เพราะถ้าเริ่มคุยกับใคร เราก็ต้องเต็มที่กับเขาเหมือนกัน เหมือนให้โอกาสเขาแล้ว ก็น่าจะเปิดใจคุยกัน แต่ตอนนี้คือไม่มีเวลา จะบอกว่าปิดก็ได้ค่ะ”
เป็นช่วงที่มีคนเข้ามาเยอะที่สุดในชีวิต
“ใช่ค่ะ คนแนะนำ เพื่อนก็แบบไปกินข้าวกันไหม แล้วเดี๋ยวมีคนแนะนำให้รู้จัก คือหนูชอบอะไรที่มันเป็นธรรมชาติมากกว่า เดี๋ยววันหนึ่งถ้ามันเป็นเดสตินี่เดี๋ยวมันก็เจอ”
ชอบโดนจีบแบบ Y2K แบบเห็นหน้ากัน รักแรกพบ
“อยากให้มันเป็นไปแบบธรรมชาติ ไม่ได้มาจากการแนะนำ อยากให้เขาชอบเราแบบที่เราเป็น ถ้าเขาให้เพื่อนพามาแนะนำ มันเหมือนเขาเห็นเราจากข้างนอก ไม่ได้รู้จักโดยการทำงานด้วยกัน หรือบังเอิญเจออะไรแบบนี้ แกล้งๆ เดินชนก็ได้แล้วนะจริงๆ ถือเป็นเดสตินี่นะ แบบในละคร ตายแล้ว เดี๋ยวมีคนมาเดินชนทำไง (หัวเราะ) จริงๆ ก็ขอบคุณที่มีคนเข้ามา แต่ก็อยากทำความรู้จักกันไปก่อน อย่าลืมเราไม่มีเวลาให้”
หมอดูบอกช่วงนี้งานปัง เรื่องรักไว้มาดูใหม่ครึ่งปีหลัง
“จริงๆ มีโอกาสได้ไปดูหมอดูด้วย แล้วเขาก็บอกว่าให้ทำงานไปก่อน ช่วงนี้งานปังกว่า นั่นหมายความว่ายังไม่มี เขาบอกว่าเดี๋ยวมาดูใหม่แล้วกัน อีกครึ่งปีหลัง แสดงว่าครึ่งปีแรกยังไม่มีค่ะ ถามว่าเชื่อไหม ก็ถ้าไม่เชื่อจะไปดูเหรอ (หัวเราะ) ก็เจอหนูตอบคำถามแบบโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ไปก่อน จริงๆ ชอบดูดวงค่ะ แต่พอดูมาก็ลืมๆ ไปบ้าง ส่วนใหญ่ก็ดูเรื่องงาน เรื่องรักนี่แหละ แต่เป็นคนไม่ค่อยมูฯ ถ้าเขาบอกเรื่อยๆ ให้ทำงานไปก่อน เราก็ทำงานไปก่อน”
ไม่ซีเรียสคนติเรื่องเสียงในคอนเสิร์ตล่าสุด ตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว
“เอาจริงๆ ตอนแรกไม่เห็นคอนเมนต์แบบนั้น เพราะในอินสตาแกรมเราไม่มีแบบนั้น หนูก็เลยไม่รู้ตัว จนกระทั่งมันมีข่าวขึ้นมา แล้วคุณแม่เป็นคนเห็น ก็ส่งมาให้ดู เราก็เข้าไปดูในติ๊กต๊อก พอดูแล้วส่วนตัวปรางไม่เป็นอะไรเลย เพราะตอนที่เราทำงาน ทุกผลงานมันมีคนติคนชมอยู่แล้ว เพียงแต่เรื่องนี้มันถูกหยิบยกให้มาเป็นข่าวเฉยๆ แล้วมันก็มีทั้งคนให้กำลังใจ แล้วก็คนที่ติเรา แล้วก็มีคนที่เขาทะเลาะกัน คนหนึ่งช่วยเรา อีกคนว่าเรา ซึ่งหนูไม่อยากให้มันดรามา เวลาหนูไปร้องเพลง ก็แค่อยากให้ทุกคนมีความสุข พอมาเจออะไรแบบนี้ก็รู้สึกว่าไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เสียใจว่าแบบไม่ต้องทะเลาะกันค่ะ ติชมหนูมาได้เลย เราเองก็ต้้งใจที่จะพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว”
เสียใจที่สุดคือทำให้คนทะเลาะกัน
“ถูก ไม่อยากให้คนหยุมหัวกัน เพราะวันนั้นมันก็เป็นเรื่องราวดีๆ อยู่ในความทรงจำที่ดีของหนู พอมีคนมาดรามา มาทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ เราก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย มันเป็นความทรงจำที่ดี วันนั้นมันดีจริงๆ คนติคนชมหนูไม่เป็นไรเลยค่ะ เพราะตั้งแต่เล่นละครมาก็มีคนติคนชมอยู่แล้วเป็นธรรมดา”
ไม่เสียเซลฟ์ ถึงขั้นไม่กล้าร้องเพลงอีกแล้ว ถ้ามีเวลาก็อยากไปเรียนเพิ่ม
“หนูพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว ทุกๆ งานที่ได้รับ เราเต็มที่จริงๆ อยากให้เขารู้ว่าเราเต็มที่ อย่างวันนี้ลูกค้าเลือกเพลงที่หนูร้องไม่เป็น หนูก็โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูไปฝึก คือทุกอย่างมันต้องพัฒนาอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีคำติชม ก็ตั้งใจที่จะพัฒนาเรื่องการร้องเพลงอยู่แล้ว
ถ้ามีเวลาก็อยากไปเรียนนะคะ คนให้โอกาสเราเยอะจนเรามองข้ามไป ว่าเราจะไม่ท้อ เราจะไม่เสียใจกับแค่คำติ ว่าเสียเซลฟ์ไม่ร้องดีกว่า เพราะคนให้กำลังใจเราเยอะ เวลาไปร้องแล้วเห็นคนมีความสุขก็ดีใจ ก็อยากทำต่อไป ไม่ขาดความมั่นใจเลย มีแต่อยากทำให้มันดีขึ้น พอมีคนติเราก็รับฟัง เวลามีงานร้องเพลง จะกลับไปนั่งฟังเสียงตัวเองตลอด ดูที่คนแท็กมาให้ว่าเราร้องไม่ดีตรงไหน แล้วคราวหน้าจะปรับปรุงอะไรได้ แต่ทุกๆ ครั้งที่ไปร้อง ก็จะมีความคาดหวัง ว่าอยากให้ร้องเพลงนี้ๆ ก็ทำการบ้านแทบไม่ทัน ท่องเนื้อเพลงยิ่งกว่าท่องบทละครอีกค่ะ จ้างมาเลยค่ะ หนูพร้อมร้อง”
แจงดรามาโดนชุดแกง กระโปรงไม่ผ่าน เป็นแค่จังหวะที่ยกขา จากนี้คงต้องเช็กฟีดแบ็กจากทุกแพลตฟอร์ม
“จริงๆ มันมีหลายดีเทล ซึ่งมันก็ทำให้หนูเก็บไปคิด ซึ่งหลังจากวันงานมาก็ไม่มีคอมเมนต์อะไรแบบนั้น ก็รู้สึกว่ามันคงผ่านไปแล้ว แล้วก็เพิ่งมาเป็นข่าวอีกอาทิตย์หนึ่ง มันก็ทำให้เรากลับไปดูเหมือนกัน ว่าปัญหามันคือตรงไหน แต่จริงๆ มันเหมือนเป็นแค่พาร์ตหนึ่งมากกว่า ต่อไปนี้ออกงานจะดูแค่ในไอจีตัวเองไม่ได้แล้ว จริงๆ ก็มีติ๊กต๊อกนะ แต่ในคอมเมนต์ของตัวเองก็ไม่มี มันไปเป็นของคนอื่น
วันหลังก็คงต้องเสิร์จชื่อตัวเองจะได้เห็นมากขึ้น จากนอนตี 1 ก็ตี 5 เลยค่ะ (หัวเราะ) แต่จริงๆ ชุดนั้นมันสวย มันโอเคนะ พี่สไตลิสต์เขาตั้งใจทำทุกดีเทลให้ปราง แล้วมันก็เป็นงานเร่งด่วนด้วย ปรางว่ามันเป็นจังหวะที่ยกขาแล้วกระโปรงมันไม่ลงไปแค่นั้นเอง แล้วเราอยู่บนเวทีเราก็ไม่เห็นไง ไม่ได้มีใครมาบอกเราด้วย มันเป็นงานใหญ่ แต่ก็เป็นแป๊บเดียวค่ะ”